เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ครองแชมป์สถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม จากกระทรวงแรงงาน 2 ปีซ้อน บริษัทในเครือฯ 31 แห่ง รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ พร้อมสุดยอดพนักงานดีเด่นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพอีก 5 คน
นับว่าปีนี้ เป็นอีกปีที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ประสบความสำเร็จ ดำเนินนโยบายความปลอดภัย เพราะบริษัทในเครือฯ 31 แห่ง ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานดีเด่น ประจำปี 2548 จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
ถือเป็นกลุ่มบริษัทเพียงแห่งเดียวของไทย ที่มีสถานประกอบการในเครือฯ รับรางวัลนี้มากที่สุด ติดต่อกัน 2 ปีแล้ว โดยปี 2546 ได้รับรางวัลนี้ถึง 26 สถานประกอบการ
คณะผู้บริหาร 31 สถานประกอบการกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน จากนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม งานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ ครั้งที่ 19 พ.ศ.2548 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
รางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัยฯ จัดโดยกองตรวจความปลอดภัย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งปีนี้ สถานประกอบการต่าง ๆ ได้รับรางวัลดีเด่นรวม 210 แห่ง
ปีนี้ กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับรางวัลนี้มากที่สุดถึง 31 สถานประกอบการ เป็นสถานประกอบการกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารมากที่สุดถึง 22 หน่วยงาน รองลงมา เป็นกลุ่มปิโตรเคมี 4 หน่วยงาน กลุ่มพืชครบวงจร 2 หน่วยงาน กลุ่มการตลาดและการจัดจำหน่าย 1 หน่วยงาน และกลุ่มโทรคมนาคม 1 หน่วยงาน
นอกจากนี้ พนักงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสถานประกอบการต่าง ๆ ในเครือฯ 5 คน ได้แก่ นายพีรพล รอดบุญลือ จากบริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด(ศรีราชา) นางสาวศิริธร แสงใส จากบริษัท ซี.พี.อินเตอร์ฟู้ด(ไทยแลนด์) นางสาวนิรมล ไตรธรรม จากบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส นายพงษ์ศักดิ์ บัวมาศ จากบริษัท กรุงเทพผลิตภัณฑ์ข้าว จำกัด (บุรีรัมย์) และนางสาวธรรมศิริ แพน้อย จากบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด ได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยการทำงานระดับวิชาชีพดีเด่น ระดับประเทศ อีกด้วย
“ความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน เป็นเรื่องสำคัญเท่ากับการทำกำไรของธุรกิจ” เป็น 1 นโยบายธุรกิจสำคัญของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์
โดยให้สถานประกอบการ โรงงานทุกแห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน ขณะเดียวกัน ความปลอดภัยในการทำงาน กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ประเทศคู่ค้าเวทีการค้าโลก ใช้เป็นมาตรฐาน และเป็นเกณฑ์เจรจาตกลงการค้า ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะนำเศรษฐกิจไทยสู่สากล
ปัจจุบัน กล่าวได้ว่าโรงงานส่วนใหญ่ในเครือฯ มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ระดับสูง บางโรงงาน ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นระดับประเทศ ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด (พิษณุโลก)
ยังมีโรงงานที่ได้รับรางวัลนี้ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) น้ำน้อย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ้านพรุ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร บริษัท บี.พี.อาหารสัตว์
กล่าวได้ว่าปีนี้ โรงงานในเครือฯ ได้รับรางวัลมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นความสำเร็จการดำเนินนโยบายความปลอดภัยของเครือฯ เนื่องจากธุรกิจขยายตัวมากขึ้นเท่าไร ความเสี่ยงก็จะมากขึ้น
การดำเนินงานด้านความปลอดภัย ยิ่งต้องขยายเป็นเงาตามตัวมากขึ้น การดำเนินนโยบายความปลอดภัย นอกจากพนักงานจะได้รับความปลอดภัย ทรัพย์สินบริษัทก็จะไม่ได้รับความเสียหาย ลดการสูญเสียโดยรวม อีกทั้งยังทำให้ไม่เสียโอกาสธุรกิจด้วย
บรรดาโรงงานต่าง ๆ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม การทำงานครั้งนี้ ปรากฏว่า โรงงานกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารรายใหญ่ของไทย ในฐานะครัวของโลก ได้รับรางวัลดีเด่นนี้มากถึง 17 รางวัล
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวว่าซีพีเอฟให้ความสำคัญมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ไม่น้อยกว่ามาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจอย่างดีจากลูกค้าต่างประเทศ รวมทั้งผู้บริโภคในประเทศ
