ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
“ธุรกิจหมอดู” ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจรุ่งเรือง หรือซบเซา คนไทยส่วนหนึ่ง ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่บีบคั้น ทำให้เกิดอาการเครียด ภาวการณ์เช่นนี้ ทำให้ทุกคนพยายามหาทางออกที่ดีกว่าให้ชีวิตและจิตใจของตนเอง
ที่ปรึกษาที่เป็นทางเลือกของคนไทยไม่น้อย คือหมอดู แม้ปัจจุบัน หมอดูที่มีชื่อเสียง จะเพิ่มราคาค่าบริการ แต่ก็ยังมีลูกค้าอุดหนุนต่อเนื่อง นอกจากใช้บริการหมอดูเป็นการส่วนตัว ปัจจุบัน หนังสือและนิตยสารต่างๆ ก็จะตีพิมพ์คำทำนายชะตาชีวิตสอดแทรกเข้ามา เป็นหนึ่งในคอลัมภ์ประจำให้ผู้อ่าน
บริการหมอดู จัดเป็น 1 ในคอลัมภ์ยอดฮิต ที่มีแฟนประจำไม่น้อยทีเดียว นอกจากนี้ ช่วงเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ก็มีการทำนายชะตาชีวิต ทั้งในอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และบริการผ่านระบบออดิโอเท็กซ์
บริการเหล่านี้ มีทั้งบริการฟรี และต้องเสียค่าใช้จ่าย การดูหมอผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ทำให้ธุรกิจหมอดูได้รับความสนใจกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา กลุ่มเยาวชน หมอดู จึงเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากเงินที่สะพัดในธุรกิจนี้ แต่ละปีมูลค่าไม่น้อยทีเดียว
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจ “คนไทยกับการใช้บริการหมอดู” ช่วงระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์-4 มีนาคม กลุ่มตัวอย่าง 1,441 คน กระจายกลุ่มตัวอย่างตามภาค
พิจารณาสัดส่วนกระจายกลุ่มตัวอย่าง ตามจำนวนประชากร จากรายงานสถิติประชากร ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ รวมทั้งกระจายกลุ่มตัวอย่าง ตามเพศและอาชีพ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้พฤติกรรมใช้บริการหมอดู ต่างกัน
คาดปีนี้ คนไทยเสียค่าใช้จ่ายดูหมอประมาณ 4,000 ล้านบาท คำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใช้บริการ ยังคาดเม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดู จะยังคงแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ที่เคยใช้บริการหมอดู ยังคงยืนยันจะพึ่งบริการหมอดูต่อไป
บริการหมอดู…เงินสะพัด 4,000 ล้านบาท…คนกรุงเทพฯ นำลิ่ว
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสำรวจ “คนไทยกับการใช้บริการหมอดู” เมื่อนำคำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใช้บริการ การสำรวจ พบว่าธุรกิจหมอดู ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศปีนี้ ประมาณ 4,000 ล้านบาท
มูลค่านี้ เฉพาะค่าใช้จ่ายดูหมอ ยังไม่รวมธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ เช่น ธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ ธุรกิจหนังสือพยากรณ์ดวงชะตา เป็นต้น
เม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดูแยกรายภาค
จำนวนผู้ใช้บริการ
(%)ความถี่ในการใช้บริการ (ครั้ง/ปี)ค่าใช้จ่าย
(บาท/ครั้ง)เม็ดเงินสะพัด
(ล้านบาท)
กรุงเทพฯ และปริมณฑล17.53.49270.341,600
ภาคกลาง12.12.82192.61900
ภาคเหนือ5.42.81192.72300
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ8.83.2163.041,000
ภาคใต้6.83.2105.67200
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ผลสำรวจ พบว่าคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ผู้นิยมใช้บริการธุรกิจหมอดูเฉลี่ย 17.5% ของกลุ่มตัวอย่าง ความถี่ใช้บริการเฉลี่ยประมาณ 3.49 ครั้งต่อปี ค่าใช้จ่ายใช้บริการหมอดูเฉลี่ย 270.34 บาทต่อครั้ง
