โดย มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (montree4life@yahoo.com)
ผมเห็นกระแสการถกความคิดกันเรื่อง "การต้านการจดทะเบียนหุ้นเบียร์ช้างในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" ผมขอร่วมแสดงความรู้และความคิด ในทั้งฐานะบุคคลในแวดวงธุรกิจหลักทรัพย์ และฐานะผู้ที่พยายามมีส่วนทำประโยชน์ให้ส่วนรวมด้วย ดังนี้ครับ
1. ด้านสังคม ศีลธรรม จรรยา : ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการรณรงค์ต่อต้านการดื่มเหล้าเมาสุรา ทุกศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ก็มีคำสอนพ้องกัน ไม่ให้ดื่มเหล้าเมามาย ด้วยเป็นปัญหาต่อสุขภาพร่างกาย การสูญเสียสติสัมปชัญญะ การสูญเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร และยังมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยอีกด้วย
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะมีการต้านการดื่มเหล้าเมาสุรา ไม่เพียง "เลิกดื่มเหล้า..ช่วงเข้าพรรษา" ควรรวมถึง "ออกพรรษา..ก็อย่าเมามาย" ไม่เพียง "อดเหล้า..เพื่อพ่อแม่" ควรรวมถึง "อย่าเมามาย..เพื่อตนเองและลูกหลาน" ช่วยกันรณรงค์ให้เลี่ยงการดื่มเหล้าเมาสุรา เรื่องนี้...ขอร่วมด้วยคน
2. ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง : ขณะที่เราอยากเห็นทุกคนในสังคม ดำเนินชีวิตแห่งความชอบธรรม เรายังยอมรับว่า มีหลายคนที่ยังไม่มีชีวิตที่ดีพร้อม บางคนยังดื่มเหล้าเมากันอยู่ ผมเคยได้รับฟังมา ว่าในปี 1920 สหรัฐอเมริกาเคยพยายามให้การจำหน่าย และการดื่มสุรา เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
สังคมบาป กลับมีความบาปมากยิ่งขึ้น เกิดการค้าในตลาดมืด อำนาจมืด และแก๊งอิทธิพลมากมาย ในที่สุด ก็ต้องยกเลิก ในหลักทางเศรษฐศาสตร์ กิจการประเภทนี้ เช่น เหล้า บุหรี่ หรือสลากกินแบ่ง ฯลฯ สมควรที่รัฐจะควบคุมไม่ให้มีการแข่งขันมากเกินไป จึงให้เป็นกิจการผูกขาด เพื่อไม่ให้มีการโฆษณาชักจูงใจมากเกินไป ดังบ้านเราก็คุมโฆษณา
ทั้งนี้ การผูกขาด แม้จะสร้างประโยชน์พิเศษด้านธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ รัฐก็เรียกเก็บค่าสิทธิการผูกขาดผ่านค่าสัมปทาน ภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆ กลับเข้ารัฐ เป็นหลักการ "ภาษีบาป" ซึ่งเก็บจากการกระทำที่ผิด แต่นำกลับมาสู่ภาครัฐ และประชาชน นอกจากนั้น การกระจายหุ้นให้แก่มหาชน ก็มีส่วนในการนำประโยชน์จากธุรกิจที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้ กระจายไปยังประชาชนอย่างกว้างขวางด้วย
3. ด้านตลาดทุน : ในทั่วโลกมี 45 ประเทศ (รวมทั้ง ญี่ปุ่น จีน-ฮ่องกง สิงคโปร์ ด้วย) ที่มีการจดทะเบียนธุรกิจผลิตแอลกอฮอล์ รวมถึง 251 บริษัท การต้านไม่ให้บริษัทเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น มีสิ่งที่น่าคิด คือ
