โดย มนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ผมดีใจมาก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงกำหนดให้วันที่ 14 เมษายน เป็น “วันครอบครัว” ซึ่งกำลังจะมาถึงอีกครั้งหนึ่ง ตามพระราชประสงค์ดังกล่าว ผมเชื่ออย่างมากครับ ว่าครอบครัวที่อบอุ่น ผูกพันกันด้วยความรัก จะทำให้ผู้นำมีกำลังใจเข้มแข็ง ทำงานประสบความสำเร็จ สมาชิกมีความอบอุ่นใจ ดำเนินชีวิตในทางที่ดี มีอนาคตที่สดใส ให้ความรักได้กับคนรอบข้าง ในโอกาสนี้ ผมนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Family Man ครับ
เรื่องย่อมีอยู่ว่า แจ็ค จากเคท แฟนของตนเอง ซึ่งเตยคิดจะแต่งงานกัน 13 ปี ไปเป็นวาณิชธนากรมือเอก เขาเป็นมหาเศรษฐี อยู่คอนโดหรูหรา ขับรถเฟอรารี ใช้ชีวิตเพลย์บอย ผลัดเปลี่ยนแฟนสาวไม่สิ้นสุด
เขาให้ลูกน้องทำงานหนัก แม้เป็นวันก่อนวันคริสตมาส คืนนั้น เขาได้มีโอกาสช่วยทูตสวรรค์ท่านหนึ่ง ซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ยากไร้ ที่ร้านสะดวกซื้อ (คล้าย 7-Eleven) เขาสอนทูตสวรรค์ว่า “ทำงานหนักเพียงพออย่างทุ่มเท ก็จะไม่ยากจน” ทูตสวรรค์ประทับใจมาก และถามกลับว่า “แล้วคุณล่ะ ขาดอะไรบ้าง” แจ็คตอบว่า “ผม..ไม่ขาดอะไรเลย”
เช้าวันคริสต์มาส สภาพแวดล้อมในชีวิตเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นชีวิตที่ได้แต่งงานกับเคท แฟนคนดั้งเดิมของเขา เขาอยู่ในบ้านที่เล็กลง ไม่มีรถยนต์คันหรู มีลูกน่ารัก 2 คน เขางงมากกับชีวิต กลับที่ทำงาน ผู้ช่วยประธาน ก็กลายเป็นประธาน แทนเขาไปแล้ว ทูตสวรรค์กลับมาพบเขา และบอกว่า เขาต้องเรียนรู้จักชีวิตแบบมีครอบครัวเอง แล้วเขาก็ได้รับบทเรียนชีวิตแบบครอบครัวมากมาย
1.ไม่มีอะไรเทียบเท่าความรักแท้ของคู่ชีวิตได้ เคทเป็นภรรยาที่มีความรักแท้ต่อแจ็ค หากจะเทียบกับสาวๆที่แจ็คควงมาที่บ้านอย่างเพลย์บอย เคทให้ความรักอย่างสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ มีความห่วงใย ดูแลกัน
เมื่อแจ็คหายตัวไปในวันคริสต์มาส เธอได้โทรตาม ทั้งสถานีตำรวจและโรงพยาบาล เธอรู้ใจว่า แจ็คชอบเล่นโบว์ลิ่ง และสังสรรค์กับเพื่อน เธอก็พร้อมให้เวลา และความร่วมมือ ช่วยกันดูแลบ้าน และดูแลลูก คอยสร้างความสดชื่น เป็นกำลังใจให้สามีเสมอ แม้จะมีโกรธกันบ้าง แต่ตั้งอยู่บนฐานของความรัก จะเห็นชัดได้ ว่าในตอนท้าย ที่แจ็คเข้าใจชีวิตที่มีครอบครัวได้กระจ่าง เขามีความสุข มีชีวิตชีวาอย่างมากในทั้งชีวิตการงาน และชีวิตครอบครัว การงานก็ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าอย่างดี
2.การดูแลลูกๆ ก็เป็นสิ่งที่วิเศษสุด จากจุดเริ่ม ที่เขาต้องปรับตัวเป็นพ่อลูกอ่อน เขาทำอะไรไม่เป็นเลย เปิดผ้าอ้อมกระดาษด้วยความขัดเขิน ทิ้งลงถังขยะด้วยความรังเกียจ จนลูกสาวคนโต (อายุประมาณ 5-6 ขวบ..กำลังน่ารัก) ถามว่า “พ่อตัวจริงไปไหน ?”