เม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดูในกรุงเทพฯ จึงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ ส่วนภาคใต้ เม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดูน้อยที่สุด เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างที่ใช้บริการธุรกิจหมอดู มีเพียง 6.8% เสียค่าใช้จ่ายดูหมอเฉลี่ยเพียง 105.67 บาทต่อครั้ง
ประเภทหมอดูยอดนิยม 5 อันดับแรก คือ วัน-เดือน-ปีเกิด ลายมือ ดวง กราฟชีวิต และคนทรง อันดับความนิยมประเภทหมอดู ต่างกันแต่ละภาค เช่น กลุ่มตัวอย่างภาคเหนือ จะนิยมใช้บริการดูลายมือมากกว่าภาคอื่นๆ กลุ่มตัวอย่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมใช้บริการคนทรงมากกว่าภาคอื่นๆ เป็นต้น
พฤติกรรมการใช้บริการหมอดูแยกรายอาชีพ
%
พนักงานบริษัทเอกชนข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจค้าขาย/กิจการส่วนตัวนักเรียน/นักศึกษาแม่บ้านรับจ้าง
เคย โดย
-ต้องดูหมอเป็นประจำ
-ดูหมอทุกครั้งที่มีโอกาส
-ดูหมอเฉพาะเวลามีปัญหา
-อื่นๆ44.4%
6.3%
37.5%
53.1%
3.1%53.1%
6.1%
36.4%
51.5%
6.1%62.1%
14.3%
10.7%
67.9%
7.1%55.2%
1.4%
50.7%
46.6%
1.4%56.4%
-
35.3%
64.7%
-42.9%
10%
20%
70%
-
ไม่เคยใช้บริการ55.6%46.9%37.9%44.8%43.6%57.1%
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
พิจารณาแยกกลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพที่นิยมใช้บริการหมอดู คือกลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว กล่าวคือ กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว 14.3% ของกลุ่มตัวอย่าง ใช้บริการหมอดูเป็นประจำ ความถี่ใช้บริการเฉลี่ย 2.52 ครั้งต่อปี เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 328.81 บาทต่อครั้ง ปัญหายอดนิยมที่ต้องปรึกษาหมอดู คือปัญหาการงาน ปัญหาการเงิน และปัญหาครอบครัว
กลุ่มตัวอย่างที่น่าสนใจ คือกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา หรือกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบใช้บริการหมอดู กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา 1.4% ของกลุ่มตัวอย่าง ใช้บริการหมอดูเป็นประจำ ความถี่ใช้บริการเฉลี่ย 3.75 ครั้งต่อปี เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 111 บาทต่อครั้ง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง นิยมใช้บริการหมอดูผ่านอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และบริการออดิโอเท็กซ์ ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นสนใจใช้บริการธุรกิจหมอดูมากขึ้น ปัญหายอดนิยมที่วัยรุ่นต้องปรึกษาหมอดู คือ ปัญหาความรัก ปัญหาการเรียน และปัญหาครอบครัว
หมอดู…ที่ปรึกษาปัญหาของคนไทย
การสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการหมอดูกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า
-ลักษณะพึ่งพาธุรกิจหมอดู แยกเป็น 54.6% พึ่งบริการดูหมอเมื่อเวลามีปัญหา 36.6% จะดูหมอเมื่อมีโอกาส 5.4% พึ่งธุรกิจหมอดูเป็นประจำ อีก 3.4% นานๆ ครั้งจึงจะพึ่งหมอดู
เมื่อเทียบผลสำรวจครั้งที่ผ่านๆ มา จำนวนคนพึ่งหมอดูเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการที่จะหาโอกาสดูหมอทุกครั้งที่มีโอกาส ดังนั้น ความถี่ดูหมอจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มค้าขาย/ กิจการส่วนตัว และกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา
