โดย มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (montree4life@yahoo.com)
เราเห็นเหตุการณ์ก่อการร้ายที่น่าสลดใจในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประเทศอังกฤษ ผมวิเคราะห์สถานการณ์แล้วเห็นว่าเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่น่าประณาม ดังนี้
1.ผู้ก่อการร้ายประสงค์จะสื่อสารอะไร ? ผมเชื่อมโยงกับเรื่องเครื่องบินชนตึก World Trade Center เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ผมได้สาส์นจากผู้ก่อการร้ายว่า (1) ไม่ต้องการให้ชาวโลกทุนนิยมอยู่อย่างปลอดภัย ผู้ก่อการร้ายก็สามารถทำร้ายประชาชน (ผู้บริสุทธิ์) ของประเทศผู้ยิ่งใหญ่ได้ (2) ต้องการสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทุนนิยม
2.การทำร้ายผู้บริสุทธิ์ซึ่งไม่ได้คิดจะต่อสู้ ไม่พร้อมจะต่อสู้ โดยไม่ได้อยู่ในสถานการณ์การต่อสู้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ความไร้คุณธรรม ยิ่งการพยายามให้ผู้คนโดยทั่วไปไม่สามารถทำงานได้ เกิดความหวั่นวิตก เศรษฐกิจสะดุดก็เป็นการพิสูจน์ความไม่สร้างสรรค์ คิดแต่การแก่งแย่งและทำลายกัน กลไกเศรษฐกิจได้เอื้อให้คนทำงานมากมาย เป็นประโยชน์ต่อกันและกัน ด้วยกลไกนี้ เรามีอาหารรับประทานง่ายและด้วยต้นทุนต่ำกว่าที่ต้องเตรียมเองมากมาย ค่าเสื้อผ้า ค่ายา ค่าที่อยู่อาศัย ต่ำกว่าและดีกว่าเราต่างคนต่างอยู่และต้องทำเองมากมาย รวมถึงการใช้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่นคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร การเดินทาง ก็สะดวกมาก เป็นต้น โลกเราพัฒนาถึงจุดนี้ได้ ก็เพราะเราร่วมกัน แบ่งหน้าที่กันทำงาน ความพยายามทั้ง 2 ครั้งใหญ่ได้เห็นถึงการทำลายที่ไม่สร้างสรรค์จริงๆ
3.ผมดีใจที่ผู้ใหญ่ในโลกทุกคน รวมถึงผู้นำศาสนาต่างๆรวมถึงมุสลิมได้ชี้ชัดว่า นี่ “ไม่ใช่” เรื่องของศาสนาแต่อย่างใด เป็นเพียงคนอยากจะอ้างเพื่อให้คนชอบธรรมแตกแยกกันและอ่อนแอลงเท่านั้น
4.ผมประทับใจกับคำพูดว่า พวกผู้ก่อการร้ายเขาหวังให้โลกเสรีกลัว วิตก มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เราต้องไม่ให้การก่อการร้ายทำให้เราเกิดความกลัว หรือความวิตก ผมเข้าใจหลักการทางเศรษฐ์ศาสตร์ว่า ความกลัวนั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัว ความวิตกนั่นแหละคือสิ่งที่น่าวิตก ถ้าคนตื่นตระหนกจนจับจ่ายน้อยลง ไม่กล้าลงทุน เศรษฐกิจจะถดถอยและผู้คนจะยิ่งลำบากมากขึ้น สติของผู้นำเป็นสิ่งสำคัญ และขวัญของประชาชนก็สำคัญอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้ปัญหาบานปลาย
5.เราเห็นได้ชัดว่า กลุ่มผู้ก่อการร้าย เป็นผู้แสวงหาอำนาจและผลประโยชน์จากการทำลาย ทำร้ายได้แม้ผู้บริสุทธิ์ ส่งสัญญาณเสมือนว่า ต้องให้เขาครองอำนาจเหนืออาณาจักร เขาก็จะยอม แต่.. ถ้าคิดอย่างนี้ ไม่เห็นคุณค่าของคนอย่างนี้ ไม่ส่งเสริมการทำงานสร้างสรรค์ แต่คิดเพียงทำลายและครอบครองสิ่งที่คนอื่นทำมา ใครจะรับรองได้ว่า ถ้ามีอำนาจมากขึ้น เขาจะไม่ทำการร้ายที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น