แจ็คก็ตอบว่า “ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ พ่อยังรัก และจะกลับมาหาในไม่ช้า” ลูกสาวจึงตอบว่า “คุณทำหน้ากากเหมือนจริงมาก ขอต้อนรับสู่โลกมนุษย์” แล้วแจ็คก็เริ่มเรียนรู้ ที่จะตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยความรัก ชงช็อคโกแล็ตให้ลูก ล้อเล่นกับลูกเล็ก วิ่งเล่นกับลูกโตอย่างสนุกสนานกลางหิมะหน้าบ้าน จนลูกโตบอกว่า “ดีใจจังที่คุณพ่อกลับมาแล้ว” ความรักของลูกๆ และความสุขในบ้าน เป็นกำลังใจสำหรับคนทำงาน อย่างที่จะหาอย่างอื่นมาเทียบไม่ได้เลย
3.ทรัพย์สมบัติภายนอกมีขึ้นและมีลง แต่ความรักแท้ มั่นคงเสมอ แจ็คอาจมีสมบัติมากมาย หากเป็นโสด แต่ถึงจุดหนึ่ง ก็อาจพบว่าชีวิตว่างเปล่า มีเงินมากอีกหน่อย ก็เท่านั้น หากไม่มีความรักแท้
ผมชอบฉากที่แจ็คฉลองวันครบรอบแต่งงานกับเคท โดยได้คุยกันที่ร้านอาหาร แจ็คบอกเคทว่า “ผมยังสับสนกับภาพชีวิตคนขายปลีกยางรถยนต์ กับอีกชีวิต ที่เป็นวาณิชธนากรหนุ่มโสดที่ร่ำรวย รู้สึกว่าชีวิตวาณิชธนากร ผมมีความเชื่อมั่นมากกว่า”
เคทตอบว่า “เธอไม่คิดหรือ ว่าฉันก็เคยคิดว่า ถ้าไม่มีครอบครัว ไม่ต้องเลี้ยงลูก ชีวิตฉันจะหรูหราเพียงใด ...แต่ฉันก็พบว่า ในภาพนั้น ฉันได้ลบสิ่งเดียวที่ฉันเชื่อมั่นในชีวิต...ก็คือเธอกับลูกๆ” แจ็คก็บอกว่า “นับแต่บัดนี้ ผมเห็นชัดแล้ว ว่าโลกมีแต่ความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรที่เขามั่นใจได้เท่ากับความรักกับคู่ชีวิตและครอบครัว”
ผมเชื่อว่า คนที่สำเร็จที่แท้จริง จะต้องมีความสำเร็จ ทั้งด้านการงานและด้านครอบครัว จึงจะถือว่าสำเร็จจริงครับ
ผมดีใจมาก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงกำหนดให้วันที่ 14 เมษายน เป็น “วันครอบครัว” ซึ่งกำลังจะมาถึงอีกครั้งหนึ่ง ตามพระราชประสงค์ดังกล่าว ผมเชื่ออย่างมากครับ ว่าครอบครัวที่อบอุ่น ผูกพันกันด้วยความรัก จะทำให้ผู้นำมีกำลังใจเข้มแข็ง ทำงานประสบความสำเร็จ สมาชิกมีความอบอุ่นใจ ดำเนินชีวิตในทางที่ดี มีอนาคตที่สดใส ให้ความรักได้กับคนรอบข้าง ในโอกาสนี้ ผมนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Family Man ครับ
เรื่องย่อมีอยู่ว่า แจ็ค จากเคท แฟนของตนเอง ซึ่งเตยคิดจะแต่งงานกัน 13 ปี ไปเป็นวาณิชธนากรมือเอก เขาเป็นมหาเศรษฐี อยู่คอนโดหรูหรา ขับรถเฟอรารี ใช้ชีวิตเพลย์บอย ผลัดเปลี่ยนแฟนสาวไม่สิ้นสุด
เขาให้ลูกน้องทำงานหนัก แม้เป็นวันก่อนวันคริสตมาส คืนนั้น เขาได้มีโอกาสช่วยทูตสวรรค์ท่านหนึ่ง ซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ยากไร้ ที่ร้านสะดวกซื้อ (คล้าย 7-Eleven) เขาสอนทูตสวรรค์ว่า “ทำงานหนักเพียงพออย่างทุ่มเท ก็จะไม่ยากจน” ทูตสวรรค์ประทับใจมาก และถามกลับว่า “แล้วคุณล่ะ ขาดอะไรบ้าง” แจ็คตอบว่า “ผม..ไม่ขาดอะไรเลย”