-ปัญหายอดนิยม 3 อันดับแรกที่ปรึกษาหมอดู คือ ปัญหาการเงิน ปัญหาการงาน และปัญหาความรัก ซึ่งต่างจากผลสำรวจครั้งที่ผ่านมา กล่าวคือ คนไทยเริ่มให้ความสำคัญปัญหาการเงิน ปัญหาการงาน และปัญหาความรัก มากขึ้นชัดเจน เทียบผลสำรวจที่ผ่านมา
-ความถี่ใช้บริการหมอดู โดยเฉลี่ย ใช้บริการหมอดูปีละ 3.16 ครั้ง เสียค่าใช้จ่ายดูหมอเฉลี่ย 190.66 บาทต่อครั้ง อย่างไรก็ตาม ความถี่ดูหมอ และค่าใช้จ่ายดูหมอ ต่างกันมาก เมื่อเทียบระหว่างกลุ่มตัวอย่าง ทั้งในแง่เพศ ระดับการศึกษา และอาชีพ
เนื่องจากคนส่วนใหญ่ เสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 200 บาทต่อครั้ง แต่ก็มีกลุ่มตัวอย่างบางราย ยินดีจะจ่ายเกิน 1,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นกับความเชื่อถือตัวหมอดูแต่ละคน เมื่อเทียบผลสำรวจพฤติกรรมใช้บริการหมอดู จากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา
ทั้งความถี่และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยดูหมอต่อครั้งเพิ่มขึ้น จึงพอจะสรุปได้ ว่าไม่ว่าหมอดูจะขึ้นราคาค่าบริการ แต่คนไทยก็ยังนิยมใช้บริการหมอดู
-ประเภทหมอดูยอดนิยม 5 อันดับแรก คือ ดูวัน-เดือน-ปีเกิด ดูลายมือ ดูดวง กราฟชีวิต และคนทรง สถานที่นิยมดูหมอมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ บ้านหมอดู วัด และใช้บริการอินเตอร์เน็ต
จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ทางเลือกดูหมอเพิ่มขึ้น เนื่องจากความทันสมัยเทคโนโลยี จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ความนิยมพึ่งบริการหมอดูทางโทรศัพท์มือถือ ใช้บริการทางอินเตอร์เน็ต และใช้บริการออดิโอเท็กซ์ มากยิ่งขึ้น
-ปัจจัยที่มีอิทธิพลเลือกหมอดู 57% ของกลุ่มตัวอย่าง ได้รับการแนะนำจากเพื่อนหรือญาติ 28.5% ดูหมอเพราะได้ยินชื่อเสียงหมอดู 12.3% ไปตามคำแนะนำของหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ที่เหลืออีก 2.3% ไม่ได้เจาะจงหมอดูคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ เพียงแต่โอกาสเอื้ออำนวยให้ดูหมอช่วงนั้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า ความมีชื่อเสียงของหมอดู เริ่มเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้น ในการเลือกหมอดู
ภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง…ไม่ส่งผลกระทบธุรกิจหมอดู
หมอดูเป็นธุรกิจน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากผลสำรวจพฤติกรรมใช้บริการหมอดูตลอดระยะที่ผ่านมาของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ธุรกิจหมอดูก็ยังคงได้รับความนิยม และขยายตัวต่อเนื่อง
แม้ช่วงเศรษฐกิจซบเซา หลายธุรกิจในไทยได้รับผลกระทบถ้วนหน้า แต่หมอดู เป็นธุรกิจหนึ่ง ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นธุรกิจเฟื่องฟู และยังได้รับความนิยมสม่ำเสมอ
ช่วงเศรษฐกิจรุ่งโรจน์ ธุรกิจหมอดูก็ยังมีเม็ดเงินสะพัดเป็นกอบเป็นกำ มูลค่ามหาศาลของธุรกิจนี้ น่าจับตามองอย่างมาก การสำรวจของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ทั้งช่วงเศรษฐกิจดีและซบเซา พฤติกรรมดูหมอ ใกล้เคียงกันมาก ทั้งในแง่ความถี่ดูหมอ และค่าใช้จ่ายดูหมอแต่ละครั้ง จะต่างกันเพียงรายละเอียดปัญหาที่ปรึกษาหมอดูเท่านั้น
ประเด็นน่าสนใจ คือสาเหตุหลักที่คนไทยนิยมใช้บริการหมอดู เพื่อต้องการคลายความกังวลปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าในชีวิต ผลสำรวจ หมอดูช่วยคลายความกังวลได้ไม่มากก็น้อย กล่าวคือ กลุ่มตัวอย่างประมาณ 2 ใน 3 จะรู้สึกคลายความกังวลปัญหาต่างๆ เมื่อปรึกษาหมอดู
ดังนั้น คำกล่าวที่ว่าหมอดูนั้น นอกจากจะทำนายทายทักอนาคต ยังรับหน้าที่จิตแพทย์อีกด้วย ไม่เกินความเป็นจริงเลย
สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้น คือเพียง 5.1% ของกลุ่มตัวอย่าง ที่เชื่อมั่นคำทำนายหมอดูมาก ที่เหลือ 70.3% เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง อีก 24.6% ไม่เชื่อคำทำนายเลย แต่ 20.9% ของกลุ่มตัวอย่าง ยังคงจะพึ่งบริการหมอดูอีกต่อไปอนาคต
เทคโนโลยีทันสมัย…สร้างลูกค้าใหม่สำหรับธุรกิจหมอดู
ปัจจุบัน จะสังเกตเห็นว่า กิจการหมอดูแพร่หลายเข้าไปในสื่อต่างๆ แทบทุกประเภท เดิม คำทำนายของหมอดู ที่จะพบเห็นได้เสมอ คือในหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ โดยแต่ละเล่ม จะมีคอลัมภ์หมอดูไว้ให้บริการคนอ่านโดยเฉพาะ ผู้อ่านบางท่านก็เปิดอ่านคอลัมภ์นี้ก่อนคอลัมภ์อื่นๆ
หลังจากนั้น กิจการหมอดูเริ่มเข้าไปมีบทบาทในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม ซึ่งสร้างรายได้ให้สถานที่ดังกล่าวพอสมควรทีเดียว ปัจจุบัน เทคโนโลยีทันสมัย มีส่วนช่วยให้ธุรกิจหมอดูเฟื่องฟูมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการดูหมอทางโทรศัพท์มือถือ ออดิโอเท็กซ์ และอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้ที่นิยมดูหมอทั้งหลาย มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องการจะดูหมอ มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ธุรกิจเหล่านี้ พยายามดึงหมอดูที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ เป็นผู้ให้คำทำนาย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายมากยิ่งขึ้น แม้การดูหมอในสื่อต่างๆ จะเป็นเพียงบริการเสริม แต่ก็นับว่ามีส่วนอย่างมาก สร้างสีสันน่าสนใจให้สื่อต่างๆ จนกระทั่งบางครั้ง มีการโฆษณาว่าหมอดูชื่อดัง เขียนคำพยากรณ์ให้ฉบับนี้เป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดผู้นิยมหมอดู หันมาซื้อหนังสือเล่มนี้มากยิ่งขึ้น
สถานที่ที่นิยมใช้บริการหมอดู
%
พนักงานบริษัทข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจค้าขาย/กิจการส่วนตัวนักเรียน/นักศึกษาแม่บ้านรับจ้าง
บ้านหมอดู27.5%34.8%50%4.6%32.3%41.7%
สมาคมโหราศาสตร์4.3%7.6%2%0.7%3.2%2.8%
วัด30.4%19.7%20%9.9%35.5%19.4%
ห้างสรรพสินค้า2.9%1.5%-4.6%6.5%-
โรงแรม-1.5%2%0.7%-8.2%
ใช้บริการอินเตอร์เน็ต13.0%16.7%8%28.5%-16.7%
โทรศัพท์มือถือ2.9%6.1%2%22.5%6.5%2.8%
อ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์11.6%9.1%4%4.6%3.2%5.6%
ใช้บริการออดิโอเท็กซ์(1900)1.4%3%6%20.5%6.5%-
สถานที่จัดงานต่างๆ5.8%-6%3.3%6.5%2.8%
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ประเด็นน่าสนใจ คือการใช้สื่อที่ทันสมัยมากขึ้นให้บริการหมอดู ทำให้ธุรกิจหมอดูได้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา กลุ่มหนุ่มสาวสมัยใหม่ ที่เคยชินกับการใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์การสื่อสารทันสมัย
ทำให้เป้าหมายการดูหมอเพิ่มบทบาทเป็นธุรกิจที่สร้างความบันเทิง และช่วยแก้เหงายามว่างด้วย จากที่เคยเป็นธุรกิจที่มุ่งจะทำนายทายทักอนาคต และเป็นที่ปรึกษายามมีปัญหาเท่านั้น
