xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนแห่งเทศกาลวันแม่...ผู้ห่วงใย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (montree4life@yahoo.com)

เมื่อนึกถึงแม่ เรามักจะนึกถึงความรักอันอบอุ่น และความห่วงใยไม่รู้จบ สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ไปร่วมงานเทศกาลวันแม่ที่คริสตจักร ในหัวข้อ “แม่...ผู้ห่วงใย” เราได้มีโอกาสชมวีดีทัศน์วันแม่ เป็นความประทับใจและเป็นกำลังใจเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่ง ...

แม่ ลูกชาย และลูกสาวช่วยกันขายผลไม้ ที่หน้าบ้าน ทั้งสามมีชีวิตที่เรียบง่าย เพียงพอ แม่และลูกสาวมีความศรัทธาและมีชีวิตที่มีสันติสุขในพระเจ้าอยู่เสมอ ลูกชายยังไม่เชื่อในพระเจ้า มักสงสัยอยู่เสมอว่า ถ้าพระเจ้ามีจริง ชีวิตของเขาก็น่าจะต้องดีกว่านี้

วันหนึ่ง ในช่วงที่ธุรกิจขายดี ในระหว่างอาหารค่ำ แม่และลูกสาวขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารที่ได้รับร่วมกัน ลูกชายก็มิได้รู้สึกขอบคุณพระเจ้าด้วย แล้วเขาก็แจ้งกับแม่ว่า “แม่...ช่วงนี้ผลไม้ขายดี คืนนี้ผมจะขับรถไปรับผลไม้มาเพิ่มจากจันทบุรี” แม่ก็บอกลูกด้วยความเป็นห่วง “ลูก..เราค้าขายเท่านี้ก็เพียงพอ ขับรถทางไกลมันอันตรายนะลูก” ลูกชายก็ตอบว่า “แม่ก็อธิษฐานขอให้พระเจ้าของแม่คุ้มครองผมก็แล้วกัน”

ลูกชายขับรถไปจันทบุรี แล้วเขาก็ง่วง และประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ เขาถูกส่งไปโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่า “เขาอาจจะต้องพิการเป็นอัมพาตที่ขาทั้ง 2 ข้างเดินไม่ได้ตลอดไป” น้องสาวก็ร้อง “ไม่นะ..พี่ต้องหายสิ” แม่ก็ปลอบน้องสาวว่า “เราต้องอดทน และมีความหวังอยู่เสมอ” น้องสาวก็บอกแม่ว่า “ค่ะ แม่..ลูกจะช่วยดูแลแม่และพี่อย่างเต็มที่”

... ผ่านไป 6 เดือน ลูกชายก็ยังไม่ดีขึ้น เขากลับมานอนพักอยู่ที่บ้านแล้ว เขาเดินไม่ได้ เขาท้อแท้ สิ้นหวัง ใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ไปวันๆ วันหนึ่ง แม่กับลูกสาวยืนขายผลไม้อยู่หน้าบ้าน ลูกชายนอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงในบ้าน แล้วเขาก็ตะโกนว่า “แม่ ... มานี่หน่อย” แม่จึงต้องฝากให้น้องช่วยดูแลลูกค้า แล้วเดินเข้าไปหาลูก “มีอะไรเหรอลูก” แม่ถามด้วยเสียงเหน็ดเหนื่อยนิดๆ แต่แฝงด้วยความอบอุ่น

ลูกบอกว่า “ผมหิวน้ำ” แม่หันหยิบแก้วน้ำซึ่งอยู่ข้างเตียงลูกชายอยู่แล้วให้ และเตือนลูกว่า “โถ..ลูก น้ำก็อยู่ข้างตัวนี้เอง ลูกก็พอจะช่วยตัวเองได้นะ” ลูกชายโกรธมาก ปัดน้ำตกแล้วตะโกนว่า “แน่ล่ะสิ..ผมเป็นคนไร้ค่า ผมเดินไม่ได้ ทำไม พระเจ้าไม่เอาชีวิตผมไปเลยล่ะ...ไปได้แล้ว..ไป” แม่ปลอบลูกชายว่า “ไม่มีใครเห็นลูกไร้ค่าหรอก ลูกยังทำอะไรได้หลายอย่าง ลูกอย่ามองตัวเองไร้ค่าไปเลย” แล้วแม่ต้องเดินกลับออกมาด้วยความเสียใจ

แต่แม่ก็ยังอดทน ในยามลำบาก แม่ก็ไม่เดียวดาย แม่อธิษฐานพระเจ้าเผื่อลูกทุกคืน บางคืนลูกชายก็ได้ยินเสียงแม่อธิษฐาน ได้ยินแม่เอาเทปคำเทศนามาฟัง แม่มีพระเจ้าเป็นเพื่อนได้เสมอ

คืนหนึ่ง ลูกชายบอกกับแม่ว่า “แม่.. ผมขอโทษครับ ผมอยากรู้จักพระเจ้าของแม่แล้วสิ” แม่ก็บอกว่า “ดีแล้ว.. แล้วแม่จะสอนข้อพระคัมภีร์ให้ฟัง” ขณะนั้นน้องสาวออกไปข้างนอก แม่ก็ได้สอนเรื่องพระเจ้ารักเราตั้งแต่เรายังไม่รู้จักพระองค์ เราจึงได้อยู่ในโลกที่แสนดี พระเยซูคริสต์ก็รักเรามากจนสละชีวิตเพื่อไถ่บาปเราทั้งที่เรายังไม่รู้จักพระองค์ แล้วเราจะทุกข์ใจไปทำไม ลูกชายก็รู้สึกดีขึ้นกับชีวิต

แม่ได้ไปเข้าห้องน้ำ แต่แล้วแม่ก็เกิดหกล้มจนหัวฟาดฝาผนังห้องน้ำหมดสติไป ลูกชายได้ยินเสียงแม่ล้มลงก็ตกใจ ตะโกนว่า “แม่..แม่ เป็นอะไรหรือเปล่า” “แม่..แม่เป็นอะไร” เขารีบยกขาของตัวเอง ลงจากเตียง คลานไปนั่งเก้าอี้เข็น เข้าไปช่วยแม่ในห้องน้ำ “แม่.. แม่ต้องไม่เป็นอะไรนะ” แล้วแม่ก็ฟื้นขึ้นมาบอกว่า “ลูกเก่งถึงขั้นมาช่วยแม่ได้เลยหรือ? แม่ไม่เป็นไรแล้วลูก” “มันคุ้มลูก .. มันคุ้ม” แล้วแม่กับลูกชายก็กอดกันร้องไห้ด้วยความชื่นใจในความรักที่มีต่อกัน ในที่สุดลูกชายก็รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าด้วยความเชื่อ แล้วเขาก็มีสันติสุข และความชื่นชมยินดี

ผมชมแล้วคิดได้ว่า ผู้มองว่าตัวเราไร้ค่า คือตัวเราเอง ไม่ว่าชีวิตของเราจะลำบากเพียงไรยังมีแม่ที่รักห่วงใยเราอยู่เสมอ ให้เรารักษาความหวังใจ กำลังใจ และความสุขใจในชีวิตเสมอ เราก็จะสามารถรักษาพลังชีวิตของเราได้ตลอดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น