เช้าวันคริสต์มาส สภาพแวดล้อมในชีวิตเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นชีวิตที่ได้แต่งงานกับเคท แฟนคนดั้งเดิมของเขา เขาอยู่ในบ้านที่เล็กลง ไม่มีรถยนต์คันหรู มีลูกน่ารัก 2 คน เขางงมากกับชีวิต กลับที่ทำงาน ผู้ช่วยประธาน ก็กลายเป็นประธาน แทนเขาไปแล้ว ทูตสวรรค์กลับมาพบเขา และบอกว่า เขาต้องเรียนรู้จักชีวิตแบบมีครอบครัวเอง แล้วเขาก็ได้รับบทเรียนชีวิตแบบครอบครัวมากมาย
1.ไม่มีอะไรเทียบเท่าความรักแท้ของคู่ชีวิตได้ เคทเป็นภรรยาที่มีความรักแท้ต่อแจ็ค หากจะเทียบกับสาวๆที่แจ็คควงมาที่บ้านอย่างเพลย์บอย เคทให้ความรักอย่างสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ มีความห่วงใย ดูแลกัน
เมื่อแจ็คหายตัวไปในวันคริสต์มาส เธอได้โทรตาม ทั้งสถานีตำรวจและโรงพยาบาล เธอรู้ใจว่า แจ็คชอบเล่นโบว์ลิ่ง และสังสรรค์กับเพื่อน เธอก็พร้อมให้เวลา และความร่วมมือ ช่วยกันดูแลบ้าน และดูแลลูก คอยสร้างความสดชื่น เป็นกำลังใจให้สามีเสมอ แม้จะมีโกรธกันบ้าง แต่ตั้งอยู่บนฐานของความรัก จะเห็นชัดได้ ว่าในตอนท้าย ที่แจ็คเข้าใจชีวิตที่มีครอบครัวได้กระจ่าง เขามีความสุข มีชีวิตชีวาอย่างมากในทั้งชีวิตการงาน และชีวิตครอบครัว การงานก็ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าอย่างดี
2.การดูแลลูกๆ ก็เป็นสิ่งที่วิเศษสุด จากจุดเริ่ม ที่เขาต้องปรับตัวเป็นพ่อลูกอ่อน เขาทำอะไรไม่เป็นเลย เปิดผ้าอ้อมกระดาษด้วยความขัดเขิน ทิ้งลงถังขยะด้วยความรังเกียจ จนลูกสาวคนโต (อายุประมาณ 5-6 ขวบ..กำลังน่ารัก) ถามว่า “พ่อตัวจริงไปไหน ?”
แจ็คก็ตอบว่า “ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ พ่อยังรัก และจะกลับมาหาในไม่ช้า” ลูกสาวจึงตอบว่า “คุณทำหน้ากากเหมือนจริงมาก ขอต้อนรับสู่โลกมนุษย์” แล้วแจ็คก็เริ่มเรียนรู้ ที่จะตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยความรัก ชงช็อคโกแล็ตให้ลูก ล้อเล่นกับลูกเล็ก วิ่งเล่นกับลูกโตอย่างสนุกสนานกลางหิมะหน้าบ้าน จนลูกโตบอกว่า “ดีใจจังที่คุณพ่อกลับมาแล้ว” ความรักของลูกๆ และความสุขในบ้าน เป็นกำลังใจสำหรับคนทำงาน อย่างที่จะหาอย่างอื่นมาเทียบไม่ได้เลย
3.ทรัพย์สมบัติภายนอกมีขึ้นและมีลง แต่ความรักแท้ มั่นคงเสมอ แจ็คอาจมีสมบัติมากมาย หากเป็นโสด แต่ถึงจุดหนึ่ง ก็อาจพบว่าชีวิตว่างเปล่า มีเงินมากอีกหน่อย ก็เท่านั้น หากไม่มีความรักแท้
ผมชอบฉากที่แจ็คฉลองวันครบรอบแต่งงานกับเคท โดยได้คุยกันที่ร้านอาหาร แจ็คบอกเคทว่า “ผมยังสับสนกับภาพชีวิตคนขายปลีกยางรถยนต์ กับอีกชีวิต ที่เป็นวาณิชธนากรหนุ่มโสดที่ร่ำรวย รู้สึกว่าชีวิตวาณิชธนากร ผมมีความเชื่อมั่นมากกว่า”
เคทตอบว่า “เธอไม่คิดหรือ ว่าฉันก็เคยคิดว่า ถ้าไม่มีครอบครัว ไม่ต้องเลี้ยงลูก ชีวิตฉันจะหรูหราเพียงใด ...แต่ฉันก็พบว่า ในภาพนั้น ฉันได้ลบสิ่งเดียวที่ฉันเชื่อมั่นในชีวิต...ก็คือเธอกับลูกๆ” แจ็คก็บอกว่า “นับแต่บัดนี้ ผมเห็นชัดแล้ว ว่าโลกมีแต่ความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรที่เขามั่นใจได้เท่ากับความรักกับคู่ชีวิตและครอบครัว”
ผมเชื่อว่า คนที่สำเร็จที่แท้จริง จะต้องมีความสำเร็จ ทั้งด้านการงานและด้านครอบครัว จึงจะถือว่าสำเร็จจริงครับ