6.การที่ผู้ก่อการร้ายจะพยายามอ้างว่า ทีประเทศมหาอำนาจยังบุกรุกประเทศอื่น พวกเขาก็จะตอบโต้โดยบุกรุกเข้าประเทศมหาอำนาจ ผมกลับไม่คิดว่าเป็นข้ออ้างที่ฟังได้ ผมว่าชาวโลกพิสูจน์ความดีชั่วโดยดูได้จากท่าทีต่อผู้บริสุทธิ์ ผมเห็นผู้ก่อการร้ายรุกรานประเทศคูเวต ใช้ระเบิดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ใช้เครื่องบินชนตึกและระเบิดรถไฟและรถยนต์สาธารณะที่ให้บริการพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างมากมาย ฝ่ายโลกเสรี เมื่อมีการสู้รบ จะต้องระมัดระวังอย่างมากไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียเท่าที่จะทำได้ แม้ฝ่ายก่อการร้ายจะใช้วิธีที่ไร้คุณธรรมกับคนชาติตนเองโดยแฝงตัวแบบชาวบ้าน ฝ่ายเสรีก็ต้องอดทน และระมัดระวังจะทำร้ายโดยสุ่มอย่างกว้างขวางไม่ได้ แม้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในคุก ก็ต้องมีการสอบสวนอย่างจริงจัง
เราทุกคนปรารถนาจะเห็นโลกมีสันติสุข ในขณะที่มีปัญหาการก่อการร้ายอยู่ไม่น้อย ผมไม่อยากให้เราหดหู่ใจ จะว่าไปดีกว่าสมัยสงครามโลก สงครามเย็น สมัยสงครามโบราณมากมายนัก เราเพียงแต่ต้องร่วมมือร่วมใจกันในหมู่คนบริสุทธิ์ สอดส่องดูแลเพื่อกันและกัน และช่วยกันทำงานในหน้าที่ของเราอย่างไม่หวั่นไหว ไม่ให้ปัญหาบานปลายไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจด้วย เราจึงจะสู้กับ War of the World ได้ครับ
เราเห็นเหตุการณ์ก่อการร้ายที่น่าสลดใจในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประเทศอังกฤษ ผมวิเคราะห์สถานการณ์แล้วเห็นว่าเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่น่าประณาม ดังนี้
1.ผู้ก่อการร้ายประสงค์จะสื่อสารอะไร ? ผมเชื่อมโยงกับเรื่องเครื่องบินชนตึก World Trade Center เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ผมได้สาส์นจากผู้ก่อการร้ายว่า (1) ไม่ต้องการให้ชาวโลกทุนนิยมอยู่อย่างปลอดภัย ผู้ก่อการร้ายก็สามารถทำร้ายประชาชน (ผู้บริสุทธิ์) ของประเทศผู้ยิ่งใหญ่ได้ (2) ต้องการสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทุนนิยม
2.การทำร้ายผู้บริสุทธิ์ซึ่งไม่ได้คิดจะต่อสู้ ไม่พร้อมจะต่อสู้ โดยไม่ได้อยู่ในสถานการณ์การต่อสู้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ความไร้คุณธรรม ยิ่งการพยายามให้ผู้คนโดยทั่วไปไม่สามารถทำงานได้ เกิดความหวั่นวิตก เศรษฐกิจสะดุดก็เป็นการพิสูจน์ความไม่สร้างสรรค์ คิดแต่การแก่งแย่งและทำลายกัน กลไกเศรษฐกิจได้เอื้อให้คนทำงานมากมาย เป็นประโยชน์ต่อกันและกัน ด้วยกลไกนี้ เรามีอาหารรับประทานง่ายและด้วยต้นทุนต่ำกว่าที่ต้องเตรียมเองมากมาย ค่าเสื้อผ้า ค่ายา ค่าที่อยู่อาศัย ต่ำกว่าและดีกว่าเราต่างคนต่างอยู่และต้องทำเองมากมาย รวมถึงการใช้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่นคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร การเดินทาง ก็สะดวกมาก เป็นต้น โลกเราพัฒนาถึงจุดนี้ได้ ก็เพราะเราร่วมกัน แบ่งหน้าที่กันทำงาน ความพยายามทั้ง 2 ครั้งใหญ่ได้เห็นถึงการทำลายที่ไม่สร้างสรรค์จริงๆ
3.ผมดีใจที่ผู้ใหญ่ในโลกทุกคน รวมถึงผู้นำศาสนาต่างๆรวมถึงมุสลิมได้ชี้ชัดว่า นี่ “ไม่ใช่” เรื่องของศาสนาแต่อย่างใด เป็นเพียงคนอยากจะอ้างเพื่อให้คนชอบธรรมแตกแยกกันและอ่อนแอลงเท่านั้น
4.ผมประทับใจกับคำพูดว่า พวกผู้ก่อการร้ายเขาหวังให้โลกเสรีกลัว วิตก มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เราต้องไม่ให้การก่อการร้ายทำให้เราเกิดความกลัว หรือความวิตก ผมเข้าใจหลักการทางเศรษฐ์ศาสตร์ว่า ความกลัวนั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัว ความวิตกนั่นแหละคือสิ่งที่น่าวิตก ถ้าคนตื่นตระหนกจนจับจ่ายน้อยลง ไม่กล้าลงทุน เศรษฐกิจจะถดถอยและผู้คนจะยิ่งลำบากมากขึ้น สติของผู้นำเป็นสิ่งสำคัญ และขวัญของประชาชนก็สำคัญอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้ปัญหาบานปลาย
5.เราเห็นได้ชัดว่า กลุ่มผู้ก่อการร้าย เป็นผู้แสวงหาอำนาจและผลประโยชน์จากการทำลาย ทำร้ายได้แม้ผู้บริสุทธิ์ ส่งสัญญาณเสมือนว่า ต้องให้เขาครองอำนาจเหนืออาณาจักร เขาก็จะยอม แต่.. ถ้าคิดอย่างนี้ ไม่เห็นคุณค่าของคนอย่างนี้ ไม่ส่งเสริมการทำงานสร้างสรรค์ แต่คิดเพียงทำลายและครอบครองสิ่งที่คนอื่นทำมา ใครจะรับรองได้ว่า ถ้ามีอำนาจมากขึ้น เขาจะไม่ทำการร้ายที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น
6.การที่ผู้ก่อการร้ายจะพยายามอ้างว่า ทีประเทศมหาอำนาจยังบุกรุกประเทศอื่น พวกเขาก็จะตอบโต้โดยบุกรุกเข้าประเทศมหาอำนาจ ผมกลับไม่คิดว่าเป็นข้ออ้างที่ฟังได้ ผมว่าชาวโลกพิสูจน์ความดีชั่วโดยดูได้จากท่าทีต่อผู้บริสุทธิ์ ผมเห็นผู้ก่อการร้ายรุกรานประเทศคูเวต ใช้ระเบิดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ใช้เครื่องบินชนตึกและระเบิดรถไฟและรถยนต์สาธารณะที่ให้บริการพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างมากมาย ฝ่ายโลกเสรี เมื่อมีการสู้รบ จะต้องระมัดระวังอย่างมากไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียเท่าที่จะทำได้ แม้ฝ่ายก่อการร้ายจะใช้วิธีที่ไร้คุณธรรมกับคนชาติตนเองโดยแฝงตัวแบบชาวบ้าน ฝ่ายเสรีก็ต้องอดทน และระมัดระวังจะทำร้ายโดยสุ่มอย่างกว้างขวางไม่ได้ แม้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในคุก ก็ต้องมีการสอบสวนอย่างจริงจัง
เราทุกคนปรารถนาจะเห็นโลกมีสันติสุข ในขณะที่มีปัญหาการก่อการร้ายอยู่ไม่น้อย ผมไม่อยากให้เราหดหู่ใจ จะว่าไปดีกว่าสมัยสงครามโลก สงครามเย็น สมัยสงครามโบราณมากมายนัก เราเพียงแต่ต้องร่วมมือร่วมใจกันในหมู่คนบริสุทธิ์ สอดส่องดูแลเพื่อกันและกัน และช่วยกันทำงานในหน้าที่ของเราอย่างไม่หวั่นไหว ไม่ให้ปัญหาบานปลายไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจด้วย เราจึงจะสู้กับ War of the World ได้ครับ