โออิชิ กรุ๊ป (OSIHI) กำไรไตรมาสแรกเพิ่ม 94.2 % พร้อมลุยขยายช่องจำหน่ายอาหารแช่เย็น (Chilled food)
นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีและการเงิน บริษัท โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) กล่าวถึงผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรก ว่าบริษัทมีรายได้รวม 1,189.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 170.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท 94.2%
รายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียว 819.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173.8% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา บริษัทเพิ่มกำลังผลิตเป็น 100% รายได้ธุรกิจอาหาร 369.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากการขยายอีก 5 สาขา ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้บริษัท จากการจำหน่ายชาเขียว 68.9% ขายอาหาร 31.1%
ทางด้านนายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ OISHI กล่าวว่าการผลิตเครื่องดื่มชาเขียว ยังคงใช้กำลังผลิตเต็ม 100% บริษัทจะขยายช่องทางจำหน่ายอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทาน (Chilled Food) ที่จำหน่ายผ่านบริษัท ซีพี เซเอว่น อีเลฟเว่น (CP 7-11) โดยเจรจาเพิ่มจาก 56 สาขา เป็น 100 สาขา ภายในไตรมาส 3
ผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัท ไม่เป็นไปตามประมาณการ เนื่องจากบริษัทใช้เม็ดเงินโฆษณา และส่งเสริมการขายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นจำหน่ายชาเขียว เพื่อเตรียมการสำหรับจำหน่ายช่วงหน้าร้อน ซึ่งประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี
นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีและการเงิน บริษัท โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) กล่าวถึงผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรก ว่าบริษัทมีรายได้รวม 1,189.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 170.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท 94.2%
รายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียว 819.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173.8% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา บริษัทเพิ่มกำลังผลิตเป็น 100% รายได้ธุรกิจอาหาร 369.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากการขยายอีก 5 สาขา ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้บริษัท จากการจำหน่ายชาเขียว 68.9% ขายอาหาร 31.1%
ทางด้านนายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ OISHI กล่าวว่าการผลิตเครื่องดื่มชาเขียว ยังคงใช้กำลังผลิตเต็ม 100% บริษัทจะขยายช่องทางจำหน่ายอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทาน (Chilled Food) ที่จำหน่ายผ่านบริษัท ซีพี เซเอว่น อีเลฟเว่น (CP 7-11) โดยเจรจาเพิ่มจาก 56 สาขา เป็น 100 สาขา ภายในไตรมาส 3
ผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัท ไม่เป็นไปตามประมาณการ เนื่องจากบริษัทใช้เม็ดเงินโฆษณา และส่งเสริมการขายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นจำหน่ายชาเขียว เพื่อเตรียมการสำหรับจำหน่ายช่วงหน้าร้อน ซึ่งประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี