โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) นำตัวอย่างตะเกียบที่ใช้ในร้านอาหารส่งแล็บโออิชิ ตรวจสอบมีสารพิษปนเปื้อนหรือไม่ ประธานบริษัท “ตัน ภาสกรนที” คาดตลาดชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้จะยังโต มูลค่าตลาดรวมหมื่นล้านบาท ล่าสุด OISHI ส่วนแบ่งตลาด 62% พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เปิดตัวชารสลำไย ใช้ลำไยที่ผลิตปีนี้ รอ “ทักษิณ” กำหนดวันเปิดตัวเป็นทางการ
นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) กล่าวว่าตะเกียบที่ให้บริการลูกค้าในร้านอาหารญี่ปุ่นของโออิชิทุกสาขา ปลอดภัยในการใช้คีบอาหารบริโภค เพราะได้รับเอกสารยืนยันจากบริษัท สหไทย ผู้จำหน่ายตะเกียบให้โออิชิแล้ว ว่าตะเกียบที่ใช้ มีความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาผลประโยชน์ลูกค้าโออิชิ บริษัทได้นำตัวอย่างตะเกียบที่ใช้ภายในร้านโออิชิ ทดลองในห้องแล็บโออิชิอีกครั้ง ว่ามีปัญหาความปลอดภัยหรือไม่ ร้านอาหารโออิชิ ใช้ตะเกียบเดือนละ 3 แสนคู่ ปีละ 3.6 ล้านคู่ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้า ว่าตะเกียบที่ใช้ภายในร้านโออิชิ มีปัญหา
นายตันกล่าวถึงตลาดชาเขียว ว่าแม้ปีนี้ ไทยจะประสบปัญหาราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่อง แต่คาดตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ที่ขณะนี้กำลังได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก จนมีผู้ผลิตชาเขียวพร้อมดื่มป้อนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น มูลค่าตลาดรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เขากล่าวว่าชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มขึ้น จนทำให้ล่าสุด ส่วนแบ่งตลาดสูงสุด เพิ่มเป็น 62% ของตลาดรวม จะพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดต่อไป
นายตันกล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โออิชิจะผลิต “ชารสลำไย” ซึ่งจะใช้ลำไยที่ผลิตได้ปีนี้ จะนำเสนอสู่ตลาด พร้อมผลักดันให้ยอดขายมากที่สุด การขาย กำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย จะส่งกลับเกษตรกรทั้งหมด วันเปิดตัวแนะนำชาพร้อมดื่มรสลำไยเป็นทางการ ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำหนด
นายตันกล่าวว่า โออิชิให้ความสำคัญการมีสุขภาพแข็งแรง จึงเปิดตัวโครงการ “โออิชิ กรีน คอมแบต 2” เพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถเต้นบอดี้ คอมแบต โครงการดังกล่าว วัตถุประสงค์กระตุ้นให้เยาวชนได้ออกกำลังกาย ใช้งบประมาณสนับสนุนรวม 20 ล้านบาท
โดยจะมีกิจกรรมเดินสายตามโรงเรียนมัธยม 70 แห่งทั่วประเทศ ก.ค.-ธ.ค.ปีนี้ และจัดแข่งขันประกวดเต้นบอดี้ คอมแบต Oishi Green Combat Contest 2 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท การจัดกิจกรรมปีนี้ เป็นปีที่ 2
พร้อมทำซีดีสาธิตท่าเต้นศิลปะป้องกันตัวบอดี้ คอมแบต แจกจ่ายตามโรงเรียนต่าง ๆ หยวน-นิธิชัย ยศอมรสุนทร และพิมพ์-พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร เป็นพรีเซ็นเตอร์ จัดเวิร์กช็อปให้ครูพละโรงเรียนที่ร่วมโครงการ และจัดให้ครูสอนแอโรบิคจากสถานที่ออกกำลังกายใน กทม.ที่สนใจ รวมทั้งจัดประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ด้วย
นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) กล่าวว่าตะเกียบที่ให้บริการลูกค้าในร้านอาหารญี่ปุ่นของโออิชิทุกสาขา ปลอดภัยในการใช้คีบอาหารบริโภค เพราะได้รับเอกสารยืนยันจากบริษัท สหไทย ผู้จำหน่ายตะเกียบให้โออิชิแล้ว ว่าตะเกียบที่ใช้ มีความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาผลประโยชน์ลูกค้าโออิชิ บริษัทได้นำตัวอย่างตะเกียบที่ใช้ภายในร้านโออิชิ ทดลองในห้องแล็บโออิชิอีกครั้ง ว่ามีปัญหาความปลอดภัยหรือไม่ ร้านอาหารโออิชิ ใช้ตะเกียบเดือนละ 3 แสนคู่ ปีละ 3.6 ล้านคู่ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้า ว่าตะเกียบที่ใช้ภายในร้านโออิชิ มีปัญหา
นายตันกล่าวถึงตลาดชาเขียว ว่าแม้ปีนี้ ไทยจะประสบปัญหาราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่อง แต่คาดตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ที่ขณะนี้กำลังได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก จนมีผู้ผลิตชาเขียวพร้อมดื่มป้อนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น มูลค่าตลาดรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เขากล่าวว่าชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มขึ้น จนทำให้ล่าสุด ส่วนแบ่งตลาดสูงสุด เพิ่มเป็น 62% ของตลาดรวม จะพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดต่อไป
นายตันกล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โออิชิจะผลิต “ชารสลำไย” ซึ่งจะใช้ลำไยที่ผลิตได้ปีนี้ จะนำเสนอสู่ตลาด พร้อมผลักดันให้ยอดขายมากที่สุด การขาย กำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย จะส่งกลับเกษตรกรทั้งหมด วันเปิดตัวแนะนำชาพร้อมดื่มรสลำไยเป็นทางการ ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำหนด
นายตันกล่าวว่า โออิชิให้ความสำคัญการมีสุขภาพแข็งแรง จึงเปิดตัวโครงการ “โออิชิ กรีน คอมแบต 2” เพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถเต้นบอดี้ คอมแบต โครงการดังกล่าว วัตถุประสงค์กระตุ้นให้เยาวชนได้ออกกำลังกาย ใช้งบประมาณสนับสนุนรวม 20 ล้านบาท
โดยจะมีกิจกรรมเดินสายตามโรงเรียนมัธยม 70 แห่งทั่วประเทศ ก.ค.-ธ.ค.ปีนี้ และจัดแข่งขันประกวดเต้นบอดี้ คอมแบต Oishi Green Combat Contest 2 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท การจัดกิจกรรมปีนี้ เป็นปีที่ 2
พร้อมทำซีดีสาธิตท่าเต้นศิลปะป้องกันตัวบอดี้ คอมแบต แจกจ่ายตามโรงเรียนต่าง ๆ หยวน-นิธิชัย ยศอมรสุนทร และพิมพ์-พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร เป็นพรีเซ็นเตอร์ จัดเวิร์กช็อปให้ครูพละโรงเรียนที่ร่วมโครงการ และจัดให้ครูสอนแอโรบิคจากสถานที่ออกกำลังกายใน กทม.ที่สนใจ รวมทั้งจัดประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ด้วย