เพราะมาตรฐานสินค้าซีพี เป็นมาตรฐานระดับโลก มาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ของผู้ปฏิบัติงานในซีพี ก็ต้องระดับโลกด้วย
สถานประกอบการทั้ง 31 แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นระดับประเทศด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน ประกอบด้วย
1.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด (พิษณุโลก) 2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) น้ำน้อย 3.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ้านพรุ 4. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มหาชัย 5. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กิจการธารเกษม
6.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน จำกัด (มหาชน) 7.บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด (มหาชน) 8. บริษัท บี.พี.อาหารสัตว์ จำกัด 9.บริษัท กรุงเทพฯ อาหารสัตว์ จำกัด 10.บริษัท เอส.ดับบลิว.ที.จำกัด 11.บริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด (ศรีราชา) 12.บริษัท โภคภัณฑ์อะควอเทค จำกัด
13.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (โรงงาน ท่าเรือ) 14.บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด 15.บริษัท แอ๊ดว้านซ์ฟาร์ม่า จำกัด 16.บริษัท ซี.พี.อินเตอร์ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด 17.บริษัท ฟาร์มกรุงเทพ จำกัด 18.บริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด (มีนบุรี)
19.บริษัท ซี.พี.อุตสาหกรรมอาหารส่งออก จำกัด 20.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) แปรรูปเนื้อไก่ 21.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) แปรรูปไส้กรอก 22.บริษัท ซี.พี.เมจิ จำกัด 23.บริษัท กรุงเทพอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ จำกัด 24.บริษัท กรุงเทพผลิตภัณฑ์ข้าว จำกัด (บุรีรัมย์)
25.บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด 26.บริษัท ซี.พี.ค้าปลีกและการตลาด จำกัด 27.บริษัท ซี.เอ.ปิโตรเคมี จำกัด 28.บริษัท ซีเอ็นซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 29.บริษัท ซี.พี.สหอุตสาหกรรม จำกัด 30.บริษัท ซี พี พี ซี จำกัด (มหาชน) 31.บริษัท ยูไนเต็ดบรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นับว่าปีนี้ เป็นอีกปีที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ประสบความสำเร็จ ดำเนินนโยบายความปลอดภัย เพราะบริษัทในเครือฯ 31 แห่ง ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานดีเด่น ประจำปี 2548 จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
ถือเป็นกลุ่มบริษัทเพียงแห่งเดียวของไทย ที่มีสถานประกอบการในเครือฯ รับรางวัลนี้มากที่สุด ติดต่อกัน 2 ปีแล้ว โดยปี 2546 ได้รับรางวัลนี้ถึง 26 สถานประกอบการ
คณะผู้บริหาร 31 สถานประกอบการกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน จากนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม งานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ ครั้งที่ 19 พ.ศ.2548 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
รางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัยฯ จัดโดยกองตรวจความปลอดภัย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งปีนี้ สถานประกอบการต่าง ๆ ได้รับรางวัลดีเด่นรวม 210 แห่ง
ปีนี้ กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับรางวัลนี้มากที่สุดถึง 31 สถานประกอบการ เป็นสถานประกอบการกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารมากที่สุดถึง 22 หน่วยงาน รองลงมา เป็นกลุ่มปิโตรเคมี 4 หน่วยงาน กลุ่มพืชครบวงจร 2 หน่วยงาน กลุ่มการตลาดและการจัดจำหน่าย 1 หน่วยงาน และกลุ่มโทรคมนาคม 1 หน่วยงาน
นอกจากนี้ พนักงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสถานประกอบการต่าง ๆ ในเครือฯ 5 คน ได้แก่ นายพีรพล รอดบุญลือ จากบริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด(ศรีราชา) นางสาวศิริธร แสงใส จากบริษัท ซี.พี.อินเตอร์ฟู้ด(ไทยแลนด์) นางสาวนิรมล ไตรธรรม จากบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส นายพงษ์ศักดิ์ บัวมาศ จากบริษัท กรุงเทพผลิตภัณฑ์ข้าว จำกัด (บุรีรัมย์) และนางสาวธรรมศิริ แพน้อย จากบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด ได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยการทำงานระดับวิชาชีพดีเด่น ระดับประเทศ อีกด้วย
“ความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน เป็นเรื่องสำคัญเท่ากับการทำกำไรของธุรกิจ” เป็น 1 นโยบายธุรกิจสำคัญของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์
โดยให้สถานประกอบการ โรงงานทุกแห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน ขณะเดียวกัน ความปลอดภัยในการทำงาน กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ประเทศคู่ค้าเวทีการค้าโลก ใช้เป็นมาตรฐาน และเป็นเกณฑ์เจรจาตกลงการค้า ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะนำเศรษฐกิจไทยสู่สากล
ปัจจุบัน กล่าวได้ว่าโรงงานส่วนใหญ่ในเครือฯ มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ระดับสูง บางโรงงาน ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นระดับประเทศ ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด (พิษณุโลก)
ยังมีโรงงานที่ได้รับรางวัลนี้ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) น้ำน้อย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ้านพรุ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร บริษัท บี.พี.อาหารสัตว์
กล่าวได้ว่าปีนี้ โรงงานในเครือฯ ได้รับรางวัลมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นความสำเร็จการดำเนินนโยบายความปลอดภัยของเครือฯ เนื่องจากธุรกิจขยายตัวมากขึ้นเท่าไร ความเสี่ยงก็จะมากขึ้น
การดำเนินงานด้านความปลอดภัย ยิ่งต้องขยายเป็นเงาตามตัวมากขึ้น การดำเนินนโยบายความปลอดภัย นอกจากพนักงานจะได้รับความปลอดภัย ทรัพย์สินบริษัทก็จะไม่ได้รับความเสียหาย ลดการสูญเสียโดยรวม อีกทั้งยังทำให้ไม่เสียโอกาสธุรกิจด้วย
บรรดาโรงงานต่าง ๆ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม การทำงานครั้งนี้ ปรากฏว่า โรงงานกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารรายใหญ่ของไทย ในฐานะครัวของโลก ได้รับรางวัลดีเด่นนี้มากถึง 17 รางวัล
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวว่าซีพีเอฟให้ความสำคัญมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ไม่น้อยกว่ามาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจอย่างดีจากลูกค้าต่างประเทศ รวมทั้งผู้บริโภคในประเทศ
เพราะมาตรฐานสินค้าซีพี เป็นมาตรฐานระดับโลก มาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ของผู้ปฏิบัติงานในซีพี ก็ต้องระดับโลกด้วย
สถานประกอบการทั้ง 31 แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นระดับประเทศด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน ประกอบด้วย
1.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด (พิษณุโลก) 2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) น้ำน้อย 3.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ้านพรุ 4. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มหาชัย 5. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กิจการธารเกษม
6.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน จำกัด (มหาชน) 7.บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด (มหาชน) 8. บริษัท บี.พี.อาหารสัตว์ จำกัด 9.บริษัท กรุงเทพฯ อาหารสัตว์ จำกัด 10.บริษัท เอส.ดับบลิว.ที.จำกัด 11.บริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด (ศรีราชา) 12.บริษัท โภคภัณฑ์อะควอเทค จำกัด
13.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (โรงงาน ท่าเรือ) 14.บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด 15.บริษัท แอ๊ดว้านซ์ฟาร์ม่า จำกัด 16.บริษัท ซี.พี.อินเตอร์ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด 17.บริษัท ฟาร์มกรุงเทพ จำกัด 18.บริษัท กรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด (มีนบุรี)
19.บริษัท ซี.พี.อุตสาหกรรมอาหารส่งออก จำกัด 20.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) แปรรูปเนื้อไก่ 21.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) แปรรูปไส้กรอก 22.บริษัท ซี.พี.เมจิ จำกัด 23.บริษัท กรุงเทพอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ จำกัด 24.บริษัท กรุงเทพผลิตภัณฑ์ข้าว จำกัด (บุรีรัมย์)
25.บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด 26.บริษัท ซี.พี.ค้าปลีกและการตลาด จำกัด 27.บริษัท ซี.เอ.ปิโตรเคมี จำกัด 28.บริษัท ซีเอ็นซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 29.บริษัท ซี.พี.สหอุตสาหกรรม จำกัด 30.บริษัท ซี พี พี ซี จำกัด (มหาชน) 31.บริษัท ยูไนเต็ดบรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)