xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนจากภาพยนตร์ Fantastic Four

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (montree4life@yahoo.com)

ท่ามกลางปัญหาท้าทายเราทุกคน ผมได้มีโอกาสพาครอบครัวไปชมภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Four ลูกๆได้แลกเปลี่ยนบทเรียนกันไม่น้อย ดังนี้

1.คนเราต่างกัน ทุกคนควรพอใจในความพิเศษเจาะจงของเราเอง และมีความสุข (โดยลูกพีค ใกล้ 16 ปี) แม้บางคนจะยืดตัวได้ เป็นไฟได้ ล่องหนเป็นลมได้ หรือเป็นหิน ทุกคนก็ควรที่จะพอใจ และมีความสุขกับความพิเศษส่วนตัวได้ ในบางความพิเศษ อาจมีมุมที่ไม่ดี แต่ก็มีส่วนดีให้ภูมิใจ และมีคุณค่าได้ มนุษย์หินอาจดูน่าเกลียด แต่ความแข็งแกร่ง และน้ำใจงาม ก็เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างสุขใจได้

2.การดูคน ให้ดูที่จิตใจ ไม่ใช่ดูที่ภาพภายนอก (โดยลูกพาย 14 ปี) รูปลักษณ์ภายนอก ฐานะ ตำแหน่ง อำนาจ ไม่ได้เป็นเครื่องวัดความดีกว่าของคน คนร่ำรวย มีทั้งที่ดีและไม่ดี คนยากจน ก็มีทั้งดีและไม่ดี เวลาเราดูจากภายนอก เราเห็นได้ชัด ว่าความดีวัดจาก “เราทำดีต่อคนรอบข้างเพียงไร เราเห็นแก่ตัว (Self-Centered) น้อยเพียงไร” ดังพระเจ้าทรงมองคนที่จิตใจ มนุษย์หินอัปลักษณ์ สละตนเองเพื่อคนอื่น ถือเป็นผู้น่าสรรเสริญ คนตาบอดก็มีน้ำใจงาม คนหล่อร่ำรวยฉลาด ก็น่ารังเกียจนัก เมื่อเป็นคนที่เห็นแก่ตัวโดยไม่สนใจใคร

3.อย่าโลภ (โดยลูกพราว 7 ขวบครึ่ง) ทรัพย์สมบัติ มักเป็นต้นเหตุแห่งความชั่ว เพราะคนร้ายเริ่มมองแต่เรื่องเงินทองของตนเอง เขาก็ทำบาปมากขึ้นเรื่อยๆ ฆ่าคน ไม่เห็นคุณค่าของใคร และที่น่าแปลกใจ คือคนที่คิดว่าทรัพย์สมบัติคือเครื่องวัดคุณค่าในชีวิต มักจะเป็นผู้ไม่รู้จักพอ แม้จะร่ำรวยเพียงใด ก็ยังโลภไม่สิ้นสุด มีล้าน ก็อยากได้สิบล้าน มีสิบล้าน ก็อยากได้ร้อยล้าน ... ไม่เป็นความสุขที่ถาวร

4.ผู้แสวงอำนาจ อยากเป็นพระเจ้า แต่ไม่เป็น “ผู้ให้” อย่างพระเจ้า ก็กลายเป็นผู้ที่น่ากลัวที่สุด ผู้คลั่งอำนาจหลายคน อยากเป็นพระเจ้า มีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง แต่ลืมข้อสำคัญ คือพระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ง และทรงมอบให้มนุษย์ได้ครอบครอง ในทุกยุคทุกสมัย ตามประวัติศาสตร์ หากผู้มีอำนาจมุ่งมั่นอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ก็เป็นผู้นำ ผู้เป็นที่รัก แต่ผู้นำที่มุ่งแต่อำนาจและประโยชน์ส่วนตน ท้ายที่สุดแล้ว จะเป็นผู้ที่น่าเกลียดน่ากลัวที่สุด

5.สิ่งที่ผู้ร้ายทำร้ายคนบริสุทธิ์ คือทำให้แตกความสามัคคี สังคมคนบริสุทธิ์ จะมีความรักกัน สามัคคีกัน ผู้ร้ายที่ประสงค์ทำความเลวร้ายที่รุนแรง จะเริ่มจากการยั่วยุให้แตกแยกกัน ไม่รักกัน ไม่ไว้ใจกันก่อน ผู้ก่อการร้ายพยายามให้คนดีระแวงกัน ขัดแย้งกัน

เราต้องรักกัน สามัคคีกันอย่างอดทน เอาความรักชนะความโกรธ แยกแยะให้ชัด ระหว่างคนมุ่งร้ายกับคนบริสุทธิ์ที่ถูกล่อลวง และในด้านหนึ่ง รักษาความรักความสามัคคีระหว่างคนไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนา และในอีกด้านหนึ่ง มุ่งจำกัดไม่ให้คนมุ่งร้ายก่อการร้ายได้ แม้จะดูยาก แต่เป็นความจำเป็น ที่จะต้องคิดควบคู่กันเสมอ

กลับมาที่สถานการณ์บ้านเรา เราคาดหวังว่า ผู้นำของเรา ก็ย่อมคิดถึงการจัดการคนร้าย ไม่ให้ทำการร้ายได้ ควบคู่ไปกับการสร้างความรักความวางใจระหว่างคนไทยในพื้นที่ ปัญหาเช่นนี้ เรากำลังรบกับสงคราม 2 ประเภท

(1) สงครามการต่อสู้กับคนชั่ว (คนที่ทำร้ายแม้ผู้บริสุทธิ์ และทำร้ายระบบเศรษฐกิจ ย่อมเป็นผู้ไม่หวังดี) กับ
(2) สงครามจิตวิทยา เราคาดหวังว่า คนไทยเราจะรักสามัคคีกัน เอาชนะสงครามทั้ง 2 ประเภท ด้วยความรัก และความอดทนนาน จนเกิดสันติสุขในแผ่นดิน ในที่สุด

ผมว่ามุมสุดท้ายในจินตนาการของผม คือ Fantastic Four สะท้อนหลักการในการแก้ปัญหาความไม่สงบได้ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบนี้ด้วย คือ

(1) มีสติ และขวัญกำลังใจที่เข้มแข็งมั่นคงดังภูผาหิน
(2) มีความรวดเร็ว และแม่นยำในการแก้ปัญหาให้ถูกจุดฉับไว

(3) มีพลังแห่งลม ซึ่งแม้มองไม่เห็น แต่กันไฟไม่ให้ลุกลามได้ และ
(4) มีความยืดหยุ่นในการแก้ไขสถานการณ์ได้คล่องตัว และสุดท้ายที่ผูกพันเราทุกคน คือความรักความสามัคคีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น