CP ชูนโยบาย 3 ประโยชน์ เป็นปรัชญาสำคัญดำเนินธุรกิจ ยันบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน (CPNE) ไม่มีเจตนาจะกระทำการใด ๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมาย กรณีครอบครองที่ดินที่ระยอง ขณะนี้ ฝ่ายกฎหมายเครือเจริญโภคภัณฑ์ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันจะดำเนินการตรงไปตรงมา ตามกฎหมายทุกประการ อีกทั้งยังพร้อมจะให้ความร่วมมือทุกฝ่าย ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะน้อมรับผลสรุปที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
“เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นบริษัทคนไทยที่ยึดมั่นนโยบาย 3 ประโยชน์ คือ การดำเนินธุรกิจ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท” นโยบายนี้ ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งไทย และทุกประเทศที่เครือฯ เข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นผลให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เจริญเติบโตต่อเนื่อง ได้รับการยอมรับจากภาครัฐ ประชาชน และสังคมทั่วไป อย่างดี
เครือเจริญโภคภัณฑ์ชี้แจงว่า ตลอด 84 ปีที่ผ่านมา เครือฯ ประกอบธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เคารพกฎหมาย ยึดมั่นในความถูกต้อง และศีลธรรมอันดีงาม มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมเสมอมา ยึดเป็นนโยบายสำคัญ ที่ทุกบริษัทในเครือฯ ต้องยึดถือ และปฏิบัติตาม เคร่งครัด
กรณีบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน (CPNE) บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ที่ตำบลพังราด อำเภอแกลง ระยอง มากว่า 14 ปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่า การครอบครองสิทธิ์ที่ดิน ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และยังบุกรุกทำลายป่าชายเลน
เครือเจริญโภคภัณฑ์ยืนยันว่าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน ไม่มีเจตนาที่จะกระทำการใด ๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายทุกประการ ขณะนี้ ฝ่ายกฎหมายเครือเจริญโภคภัณฑ์ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยจะดำเนินการตรงไปตรงมา ตามกฎหมายทุกประการ อีกทั้งยังพร้อมจะให้ความร่วมมือทุกฝ่าย ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะน้อมรับผลสรุปที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
“เครือเจริญโภคภัณฑ์” ชี้“นโยบาย 3 ประโยชน์” คือเบื้องหลังความสำเร็จ เป็นองค์กรภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย
“เครือเจริญโภคภัณฑ์ จะทำอะไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงว่า ประเทศชาติต้องได้ประโยชน์ ประชาชนต้องได้ประโยชน์ และบริษัทก็ต้องได้ประโยชน์ด้วย” คือปรัชญาการดำเนินธุรกิจเครือฯ หรือที่เรียกกันว่า “นโยบาย 3 ประโยชน์” ซึ่งผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกยุคทุกสมัย รวมถึงนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยึดถือปฏิบัติมาตลอด
ด้วยปณิธานเครือบริษัทฯ ซึ่งกลายเป็นแนวทางดำเนินนโยบายยึดหลัก 3 ประโยชน์ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศต่างๆ ด้วย นั่นคือประโยชน์ต่อประเทศที่เข้าไปลงทุน ประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศที่เข้าไปลงทุน และประโยชน์ต่อบริษัท รวมถึงพนักงานทุกคน
นโยบายดังกล่าว สร้างความแข็งแกร่ง เป็นรากฐานมั่นคงเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้เติบโตยาวนานหลายทศวรรษ อีกทั้งยังทำให้มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ตลอดระยะเวลาดำเนินธุรกิจ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดถือนโยบายที่ก่อให้เกิดประโยชน์สำคัญ 5 ประการ ได้แก่
1. เพื่อประโยชน์เกษตรกร เช่น ชาวไร่ ชาวนาที่เพาะปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ นำเทคนิค
วิธีการทันสมัย เผยแพร่ เพื่อให้ผลผลิตสูง และคุณภาพดี เป็นการสร้างรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้เกษตรกร โดยบริษัทสนับสนุนด้านวิชาการ และวิจัยพัฒนาด้านเทคโนโลยีตลอดเวลา
2. เพื่อประโยชน์ผู้บริโภค ที่จะได้บริโภคผลิตภัณฑ์คุณภาพ ปลอดภัย และราคาเป็นธรรม
3. เพื่อประโยชน์ต่อสังคม การดำเนินธุรกิจของเครือฯ การนำธุรกิจใหม่ๆ เข้ามา รวมทั้ง
ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีส่วนช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่คนในสังคมให้ดีขึ้น และสะดวกสบาย นอกจากนี้ เครือฯ มีกิจกรรมด้านสังคม ที่เป็นสาธารณะประโยชน์มากมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ที่เดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ผู้ด้อยโอกาสในสังคม เป็นต้น
4. เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ การดำเนินธุรกิจของเครือฯ การดึงบริษัทธุรกิจชั้นนำของ
โลกเข้ามาร่วมลงทุน มีส่วนสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมทั้งสร้างเศรษฐกิจประเทศ นำเงินรายได้เข้าประเทศ จากการส่งออกสินค้า เป็นต้น
5. เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น การดำเนินธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จของเครือฯ ทำให้ผู้ถือหุ้น
ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน
นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนรูปแบบต่าง ๆ อาทิ พัฒนาคนและส่งเสริมอาชีพ รวมถึงพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตชาวชนบท ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในนามมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรม โครงการการศึกษา
ได้แก่ สร้างโรงเรียนเจียรวนนท์ ให้ทุนการศึกษาเยาวชน โครงการบริจาคโลหิต โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือถวายเป็นพระราชกุศล โครงการสร้างพระพุทธนวราชบพิตร พระพิมพ์จิตรลดาในพระบรมราชินูปถัมภ์ และโครงการสร้างพระพุทธนราวันตบพิธ
โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์แจกอาหารปลอดภัย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สร้างบ้านพักถาวรให้ผู้ประสบภัยสึนามิ ที่เกาะลันตา กระบี่ เป็นต้น
“เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นบริษัทคนไทยที่ยึดมั่นนโยบาย 3 ประโยชน์ คือ การดำเนินธุรกิจ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท” นโยบายนี้ ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งไทย และทุกประเทศที่เครือฯ เข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นผลให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เจริญเติบโตต่อเนื่อง ได้รับการยอมรับจากภาครัฐ ประชาชน และสังคมทั่วไป อย่างดี
เครือเจริญโภคภัณฑ์ชี้แจงว่า ตลอด 84 ปีที่ผ่านมา เครือฯ ประกอบธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เคารพกฎหมาย ยึดมั่นในความถูกต้อง และศีลธรรมอันดีงาม มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมเสมอมา ยึดเป็นนโยบายสำคัญ ที่ทุกบริษัทในเครือฯ ต้องยึดถือ และปฏิบัติตาม เคร่งครัด
กรณีบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน (CPNE) บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ที่ตำบลพังราด อำเภอแกลง ระยอง มากว่า 14 ปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่า การครอบครองสิทธิ์ที่ดิน ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และยังบุกรุกทำลายป่าชายเลน
เครือเจริญโภคภัณฑ์ยืนยันว่าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน ไม่มีเจตนาที่จะกระทำการใด ๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงกฎหมายทุกประการ ขณะนี้ ฝ่ายกฎหมายเครือเจริญโภคภัณฑ์ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยจะดำเนินการตรงไปตรงมา ตามกฎหมายทุกประการ อีกทั้งยังพร้อมจะให้ความร่วมมือทุกฝ่าย ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะน้อมรับผลสรุปที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
“เครือเจริญโภคภัณฑ์” ชี้“นโยบาย 3 ประโยชน์” คือเบื้องหลังความสำเร็จ เป็นองค์กรภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย
“เครือเจริญโภคภัณฑ์ จะทำอะไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงว่า ประเทศชาติต้องได้ประโยชน์ ประชาชนต้องได้ประโยชน์ และบริษัทก็ต้องได้ประโยชน์ด้วย” คือปรัชญาการดำเนินธุรกิจเครือฯ หรือที่เรียกกันว่า “นโยบาย 3 ประโยชน์” ซึ่งผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกยุคทุกสมัย รวมถึงนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยึดถือปฏิบัติมาตลอด
ด้วยปณิธานเครือบริษัทฯ ซึ่งกลายเป็นแนวทางดำเนินนโยบายยึดหลัก 3 ประโยชน์ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศต่างๆ ด้วย นั่นคือประโยชน์ต่อประเทศที่เข้าไปลงทุน ประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศที่เข้าไปลงทุน และประโยชน์ต่อบริษัท รวมถึงพนักงานทุกคน
นโยบายดังกล่าว สร้างความแข็งแกร่ง เป็นรากฐานมั่นคงเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้เติบโตยาวนานหลายทศวรรษ อีกทั้งยังทำให้มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ตลอดระยะเวลาดำเนินธุรกิจ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดถือนโยบายที่ก่อให้เกิดประโยชน์สำคัญ 5 ประการ ได้แก่
1. เพื่อประโยชน์เกษตรกร เช่น ชาวไร่ ชาวนาที่เพาะปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ นำเทคนิค
วิธีการทันสมัย เผยแพร่ เพื่อให้ผลผลิตสูง และคุณภาพดี เป็นการสร้างรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้เกษตรกร โดยบริษัทสนับสนุนด้านวิชาการ และวิจัยพัฒนาด้านเทคโนโลยีตลอดเวลา
2. เพื่อประโยชน์ผู้บริโภค ที่จะได้บริโภคผลิตภัณฑ์คุณภาพ ปลอดภัย และราคาเป็นธรรม
3. เพื่อประโยชน์ต่อสังคม การดำเนินธุรกิจของเครือฯ การนำธุรกิจใหม่ๆ เข้ามา รวมทั้ง
ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีส่วนช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่คนในสังคมให้ดีขึ้น และสะดวกสบาย นอกจากนี้ เครือฯ มีกิจกรรมด้านสังคม ที่เป็นสาธารณะประโยชน์มากมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ที่เดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ผู้ด้อยโอกาสในสังคม เป็นต้น
4. เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ การดำเนินธุรกิจของเครือฯ การดึงบริษัทธุรกิจชั้นนำของ
โลกเข้ามาร่วมลงทุน มีส่วนสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมทั้งสร้างเศรษฐกิจประเทศ นำเงินรายได้เข้าประเทศ จากการส่งออกสินค้า เป็นต้น
5. เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น การดำเนินธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จของเครือฯ ทำให้ผู้ถือหุ้น
ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน
นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนรูปแบบต่าง ๆ อาทิ พัฒนาคนและส่งเสริมอาชีพ รวมถึงพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตชาวชนบท ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในนามมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรม โครงการการศึกษา
ได้แก่ สร้างโรงเรียนเจียรวนนท์ ให้ทุนการศึกษาเยาวชน โครงการบริจาคโลหิต โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือถวายเป็นพระราชกุศล โครงการสร้างพระพุทธนวราชบพิตร พระพิมพ์จิตรลดาในพระบรมราชินูปถัมภ์ และโครงการสร้างพระพุทธนราวันตบพิธ
โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์แจกอาหารปลอดภัย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สร้างบ้านพักถาวรให้ผู้ประสบภัยสึนามิ ที่เกาะลันตา กระบี่ เป็นต้น