xs
xsm
sm
md
lg

SPALI โยกหุ้นบริษัทในเครือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอร์ดศุภาลัย (SPALI) ให้บริษัท และบริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ บริษัทย่อย ซื้อหุ้นบริษัท ภูเก็ตเอสเตท จากบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ก่อนออกวอแรนต์

บริษัท ศุภาลัย (SPALI) แจ้งมติคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 พ.ค. อนุมัติบริษัท และบริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ บริษัทย่อย ซื้อหุ้นบริษัท ภูเก็ตเอสเตท จากบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน รายละเอียดดังนี้

วันที่ตกลงเข้าทำรายการ 17 พ.ค. บริษัทที่เกี่ยวข้อง : บริษัท ศุภาลัย และบริษัท ศุภาลัยพรอพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ที่ SPALI ถือหุ้น 99.89% ทำธุรกิจบริหารโครงการ อาทิ โรงแรม สถานพักตากอากาศ นิติบุคคลอาคารชุดบ้านจัดสรร

บริษัท ภูเก็ตเอสเตท ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม ที่ภูเก็ต ปัจจุบันบริษัท ศุภาลัยพรอพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ ถือหุ้นบริษัท ภูเก็ตเอสเตท 20.31%

บุคคลที่เกี่ยวโยง บริษัท ศุภาลัย บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ บริษัท มั่นคงเอสเตท จำกัด

% ถือหุ้น ตำแหน่ง % ถือหุ้น ตำแหน่ง % ถือหุ้น ตำแหน่ง

นายประทีป ตั้งมติธรรม 16.03% กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 0.002% กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 31.26% กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม

นางอัจฉรา ตั้งมติธรรม 5.62% กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 0.002% กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 24.00% กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม

มูลเหตุทำรายการ เนื่องจาก SPALI อยู่ระหว่างยื่นคำขออนุญาตเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ รุ่นที่ 3 และ ESOP ต่อสำนักงาน ก.ล.ต ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ต้องไม่มีบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งของผู้ขออนุญาตถือหุ้นบริษัทย่อยเกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทย่อยนั้น

แต่ปี 2544 บริษัท ศุภาลัยพรอพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิมที่สละสิทธิของบริษัท ภูเก็ตเอสเตท 3.9% หลังจากนั้น ก็ซื้อหุ้นเพิ่มทุน และหุ้นที่มีผู้สละสิทธิมาตลอด จนปี 2547 ถือหุ้น 20.3%

คณะกรรมการบริษัทเห็นว่า เป็นบริษัทที่มีศักยภาพ เพราะถือครองที่ดินแปลงติดชายทะเลภูเก็ตฝั่งตะวันออก บริษัสามารถเข้าไปช่วยบริหารจัดการพัฒนาโครงการให้เป็นโรงแรมและที่พักตากอากาศได้

แต่บริษัทดังกล่าวก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2532 โดยนายประทีป ตั้งมติธรรม ถือหุ้น 15% และบริษัท มั่นคงเอสเตท ถือหุ้น 15%

บริษัทนี้ นายประทีปและนางอัจฉรา ตั้งมติธรรม ร่วมถือหุ้น 55.26% เป็นผู้มีอำนาจลงนามบริษัท ร่วมกับกรรมการคนอื่นด้วย

จึงเข้าเกณฑ์บริษัท ภูเก็ตเอสเตท เป็นบริษัทย่อย บมจ.ศุภาลัย จึงให้นายประทีป และ บริษัท มั่นคงเอสเตท ลดสัดส่วนถือหุ้นบริษัท ภูเก็ตเอสเตท รวมกันให้น้อยกว่า 10๔ ซึ่งเป็นเงื่อนไขต่อการอนุญาตเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 3 ของบริษัท

ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 รายตกลงจะขายให้บริษัท ศุภาลัยพรอพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ และ บมจ.ศุภาลัย ซึ่งจะทำให้นายประทีปถือหุ้นอยู่ 587,550 หุ้น 9.99% ขณะที่ บจก.มั่นคงเตท ไม่ได้ถือหุ้นบริษัท ภูเก็ตเอสเตท เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น