สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) ผู้ให้บริการเทคโนโลยี-ระบบสื่อสารข้อมูลครบวงจร ฟันรายได้ครึ่งปีแรก 8,457 ล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 37% ไตรมาส 2 รายได้รวม 4,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปี 47 กำไรสุทธิ 115 ล้านบาท เอ็มดีใหญ่ “ธวัชชัย วิไลลักษณ์” ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ-รองรับการขยายตัวธุรกิจอนาคต
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวถึงผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 ว่าบริษัทรายได้รวม 4,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 3,512 ล้านบาท กำไรสุทธิไตรมาส 2 ปีนี้ 115 ล้านบาท
เขากล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมา แม้ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ แต่ทุกสายธุรกิจกลุ่มสามารถฯ ยังคงรายได้เติบโตต่อเนื่อง เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สายธุรกิจโทรศัพท์มือถือ-สื่ออินเตอร์แอ็คทีฟ รายได้เพิ่ม 18% กำไรปกติจากการดำเนินธุรกิจเพิ่ม 25% จากยอดขายโทรมือถือ-บริการคอนเท้นท์ ที่เติบโตขึ้น ทั้งใน-ต่างประเทศ
สายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม นำโดยบริษัท สามารถเทลคอม รายได้เพิ่ม 16% กำไรสุทธิเพิ่ม 22% สายธุรกิจสื่อสารไอที โดยบริษัท สามารถคอมเทค สร้างรายได้เพิ่มถึง 75% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน ภาพรวมผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา จึงถือว่าน่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินธุรกิจคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อเตรียมรองรับการขยายตัวกลุ่มสามารถฯ สู่ธุรกิจใหม่ๆ อนาคต กลุ่มบริษัท สามารถ จึงมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยจะรวมสายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม-ไอทีเข้าด้วยกัน ภายใต้ชื่อสายธุรกิจ ICT Solutions & Services
ในการนี้ SAMART ขายหุ้นบริษัท สามารถคอมเทค แก่บริษัท สามารถเทลคอม มูลค่าราว 876 ล้านบาท สามารถเทลคอมจะเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 520 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาท จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น SAMART เพื่อชำระค่าหุ้นดังกล่าวบางส่วน
คณะกรรมการบริษัท สามารถเทลคอม มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรก หุ้นละ 15 สตางค์
การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ จะก่อเกิดประโยชน์สร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มสามารถเทลคอม ก้าวสู่ความเป็นผู้นำไอซีทีอย่างแท้จริง เพราะจะส่งเสริมให้เกิดการผนึกกำลังบริษัทที่เชี่ยวชาญสายธุรกิจใกล้เคียงกัน บุก-ขยายตลาด เพิ่มประสิทธิภาพใช้ทรัพยากร-บุคลากรร่วมกัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ลดต้นทุนบริหาร และดำเนินงาน เพิ่มความคล่องตัวประสานความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เสนอ Total ICT Solutions องค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน ด้วยศักยภาพให้บริการเพิ่มขึ้น ย่อมช่วยเพิ่มความมั่นใจลูกค้า นักลงทุน-ผู้ถือหุ้นบริษัท สามารถเทลคอม แน่นอน
ยิ่งกว่านั้น การจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ ยังเตรียมความพร้อมขยายงานสู่ธุรกิจอนาคตกลุ่มบริษัทสามารถ โดยจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวบริหาร และการลงทุนมากยิ่งขึ้น การปรับโครงสร้างล่าสุด สายธุรกิจกลุ่มสามารถ ประกอบด้วย
สายธุรกิจ ICT Solutions & Services ซึ่งพร้อมให้บริการ Total ICT Solutions องค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน นำโดยบริษัท สามารถเทลคอม และบริษัท สามารถ คอมเทค
สายธุรกิจ Mobile Multi-media ครอบคลุมธุรกิจโทรมือถือ-สื่ออินเตอร์แอคทีฟ นำโดยบริษัทสามารถ ไอ-โมบาย
สายธุรกิจ International ครอบคลุมธุรกิจ-การลงทุนต่างประเทศ ทั้งปัจจุบัน-อนาคต อาทิ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM 900 ที่กัมพูชา โดยบริษัท แคมโบเดีย สามารถคอมมิวนิเคชั่น และศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ที่กัมพูชา โดยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส
สายธุรกิจ Related Business ครอบคลุมธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับไอซีทีโดยตรง อาทิ การผลิต-จำหน่ายเสาอากาศ-จานดาวเทียมของบริษัท สามารถวิศวกรรม ธุรกิจบริการ Call Center บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์
เขากล่าวว่าปีนี้ บริษัทเชื่อมั่นผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 1.9 หมื่นล้านบาท การเติบโต จะเป็นผลจากรับรู้รายได้โครงการสื่อสารโทรคมนาคมต่อเนื่องต่างๆ และการเติบโตธุรกิจ สามารถ ไอ-โมบาย ซึ่งคาดจะมีรายได้สูงขึ้น จากยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะต่างประเทศ ที่มียอดเติบโตเห็นชัด เช่น เวียดนาม ศรีลังกา บังคลาเทศ มาเลเซีย
ด้วยแผนเสนอแพคเกจคอนเท้นท์ใหม่ๆ พร้อมใช้บนโทรมือถือ จะช่วยเพิ่มรายได้ครึ่งปีหลังให้ไอ-โมบายอย่างดี ยิ่งกว่านั้น กลุ่มบริษัท สามารถ ยังคงมองหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง ต่อเนื่อง ขณะนี้ อยู่ระหว่างวิเคราะห์การลงทุน สายธุรกิจพลังงาน จะประกาศความชัดเจนเร็วๆ นี้
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวถึงผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 ว่าบริษัทรายได้รวม 4,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 3,512 ล้านบาท กำไรสุทธิไตรมาส 2 ปีนี้ 115 ล้านบาท
เขากล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมา แม้ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ แต่ทุกสายธุรกิจกลุ่มสามารถฯ ยังคงรายได้เติบโตต่อเนื่อง เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สายธุรกิจโทรศัพท์มือถือ-สื่ออินเตอร์แอ็คทีฟ รายได้เพิ่ม 18% กำไรปกติจากการดำเนินธุรกิจเพิ่ม 25% จากยอดขายโทรมือถือ-บริการคอนเท้นท์ ที่เติบโตขึ้น ทั้งใน-ต่างประเทศ
สายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม นำโดยบริษัท สามารถเทลคอม รายได้เพิ่ม 16% กำไรสุทธิเพิ่ม 22% สายธุรกิจสื่อสารไอที โดยบริษัท สามารถคอมเทค สร้างรายได้เพิ่มถึง 75% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน ภาพรวมผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา จึงถือว่าน่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินธุรกิจคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อเตรียมรองรับการขยายตัวกลุ่มสามารถฯ สู่ธุรกิจใหม่ๆ อนาคต กลุ่มบริษัท สามารถ จึงมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยจะรวมสายธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม-ไอทีเข้าด้วยกัน ภายใต้ชื่อสายธุรกิจ ICT Solutions & Services
ในการนี้ SAMART ขายหุ้นบริษัท สามารถคอมเทค แก่บริษัท สามารถเทลคอม มูลค่าราว 876 ล้านบาท สามารถเทลคอมจะเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 520 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาท จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น SAMART เพื่อชำระค่าหุ้นดังกล่าวบางส่วน
คณะกรรมการบริษัท สามารถเทลคอม มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรก หุ้นละ 15 สตางค์
การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ จะก่อเกิดประโยชน์สร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มสามารถเทลคอม ก้าวสู่ความเป็นผู้นำไอซีทีอย่างแท้จริง เพราะจะส่งเสริมให้เกิดการผนึกกำลังบริษัทที่เชี่ยวชาญสายธุรกิจใกล้เคียงกัน บุก-ขยายตลาด เพิ่มประสิทธิภาพใช้ทรัพยากร-บุคลากรร่วมกัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ลดต้นทุนบริหาร และดำเนินงาน เพิ่มความคล่องตัวประสานความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เสนอ Total ICT Solutions องค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน ด้วยศักยภาพให้บริการเพิ่มขึ้น ย่อมช่วยเพิ่มความมั่นใจลูกค้า นักลงทุน-ผู้ถือหุ้นบริษัท สามารถเทลคอม แน่นอน
ยิ่งกว่านั้น การจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ ยังเตรียมความพร้อมขยายงานสู่ธุรกิจอนาคตกลุ่มบริษัทสามารถ โดยจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวบริหาร และการลงทุนมากยิ่งขึ้น การปรับโครงสร้างล่าสุด สายธุรกิจกลุ่มสามารถ ประกอบด้วย
สายธุรกิจ ICT Solutions & Services ซึ่งพร้อมให้บริการ Total ICT Solutions องค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน นำโดยบริษัท สามารถเทลคอม และบริษัท สามารถ คอมเทค
สายธุรกิจ Mobile Multi-media ครอบคลุมธุรกิจโทรมือถือ-สื่ออินเตอร์แอคทีฟ นำโดยบริษัทสามารถ ไอ-โมบาย
สายธุรกิจ International ครอบคลุมธุรกิจ-การลงทุนต่างประเทศ ทั้งปัจจุบัน-อนาคต อาทิ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM 900 ที่กัมพูชา โดยบริษัท แคมโบเดีย สามารถคอมมิวนิเคชั่น และศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ที่กัมพูชา โดยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส
สายธุรกิจ Related Business ครอบคลุมธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับไอซีทีโดยตรง อาทิ การผลิต-จำหน่ายเสาอากาศ-จานดาวเทียมของบริษัท สามารถวิศวกรรม ธุรกิจบริการ Call Center บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์
เขากล่าวว่าปีนี้ บริษัทเชื่อมั่นผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 1.9 หมื่นล้านบาท การเติบโต จะเป็นผลจากรับรู้รายได้โครงการสื่อสารโทรคมนาคมต่อเนื่องต่างๆ และการเติบโตธุรกิจ สามารถ ไอ-โมบาย ซึ่งคาดจะมีรายได้สูงขึ้น จากยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะต่างประเทศ ที่มียอดเติบโตเห็นชัด เช่น เวียดนาม ศรีลังกา บังคลาเทศ มาเลเซีย
ด้วยแผนเสนอแพคเกจคอนเท้นท์ใหม่ๆ พร้อมใช้บนโทรมือถือ จะช่วยเพิ่มรายได้ครึ่งปีหลังให้ไอ-โมบายอย่างดี ยิ่งกว่านั้น กลุ่มบริษัท สามารถ ยังคงมองหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง ต่อเนื่อง ขณะนี้ อยู่ระหว่างวิเคราะห์การลงทุน สายธุรกิจพลังงาน จะประกาศความชัดเจนเร็วๆ นี้