บริษัท กว้างไฟศาล (POMPUI) ชี้แจงกรณีที่ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นได้ต่องบการเงินของบริษัท เนื่องจากบริษัทขาดทุนสุทธิ 43.82 ล้านบาท และ 59.43 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. หนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน 734.79 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 753.35 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์จากลูกหนี้ผิดนัดชำระตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้บริษัทใหญ่ 730.32 ล้านบาท
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กว้างไฟศาล (POMPUI) กล่าวว่าได้ส่งงบการเงินไตรมาส 2 และ งวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่น (Unable to reach any conclusion)
เนื่องจากบริษัทขาดทุนสุทธิ 43.82 ล้านบาท และ 59.43 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. หนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน 734.79 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 753.35 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์จากลูกหนี้ผิดนัดชำระตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้บริษัทใหญ่ 730.32 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยความสามารถดำเนินงานของบริษัท
เหตุของผลปรากฏตามงบการเงินดังกล่าว เนื่องจากบริษัทถูกกำหนดให้ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากภาระหนี้ผิดนัดชำระบริษัทใหญ่เต็มจำนวน ตามงบการเงินปี 2547 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2547 ฉบับแก้ไข
บริษัทจึงได้เร่งรัดบริษัทใหญ่ ซึ่งเป็นลูกหนี้ ชำระหนี้คืนบริษัท ตามมูลหนี้ค้างจ่ายทั้งหมดภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2548 ซึ่งหากบริษัทใหญ่ชำระหนี้ค้างชำระคืนบริษัทได้ทั้งหมดตามที่กำหนดไว้ จะทำให้บริษัทมีความสามารถชำระคืนหนี้สถาบันการเงินได้ทั้งหมดด้วย
จะส่งผลส่วนผู้ถือหุ้นงบดุลบริษัท กลับมาเป็นบวกตามปกติ ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังปรับปรุงการดำเนินงาน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการบริษัท กำไรจากการประกอบการ ศักยภาพดีต่อไป
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กว้างไฟศาล (POMPUI) กล่าวว่าได้ส่งงบการเงินไตรมาส 2 และ งวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่น (Unable to reach any conclusion)
เนื่องจากบริษัทขาดทุนสุทธิ 43.82 ล้านบาท และ 59.43 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. หนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน 734.79 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 753.35 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์จากลูกหนี้ผิดนัดชำระตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้บริษัทใหญ่ 730.32 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยความสามารถดำเนินงานของบริษัท
เหตุของผลปรากฏตามงบการเงินดังกล่าว เนื่องจากบริษัทถูกกำหนดให้ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากภาระหนี้ผิดนัดชำระบริษัทใหญ่เต็มจำนวน ตามงบการเงินปี 2547 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2547 ฉบับแก้ไข
บริษัทจึงได้เร่งรัดบริษัทใหญ่ ซึ่งเป็นลูกหนี้ ชำระหนี้คืนบริษัท ตามมูลหนี้ค้างจ่ายทั้งหมดภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2548 ซึ่งหากบริษัทใหญ่ชำระหนี้ค้างชำระคืนบริษัทได้ทั้งหมดตามที่กำหนดไว้ จะทำให้บริษัทมีความสามารถชำระคืนหนี้สถาบันการเงินได้ทั้งหมดด้วย
จะส่งผลส่วนผู้ถือหุ้นงบดุลบริษัท กลับมาเป็นบวกตามปกติ ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังปรับปรุงการดำเนินงาน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการบริษัท กำไรจากการประกอบการ ศักยภาพดีต่อไป