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญทำให้บริการหมอดูในสื่อที่ทันสมัยต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว คือให้คำทำนายฟรี หรือค่าใช้จ่ายถูกกว่าใช้บริการหมอดูตามสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าต้องการจะรู้รายละเอียด จึงจะจ่ายเงินกัน ทำให้กลุ่มผู้เข้ามาใช้บริการ เป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเน้นอ่านคำพยากรณ์ เพื่อความบันเทิงมากกว่าที่จะเป็นการดูหมอจริงจัง
เม็ดเงินทำบุญ-สะเดาะเคราะห์…รับอานิสงส์จากธุรกิจหมอดู
ความนิยมหมอดู นอกจากจะทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากสะพัดอยู่ในธุรกิจนี้ ธุรกิจต่อเนื่องธุรกิจดูหมอในเมืองไทย ยังเฟื่องฟูตาม เนื่องจากเมื่อหาหมอดู 67.3% ของกลุ่มตัวอย่าง ได้รับคำแนะนำให้ทำบุญ 19.9% ได้รับคำแนะนำสะเดาะเคราะห์ ที่เหลืออีก 12.9% พบหมอดูเพื่อต้องการตรวจดวงชะตา หรือถามปัญหา เท่านั้น
ธุรกิจทำบุญ-สะเดาะเคราะห์ ในบรรดาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหมอดู ธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ เป็นธุรกิจที่เฟื่องฟู และได้รับอานิสงส์มากที่สุด คนที่ใช้บริการหมอดูประมาณ 85% ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ จะทำบุญ หรือสะเดาะเคราะห์ ตามที่ได้รับคำแนะนำ
แยกเป็น 8.3% จะทำตามคำแนะนำทันที 28.1% จะทำตามคำแนะนำเมื่อพร้อม ส่วนอีก 48.6% ต้องพิจารณาก่อน ว่าจะทำตามหรือไม่ เพียง 15% ไม่ทำตามคำแนะนำเนื่องจากคิดว่า ไม่สามารถจะช่วยแก้ปัญหาได้ การสำรวจ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ตามคำแนะนำหมอดู ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศถึงปีละ 200 ล้านบาท
เม็ดเงินสะพัดธุรกิจทำบุญ/สะเดาะห์เคราะห์แยกรายภาค
กลุ่มตัวอย่างที่ทำตามคำแนะนำให้ทำบุญ/สะเดาะห์เคราะห์
(%)ค่าใช้จ่าย
(บาท/ครั้ง)เม็ดเงินสะพัด
(ล้านบาท)
กรุงเทพฯและปริมณฑล94.2274.7285
ภาคกลาง85.7243.1240
ภาคเหนือ82216.2824
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ77.8210.2539
ภาคใต้78.5243.8914
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการทำบุญ/สะเดาะห์เคราะห์ของคนที่ทำตามคำแนะนำของหมอดู คือธุรกิจปล่อยสัตว์ต่างๆ ธุรกิจเครื่องสังฆทาน ธุรกิจหล่อพระพุทธรูป ธุรกิจจำหน่ายผ้าหลากสี หรือแม้แต่ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์แปลก เช่น เลื่อย ฆ้อน เป็นต้น ซึ่งบางครั้ง หมอดูแนะนำให้นำของเหล่านี้ถวายพระ เพื่อทำบุญ หรือแก้เคล็ด
นอกจากการทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหมอดูใหญ่ที่สุดแล้ว ก็มีธุรกิจอื่นๆ เกี่ยวข้องกับธุรกิจหมอดูอื่นๆ อีก ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ดูหมอ
โดยเฉพาะตำราที่ใช้ประกอบดูหมอ ซึ่งมีวางจำหน่ายหลากหลาย สำหรับผู้สนใจจะหาซื้อไว้เพื่อศึกษาด้วยตนเอง หรือซื้อไปใช้ สำหรับประกอบอาชีพหมอดูอนาคต โดยในร้านจำหน่ายหนังสือหลายแห่ง จัดวางหนังสือเกี่ยวกับหมอดูไว้เป็นมุมเฉพาะ เพื่อตอบสนองผู้อ่านสนใจหนังสือด้านนี้
ส่วนอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นไพ่ป๊อก ไพ่ทาโร่หรือไพ่ยิปซี แว่นขยาย ปฏิทิน 100 ปีสำหรับดูตำแหน่งของดาวต่างๆ ในวันเกิดของผู้ต้องการดูหมอ ฯลฯ อุปกรณ์ที่ใช้ดูหมอเหล่านี้ ยอดขายเพิ่มขึ้น ตามความนิยมของธุรกิจหมอดู
โดยหมอดูสมัครเล่น ต้องการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อประกอบการศึกษาตำราหมอดู ธุรกิจหนังสือ และเทปพยากรณ์ดวงชะตา โดยเฉพาะหนังสือและเทปเฉพาะกิจ ที่เป็นคำทำนายดวงชะตาตลอดทั้งปี ตามดวงวันเกิด 12 ราศี ซึ่งจะออกจำหน่ายช่วงปลายปี และต้นปี
