บิ๊กซี (BIGC) ไตรมาส 2 ฟันยอดขายเพิ่ม 1,652 ล้านบาท กำไรสุทธิ 461.7 ล้านบาท เพิ่ม 30.5 ล้านบาท เพิ่ม 7.1% เทียบงวดเดียวกันปี 47 ที่กำไรสุทธิ 431.2 ล้านบาท จากสาขาเดิม-ใหม่ แม้เศรษฐกิจชะลอ ชี้เป็นผลจากการมุ่งเน้นเป็นผู้นำราคา-จำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เข้าถึงผู้บริโภคสม่ำเสมอ ครึ่งปีหลัง ยังคงจัดกิจกรรมการตลาด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำราคา จำหน่ายสินค้าหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษตลอดทั้งปี
นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ๊อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIC C) เปิดเผยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ ว่าบริษัทและบริษัทย่อย กำไรสุทธิ 461.7 ล้านบาท เพิ่ม 30.5 ล้านบาท เพิ่ม 7.1% เทียบงวดเดียวกันปี 2547 ที่กำไรสุทธิ 431.2 ล้านบาท
แม้ภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรกชะลอ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายซื้อของ แต่บิ๊กซียังคงเติบโตต่อเนื่อง ยอดขายช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นน่าพอใจ เป็นผลจากการตอบรับกลุ่มลูกค้าต่อภาพพจน์ความเป็นผู้นำราคาของบิ๊กซี
และการขายสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทั้งจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้า “ถูกสุดสุด” ที่ทุ่มไตรมาส 2 ในการโฆษณา และสร้างภาพลักษณ์ราคา ทำให้ลูกค้าตอบรับ รวมทั้งขยายสาขาใหม่ที่อ้อมใหญ่ ซึ่งเป็นช็อปปิ้งมอลล์เต็มรูปแบบ ที่ช่วยขยายฐานลูกค้า เป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตยอดขาย
บิ๊กซีรายได้รวม 15,244 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขาย 13,709 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันปี 2547 จำนวน 1,652 ล้านบาท เพิ่ม 13.7% รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท เพิ่ม 2.8% รายได้อื่น 1,023 ล้านบาท เพิ่ม 214 ล้านบาท
เพิ่ม 26.4%
ค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร 2,245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225 ล้านบาท เพิ่ม 11.1% สาเหตุการเพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น
นายเบรบ๊องกล่าวต่อไปว่า ครึ่งปีหลัง บิ๊กซีจะยังคงจัดกิจกรรมการตลาด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำราคา จำหน่ายสินค้าหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษตลอดทั้งปี โดยจะเน้นการเข้าถึง และครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าในบิ๊กซี เพื่อสร้างยอดขาย และความพอใจแก่ลูกค้าต่อเนื่อง
ภาวะที่ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย การจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่า บิ๊กซีจำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าคู่แข่ง ตลอดจนจำหน่ายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ภายใต้ยี่ห้อ “ลีดเดอร์ไพรซ์” และ “เฟิร์สไพรซ์” เพื่อเป็นทางเลือกผู้บริโภค ที่ต้องการสินค้าที่คุ้มค่า ราคาสมเหตุสมผล จะตอบสนองผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างดี
บิ๊กซีขยายสาขาเพชรเกษมกรกฎาคม ซึ่งประสบความสำเร็จ ชาวเพชรเกษมตอบรับจำนวนมาก เดือนหน้า บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ สุขาภิบาล 3 คาดจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเช่นกัน จะทยอยเปิดสาขาเอกมัย และสกลนคร ปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาเพิ่มเป็น 45 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ 2
ผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บิ๊กซียอดขายเติบโต แม้เศรษฐกิจชะลอ ผลดำเนินงานทั้งปีนี้ บริษัทจึงมั่นใจว่า ยอดขายและรายได้ จะขยายตัวตามเป้าหมาย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ก่อตั้งปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ รูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคหลากหลาย ราคาสมเหตุสมผล ภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบัน 42 สาขาที่เปิดให้บริการ ครอบคลุมทั่วประเทศ
นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ๊อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIC C) เปิดเผยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ ว่าบริษัทและบริษัทย่อย กำไรสุทธิ 461.7 ล้านบาท เพิ่ม 30.5 ล้านบาท เพิ่ม 7.1% เทียบงวดเดียวกันปี 2547 ที่กำไรสุทธิ 431.2 ล้านบาท
แม้ภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรกชะลอ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายซื้อของ แต่บิ๊กซียังคงเติบโตต่อเนื่อง ยอดขายช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นน่าพอใจ เป็นผลจากการตอบรับกลุ่มลูกค้าต่อภาพพจน์ความเป็นผู้นำราคาของบิ๊กซี
และการขายสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทั้งจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้า “ถูกสุดสุด” ที่ทุ่มไตรมาส 2 ในการโฆษณา และสร้างภาพลักษณ์ราคา ทำให้ลูกค้าตอบรับ รวมทั้งขยายสาขาใหม่ที่อ้อมใหญ่ ซึ่งเป็นช็อปปิ้งมอลล์เต็มรูปแบบ ที่ช่วยขยายฐานลูกค้า เป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตยอดขาย
บิ๊กซีรายได้รวม 15,244 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขาย 13,709 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันปี 2547 จำนวน 1,652 ล้านบาท เพิ่ม 13.7% รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท เพิ่ม 2.8% รายได้อื่น 1,023 ล้านบาท เพิ่ม 214 ล้านบาท
เพิ่ม 26.4%
ค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร 2,245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225 ล้านบาท เพิ่ม 11.1% สาเหตุการเพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น
นายเบรบ๊องกล่าวต่อไปว่า ครึ่งปีหลัง บิ๊กซีจะยังคงจัดกิจกรรมการตลาด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำราคา จำหน่ายสินค้าหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษตลอดทั้งปี โดยจะเน้นการเข้าถึง และครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าในบิ๊กซี เพื่อสร้างยอดขาย และความพอใจแก่ลูกค้าต่อเนื่อง
ภาวะที่ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย การจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่า บิ๊กซีจำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าคู่แข่ง ตลอดจนจำหน่ายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ภายใต้ยี่ห้อ “ลีดเดอร์ไพรซ์” และ “เฟิร์สไพรซ์” เพื่อเป็นทางเลือกผู้บริโภค ที่ต้องการสินค้าที่คุ้มค่า ราคาสมเหตุสมผล จะตอบสนองผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างดี
บิ๊กซีขยายสาขาเพชรเกษมกรกฎาคม ซึ่งประสบความสำเร็จ ชาวเพชรเกษมตอบรับจำนวนมาก เดือนหน้า บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ สุขาภิบาล 3 คาดจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเช่นกัน จะทยอยเปิดสาขาเอกมัย และสกลนคร ปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาเพิ่มเป็น 45 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ 2
ผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บิ๊กซียอดขายเติบโต แม้เศรษฐกิจชะลอ ผลดำเนินงานทั้งปีนี้ บริษัทจึงมั่นใจว่า ยอดขายและรายได้ จะขยายตัวตามเป้าหมาย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ก่อตั้งปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ รูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคหลากหลาย ราคาสมเหตุสมผล ภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบัน 42 สาขาที่เปิดให้บริการ ครอบคลุมทั่วประเทศ