แบงก์ชาติ (ธปท.) ขู่ใช้ ปว.58 เล่นงานบริษัทที่ตั้งขึ้นทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล
โดยไม่ได้รับอนุญาต 73 ราย ระบุโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ยอมรับกฎหมาย ธปท. ยังคลุมไม่ถึงการปล่อยกู้นอกระบบ
นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับสถาบันการเงิน และตรวจสอบสถาบันเฉพาะกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. อยู่ระหว่างหามาตรการจัดการบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ไม่ได้ยื่นขออนุญาต ธปท.
ปัจจุบัน บริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ยื่นเรื่องขออนุญาต ธปท. เพียง 26 บริษัท จากรายชื่อที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ทั้งหมด 100 บริษัท เหลืออีก 73 บริษัทที่ไม่ยื่นขอ
เขากล่าวว่า ธปท.จะลงโทษโดยใช้ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 (ปว.58) โทษสูงสุด จำคุก 1-3 ปี บริษัทเหล่านี้ ยังอาจเข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลของ ธปท.ด้วย
“ปัญหาคือ ของเราในขณะนี้คือ ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบบริษัทที่ไม่มาจดทะเบียน ใน เบื้องต้น ต้องดูว่ารู้ แต่ไม่มาขออนุญาต หรือไม่รู้จริงๆ ตอนนี้ ท่านผู้ว่าการแบงก์ชาติกำลังดูอยู่ เพราะมันยากที่จะเข้าไปจัดการกับพวกนี้ ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเขาผิดยังไง” นายพงศ์อดุล กล่าว
ธปท.ยังห่วงการปล่อยกู้โดยบุคคล เขายอมรับว่า ธปท.ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
“ผู้ที่ให้กู้โดยที่ไม่ใช่บริษัท คือบุคคลเป็นผู้ให้กู้ ที่ติดประกาศตามตู้โทรศัพท์ พวกปล่อย เงินผ่อน แต่ไม่สามารถเอาผิดกับเขาได้ เพราะยังคุมไม่ถึง จะจับได้เฉพาะที่ตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท หรือนิติบุคคลเท่านั้น'” นายพงศ์อดุลกล่าว
ด้านนายสามารถ บูรณวัฒนาโชค ผู้อำนวยการสายนโยบายความเสี่ยง และวิเคราะห์ ธปท. กล่าวว่าสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non-banks) ที่ไม่ได้ยื่นขออนุญาตตามกำหนด จะไม่สามารถประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังเปิดโอกาสให้ติดต่อขออนุญาตกับ ธปท.ซึ่งพร้อมจะรับพิจารณา รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ ที่ต้องการจะทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ระหว่างที่รอใบอนุญาต จะไม่สามารถประกอบธุรกิจได้
ส่วนธนาคารพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต ธปท.เพราะสามารถประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลได้ ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ควบคุมการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพ สถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่าที่ผ่านมา มีทั้งผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งรายเก่า และรายใหม่ เข้ามายื่น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากพอสมควร ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล คงจะทยอยส่งเรื่องเข้ามาเรื่อยๆ
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในไทย ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-banks) อาทิ บริษัท อิออน ธนสินทรพย์ (AEONTS) แคปปิตอล โอเค เซทเทเลม จีอี แคปปิตอล อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เป็นต้น
โดยไม่ได้รับอนุญาต 73 ราย ระบุโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ยอมรับกฎหมาย ธปท. ยังคลุมไม่ถึงการปล่อยกู้นอกระบบ
นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับสถาบันการเงิน และตรวจสอบสถาบันเฉพาะกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. อยู่ระหว่างหามาตรการจัดการบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ไม่ได้ยื่นขออนุญาต ธปท.
ปัจจุบัน บริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ยื่นเรื่องขออนุญาต ธปท. เพียง 26 บริษัท จากรายชื่อที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ทั้งหมด 100 บริษัท เหลืออีก 73 บริษัทที่ไม่ยื่นขอ
เขากล่าวว่า ธปท.จะลงโทษโดยใช้ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 (ปว.58) โทษสูงสุด จำคุก 1-3 ปี บริษัทเหล่านี้ ยังอาจเข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลของ ธปท.ด้วย
“ปัญหาคือ ของเราในขณะนี้คือ ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบบริษัทที่ไม่มาจดทะเบียน ใน เบื้องต้น ต้องดูว่ารู้ แต่ไม่มาขออนุญาต หรือไม่รู้จริงๆ ตอนนี้ ท่านผู้ว่าการแบงก์ชาติกำลังดูอยู่ เพราะมันยากที่จะเข้าไปจัดการกับพวกนี้ ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเขาผิดยังไง” นายพงศ์อดุล กล่าว
ธปท.ยังห่วงการปล่อยกู้โดยบุคคล เขายอมรับว่า ธปท.ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
“ผู้ที่ให้กู้โดยที่ไม่ใช่บริษัท คือบุคคลเป็นผู้ให้กู้ ที่ติดประกาศตามตู้โทรศัพท์ พวกปล่อย เงินผ่อน แต่ไม่สามารถเอาผิดกับเขาได้ เพราะยังคุมไม่ถึง จะจับได้เฉพาะที่ตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท หรือนิติบุคคลเท่านั้น'” นายพงศ์อดุลกล่าว
ด้านนายสามารถ บูรณวัฒนาโชค ผู้อำนวยการสายนโยบายความเสี่ยง และวิเคราะห์ ธปท. กล่าวว่าสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non-banks) ที่ไม่ได้ยื่นขออนุญาตตามกำหนด จะไม่สามารถประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังเปิดโอกาสให้ติดต่อขออนุญาตกับ ธปท.ซึ่งพร้อมจะรับพิจารณา รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ ที่ต้องการจะทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ระหว่างที่รอใบอนุญาต จะไม่สามารถประกอบธุรกิจได้
ส่วนธนาคารพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต ธปท.เพราะสามารถประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลได้ ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ควบคุมการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพ สถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่าที่ผ่านมา มีทั้งผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งรายเก่า และรายใหม่ เข้ามายื่น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากพอสมควร ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล คงจะทยอยส่งเรื่องเข้ามาเรื่อยๆ
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในไทย ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-banks) อาทิ บริษัท อิออน ธนสินทรพย์ (AEONTS) แคปปิตอล โอเค เซทเทเลม จีอี แคปปิตอล อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เป็นต้น