(ก) ถ้าไม่ให้จดทะเบียนในประเทศ เบียร์ช้างก็คงไปจดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง หรือ อเมริกา การระดมทุนก็เหมือนเดิม หุ้นที่จะเพิ่มมูลค่าตลาดอีกเป็นแสนล้านบาท ก็จะทำให้หุ้นเบียร์ช้าง ไปช่วยตลาดฯ อื่นเท่านั้น (นักลงทุนสถาบันนิยมหุ้นใหญ่ ตลาดไทยยังเป็นตลาดฯ เล็ก การขยายตลาดฯ จะทำให้มีผู้สนใจตลาดหุ้นไทยมากขึ้น) ธุรกิจก็ยังดำเนินการปกติ ทำกำไรตามปกติ ระดมทุนได้ตามปกติ ระดับการควบคุมการโฆษณาก็ปกติ
(ข) การจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก็ไม่น่าจะทำให้การดื่มเหล้า หรือส่งเสริมการขายมากขึ้น เพราะก็คงจะทำได้เพียงระดับเดิม ผมเองรู้จักนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ผมก็คิดว่า ผู้ที่จะมีโอกาสลงทุนในหุ้นบริษัท เบียร์ช้าง ก็ไม่น่าจะอยากดื่มเหล้ามากขึ้น (หากนักเล่นหุ้นเป็นขี้เมาด้วย ขอให้เลิกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนหมดตัว ก็จะดีกว่าครับ)
โดยสรุปแล้ว การรณรงค์ต่อต้านการดื่มเหล้า เป็นเรื่องดีที่ผมขอร่วมด้วย แต่การปฏิเสธไม่ให้หุ้นเบียร์ช้างจดทะเบียนในตลาดไทย หุ้นเบียร์ช้างก็คงไปจดทะเบียนในต่างประเทศ ปัจจัยทุกอย่างด้านสังคม ระดับการดื่ม การทำธุรกิจ ก็ยังเหมือนเดิม ด้านนโยบายรัฐบาล ที่ไม่สนับสนุนการดื่มเหล้า ก็ยังมีในระดับเดียวกันได้ ไม่ว่าหุ้นช้างจะจดทะเบียนในไทย หรือในต่างประเทศ
ในที่สุด สิ่งที่น่าคิด คือเราอาจเพียงเสียประโยชน์ทางธุรกิจ โดยที่ปัจจัยด้านสังคม เกี่ยวกับเรื่องการดื่มสุรา ก็ยังอาจจะเหมือนเดิมหรือไม่ ???
ผมเห็นกระแสการถกความคิดกันเรื่อง "การต้านการจดทะเบียนหุ้นเบียร์ช้างในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" ผมขอร่วมแสดงความรู้และความคิด ในทั้งฐานะบุคคลในแวดวงธุรกิจหลักทรัพย์ และฐานะผู้ที่พยายามมีส่วนทำประโยชน์ให้ส่วนรวมด้วย ดังนี้ครับ
1. ด้านสังคม ศีลธรรม จรรยา : ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการรณรงค์ต่อต้านการดื่มเหล้าเมาสุรา ทุกศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ก็มีคำสอนพ้องกัน ไม่ให้ดื่มเหล้าเมามาย ด้วยเป็นปัญหาต่อสุขภาพร่างกาย การสูญเสียสติสัมปชัญญะ การสูญเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร และยังมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยอีกด้วย
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะมีการต้านการดื่มเหล้าเมาสุรา ไม่เพียง "เลิกดื่มเหล้า..ช่วงเข้าพรรษา" ควรรวมถึง "ออกพรรษา..ก็อย่าเมามาย" ไม่เพียง "อดเหล้า..เพื่อพ่อแม่" ควรรวมถึง "อย่าเมามาย..เพื่อตนเองและลูกหลาน" ช่วยกันรณรงค์ให้เลี่ยงการดื่มเหล้าเมาสุรา เรื่องนี้...ขอร่วมด้วยคน
2. ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง : ขณะที่เราอยากเห็นทุกคนในสังคม ดำเนินชีวิตแห่งความชอบธรรม เรายังยอมรับว่า มีหลายคนที่ยังไม่มีชีวิตที่ดีพร้อม บางคนยังดื่มเหล้าเมากันอยู่ ผมเคยได้รับฟังมา ว่าในปี 1920 สหรัฐอเมริกาเคยพยายามให้การจำหน่าย และการดื่มสุรา เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
