ก.ล.ต. สั่งผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล (POMPUI) แก้ไขงบการเงิน ซึ่งตรวจสอบ-สอบทานโดยนายสมชาย คุรุจิตโกศล สังกัดบริษัท เอส.เค. แอคเคาน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส ที่จะถูกดำเนินการต่อไป
ก.ล.ต. สั่งบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล (POMPUI) แก้ไขงบการเงิน ซึ่งตรวจสอบ-สอบทานโดยนายสมชาย คุรุจิตโกศล สังกัดบริษัท เอส.เค. แอคเคาน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส
โดยให้
(1) ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้รายบริษัท กว้างโฮลดิ้ง เต็มจำนวน ในงบการเงินปี 2547 และ
(2) แก้ไขงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 ตามผลกระทบที่เกิดจากการแก้ไขงบการเงินปี 2547 โดยให้ส่งงบการเงินที่แก้ไขแล้วต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 22 มิถุนายน
สาเหตุสั่งการดังกล่าว เนื่องจาก POMPUI มีเงินให้กู้ยืมบริษัท กว้างโฮลดิ้ง บริษัทแม่ POMPUI มาหลายปี มีข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่า กว้างโฮลดิ้ง น่าจะไม่สามารถจ่ายชำระหนี้แก่ POMPUI ได้ ดังนี้
1.กว้างโฮลดิ้ง ฐานะการเงินและผลดำเนินงานไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุนดำเนินงานต่อเนื่อง จนส่วน
ผู้ถือหุ้นติดลบ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ว่ากว้างโฮลดิ้งจะหาแหล่งเงินทุนอื่นจ่ายหนี้ POMPUI ได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา POMPUI ปรับโครงสร้างหนี้ให้กว้างโฮลดิ้งมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2543 และ 2546 แต่ละครั้ง กว้างโฮลดิ้งไม่สามารถจ่ายหนี้ POMPUI ได้ตามสัญญา
2.POMPUI ผลดำเนินงานไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด จนทำให้ขาดทุนสะสม ณ 31 มีนาคม
ถึง 340.8 ล้านบาท ยังมีความไม่ชัดเจนว่า POMPUI จะสามารถทำกำไรเพียงพอจะล้างขาดทุนสะสม และจ่ายเงินปันผลกว้างโฮลดิ้ง เพื่อกว้างโฮลดิ้งจะได้นำเงินดังกล่าว ชำระหนี้ POMPUI ได้
อย่างไรก็ดี POMPUI ได้ตั้งค่าเผื่อฯ ปี 2547 และไตรมาส 1 ปี 2548 เพียง 163.3 ล้านบาท และ 365.2 ล้านบาท ตามลำดับ จากยอดเงินให้กู้ยืมทั้งหมด 730.3 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงสั่ง POMPUI ตั้งค่าเผื่อฯ สำหรับรายการดังกล่าวทั้งจำนวนปี 2547 และให้แก้ไขงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 ตามผลกระทบที่เกิดจากการแก้ไขงบการเงินปี 2547
การแก้ไขดังกล่าว จะทำให้งบการเงินปี 2547 แสดงสินทรัพย์รวมลดลง 567 ล้านบาท คิดเป็น
52% และขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 567 ล้านบาท คิดเป็น 460% งบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 แสดงสินทรัพย์รวมลดลง 365 ล้านบาท ลด 43% และขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 365 ล้านบาท เพิ่ม 107%
เนื่องจากผู้สอบบัญชีรายงานอย่างไม่มีเงื่อนไขต่องบการเงินข้างต้น ก.ล.ต. จึงจะพิจารณารายละเอียดการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ก.ล.ต. สั่งบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล (POMPUI) แก้ไขงบการเงิน ซึ่งตรวจสอบ-สอบทานโดยนายสมชาย คุรุจิตโกศล สังกัดบริษัท เอส.เค. แอคเคาน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส
โดยให้
(1) ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้รายบริษัท กว้างโฮลดิ้ง เต็มจำนวน ในงบการเงินปี 2547 และ
(2) แก้ไขงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 ตามผลกระทบที่เกิดจากการแก้ไขงบการเงินปี 2547 โดยให้ส่งงบการเงินที่แก้ไขแล้วต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 22 มิถุนายน
สาเหตุสั่งการดังกล่าว เนื่องจาก POMPUI มีเงินให้กู้ยืมบริษัท กว้างโฮลดิ้ง บริษัทแม่ POMPUI มาหลายปี มีข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่า กว้างโฮลดิ้ง น่าจะไม่สามารถจ่ายชำระหนี้แก่ POMPUI ได้ ดังนี้
1.กว้างโฮลดิ้ง ฐานะการเงินและผลดำเนินงานไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุนดำเนินงานต่อเนื่อง จนส่วน
ผู้ถือหุ้นติดลบ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ว่ากว้างโฮลดิ้งจะหาแหล่งเงินทุนอื่นจ่ายหนี้ POMPUI ได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา POMPUI ปรับโครงสร้างหนี้ให้กว้างโฮลดิ้งมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2543 และ 2546 แต่ละครั้ง กว้างโฮลดิ้งไม่สามารถจ่ายหนี้ POMPUI ได้ตามสัญญา
2.POMPUI ผลดำเนินงานไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด จนทำให้ขาดทุนสะสม ณ 31 มีนาคม
ถึง 340.8 ล้านบาท ยังมีความไม่ชัดเจนว่า POMPUI จะสามารถทำกำไรเพียงพอจะล้างขาดทุนสะสม และจ่ายเงินปันผลกว้างโฮลดิ้ง เพื่อกว้างโฮลดิ้งจะได้นำเงินดังกล่าว ชำระหนี้ POMPUI ได้
อย่างไรก็ดี POMPUI ได้ตั้งค่าเผื่อฯ ปี 2547 และไตรมาส 1 ปี 2548 เพียง 163.3 ล้านบาท และ 365.2 ล้านบาท ตามลำดับ จากยอดเงินให้กู้ยืมทั้งหมด 730.3 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงสั่ง POMPUI ตั้งค่าเผื่อฯ สำหรับรายการดังกล่าวทั้งจำนวนปี 2547 และให้แก้ไขงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 ตามผลกระทบที่เกิดจากการแก้ไขงบการเงินปี 2547
การแก้ไขดังกล่าว จะทำให้งบการเงินปี 2547 แสดงสินทรัพย์รวมลดลง 567 ล้านบาท คิดเป็น
52% และขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 567 ล้านบาท คิดเป็น 460% งบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 แสดงสินทรัพย์รวมลดลง 365 ล้านบาท ลด 43% และขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 365 ล้านบาท เพิ่ม 107%
เนื่องจากผู้สอบบัญชีรายงานอย่างไม่มีเงื่อนไขต่องบการเงินข้างต้น ก.ล.ต. จึงจะพิจารณารายละเอียดการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป