บมจ.ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) ผู้ทำธุรกิจ Event และ Exhibition มั่นใจยอดขาย-กำไรปีนี้โต 20% ปีหน้าโตอัตราเดียวกัน
นายพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) กล่าวว่าปีนี้ ซึ่งกำลังจะปิดงวดบัญชีวันที่ 31 ต.ค.คาดบริษัทจะเติบโตรายได้และกำไร 20% จากปีที่แล้ว
แม้ช่วงไตรมาส 3 ซึ่งปิดงบวันที่ 31 ก.ค.บริษัทรายได้ลดลง เนื่องจากช่วงดังกล่าว เป็นช่วง Low season ธุรกิจ Event และ Exhibition แต่บริษัทมีงานปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ให้หน่วยงานรัฐบาลทดแทนไตรมาส 3 และ 4 อยู่ระหว่างเจรจาอีก 3 โครงการ ทำให้สัดส่วนรายได้บริษัทจากงานภาครัฐ จะเพิ่มเป็น 20% ของรายได้บริษัททั้งหมดปีนี้ จาก 10% ปี 2547
"เราเชื่อว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะมีงานอยู่ระหว่างดำเนินการมูลค่า 220 ล้านบาท คาดว่ารายได้บางส่วนจะรับรู้ทันในไตรมาส 4 ปีนี้" นายพิเสฐกล่าว
ปี 2547 บริษัทมีรายได้ 642 ล้านบาท กำไร 41 ล้านบาท
ปี 2549 บริษัทยังคงหวังอัตราเติบโตรายได้และกำไร 20% เช่นกัน มั่นใจจะได้ตามเป้าหมาย แม้เศรษฐกิจจะชะลอ เนื่องจากบริษัทขยายให้บริการลูกค้า รวมถึงขยายกลุ่มลูกค้าไปกลุ่มธุรกิจอื่น จากที่เน้นทำ Event ให้ธุรกิจยานยนต์ 50% ของรายได้รวม อีก 10% มากธุรกิจสื่อสาร การเงิน และการธนาคาร 30% สอีก 10% จากงานส่วนรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน อื่นๆ อีก 10%
นายพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) กล่าวว่าปีนี้ ซึ่งกำลังจะปิดงวดบัญชีวันที่ 31 ต.ค.คาดบริษัทจะเติบโตรายได้และกำไร 20% จากปีที่แล้ว
แม้ช่วงไตรมาส 3 ซึ่งปิดงบวันที่ 31 ก.ค.บริษัทรายได้ลดลง เนื่องจากช่วงดังกล่าว เป็นช่วง Low season ธุรกิจ Event และ Exhibition แต่บริษัทมีงานปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ให้หน่วยงานรัฐบาลทดแทนไตรมาส 3 และ 4 อยู่ระหว่างเจรจาอีก 3 โครงการ ทำให้สัดส่วนรายได้บริษัทจากงานภาครัฐ จะเพิ่มเป็น 20% ของรายได้บริษัททั้งหมดปีนี้ จาก 10% ปี 2547
"เราเชื่อว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะมีงานอยู่ระหว่างดำเนินการมูลค่า 220 ล้านบาท คาดว่ารายได้บางส่วนจะรับรู้ทันในไตรมาส 4 ปีนี้" นายพิเสฐกล่าว
ปี 2547 บริษัทมีรายได้ 642 ล้านบาท กำไร 41 ล้านบาท
ปี 2549 บริษัทยังคงหวังอัตราเติบโตรายได้และกำไร 20% เช่นกัน มั่นใจจะได้ตามเป้าหมาย แม้เศรษฐกิจจะชะลอ เนื่องจากบริษัทขยายให้บริการลูกค้า รวมถึงขยายกลุ่มลูกค้าไปกลุ่มธุรกิจอื่น จากที่เน้นทำ Event ให้ธุรกิจยานยนต์ 50% ของรายได้รวม อีก 10% มากธุรกิจสื่อสาร การเงิน และการธนาคาร 30% สอีก 10% จากงานส่วนรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน อื่นๆ อีก 10%