สังคมบาป กลับมีความบาปมากยิ่งขึ้น เกิดการค้าในตลาดมืด อำนาจมืด และแก๊งอิทธิพลมากมาย ในที่สุด ก็ต้องยกเลิก ในหลักทางเศรษฐศาสตร์ กิจการประเภทนี้ เช่น เหล้า บุหรี่ หรือสลากกินแบ่ง ฯลฯ สมควรที่รัฐจะควบคุมไม่ให้มีการแข่งขันมากเกินไป จึงให้เป็นกิจการผูกขาด เพื่อไม่ให้มีการโฆษณาชักจูงใจมากเกินไป ดังบ้านเราก็คุมโฆษณา
ทั้งนี้ การผูกขาด แม้จะสร้างประโยชน์พิเศษด้านธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ รัฐก็เรียกเก็บค่าสิทธิการผูกขาดผ่านค่าสัมปทาน ภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆ กลับเข้ารัฐ เป็นหลักการ "ภาษีบาป" ซึ่งเก็บจากการกระทำที่ผิด แต่นำกลับมาสู่ภาครัฐ และประชาชน นอกจากนั้น การกระจายหุ้นให้แก่มหาชน ก็มีส่วนในการนำประโยชน์จากธุรกิจที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้ กระจายไปยังประชาชนอย่างกว้างขวางด้วย
3. ด้านตลาดทุน : ในทั่วโลกมี 45 ประเทศ (รวมทั้ง ญี่ปุ่น จีน-ฮ่องกง สิงคโปร์ ด้วย) ที่มีการจดทะเบียนธุรกิจผลิตแอลกอฮอล์ รวมถึง 251 บริษัท การต้านไม่ให้บริษัทเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น มีสิ่งที่น่าคิด คือ
(ก) ถ้าไม่ให้จดทะเบียนในประเทศ เบียร์ช้างก็คงไปจดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง หรือ อเมริกา การระดมทุนก็เหมือนเดิม หุ้นที่จะเพิ่มมูลค่าตลาดอีกเป็นแสนล้านบาท ก็จะทำให้หุ้นเบียร์ช้าง ไปช่วยตลาดฯ อื่นเท่านั้น (นักลงทุนสถาบันนิยมหุ้นใหญ่ ตลาดไทยยังเป็นตลาดฯ เล็ก การขยายตลาดฯ จะทำให้มีผู้สนใจตลาดหุ้นไทยมากขึ้น) ธุรกิจก็ยังดำเนินการปกติ ทำกำไรตามปกติ ระดมทุนได้ตามปกติ ระดับการควบคุมการโฆษณาก็ปกติ
(ข) การจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก็ไม่น่าจะทำให้การดื่มเหล้า หรือส่งเสริมการขายมากขึ้น เพราะก็คงจะทำได้เพียงระดับเดิม ผมเองรู้จักนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ผมก็คิดว่า ผู้ที่จะมีโอกาสลงทุนในหุ้นบริษัท เบียร์ช้าง ก็ไม่น่าจะอยากดื่มเหล้ามากขึ้น (หากนักเล่นหุ้นเป็นขี้เมาด้วย ขอให้เลิกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนหมดตัว ก็จะดีกว่าครับ)
โดยสรุปแล้ว การรณรงค์ต่อต้านการดื่มเหล้า เป็นเรื่องดีที่ผมขอร่วมด้วย แต่การปฏิเสธไม่ให้หุ้นเบียร์ช้างจดทะเบียนในตลาดไทย หุ้นเบียร์ช้างก็คงไปจดทะเบียนในต่างประเทศ ปัจจัยทุกอย่างด้านสังคม ระดับการดื่ม การทำธุรกิจ ก็ยังเหมือนเดิม ด้านนโยบายรัฐบาล ที่ไม่สนับสนุนการดื่มเหล้า ก็ยังมีในระดับเดียวกันได้ ไม่ว่าหุ้นช้างจะจดทะเบียนในไทย หรือในต่างประเทศ
ในที่สุด สิ่งที่น่าคิด คือเราอาจเพียงเสียประโยชน์ทางธุรกิจ โดยที่ปัจจัยด้านสังคม เกี่ยวกับเรื่องการดื่มสุรา ก็ยังอาจจะเหมือนเดิมหรือไม่ ???