หนังสือและเทปดังกล่าวนี้ มีวางจำหน่ายในร้านขายหนังสือ และได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง และธุรกิจโรงเรียนสอนการพยากรณ์ดวงชะตา
ปัจจุบัน คนไทยสนใจดูหมอมาก ทำให้อาชีพหมอดูเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากมีโอกาสจะมีรายได้งาม ถ้ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ปัจจุบัน มีผู้เป็นหมอดูสมัครเล่นมากมาย ที่สนใจศึกษาด้วยตนเอง และเรียนรู้จากอาจารย์หมอดูทั้งหลาย ดังนั้น โรงเรียนสอนการพยากรณ์ดวงชะตา จึงเป็นธุรกิจที่แนวโน้มแจ่มใสไม่น้อยทีเดียว
สรุป
หมอดูเป็นธุรกิจน่าสนใจ เนื่องจากไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะรุ่งเรือง หรือซบเซา ธุรกิจหมอดู ก็ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง ความถี่ดูหมอ และค่าใช้จ่ายดูหมอ ใกล้เคียงกัน ผลจากการสำรวจของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจหมอดูปีนี้ ประมาณ 4,000 ล้านบาท
คำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใช้บริการ ซึ่งนอกจากเม็ดเงินที่หมุนเวียนในธุรกิจหมอดู ความนิยมธุรกิจหมอดูที่เติบโตต่อเนื่อง ยังสร้างเม็ดเงินธุรกิจต่อเนื่องอีกมากมาย
โดยเฉพาะธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ ซึ่งประเมินปีนี้ เม็ดเงินสะพัดธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น จากการปฏิบัติตามคำแนะนำหมอดูถึง 200 ล้านบาท ยังมีธุรกิจน่าสนใจอื่นๆ อีกหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจำหน่ายหนังสือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูหมอ เทปและหนังสือคำพยากรณ์ รวมทั้งธุรกิจโรงเรียนสอนการพยากรณ์ดวงชะตา เหล่านี้ เป็นต้น ต่างก็ได้รับอานิสงส์จากธุรกิจหมอดู ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง
“ธุรกิจหมอดู” ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจรุ่งเรือง หรือซบเซา คนไทยส่วนหนึ่ง ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่บีบคั้น ทำให้เกิดอาการเครียด ภาวการณ์เช่นนี้ ทำให้ทุกคนพยายามหาทางออกที่ดีกว่าให้ชีวิตและจิตใจของตนเอง
ที่ปรึกษาที่เป็นทางเลือกของคนไทยไม่น้อย คือหมอดู แม้ปัจจุบัน หมอดูที่มีชื่อเสียง จะเพิ่มราคาค่าบริการ แต่ก็ยังมีลูกค้าอุดหนุนต่อเนื่อง นอกจากใช้บริการหมอดูเป็นการส่วนตัว ปัจจุบัน หนังสือและนิตยสารต่างๆ ก็จะตีพิมพ์คำทำนายชะตาชีวิตสอดแทรกเข้ามา เป็นหนึ่งในคอลัมภ์ประจำให้ผู้อ่าน
บริการหมอดู จัดเป็น 1 ในคอลัมภ์ยอดฮิต ที่มีแฟนประจำไม่น้อยทีเดียว นอกจากนี้ ช่วงเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ก็มีการทำนายชะตาชีวิต ทั้งในอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และบริการผ่านระบบออดิโอเท็กซ์
บริการเหล่านี้ มีทั้งบริการฟรี และต้องเสียค่าใช้จ่าย การดูหมอผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ทำให้ธุรกิจหมอดูได้รับความสนใจกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา กลุ่มเยาวชน หมอดู จึงเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากเงินที่สะพัดในธุรกิจนี้ แต่ละปีมูลค่าไม่น้อยทีเดียว
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจ “คนไทยกับการใช้บริการหมอดู” ช่วงระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์-4 มีนาคม กลุ่มตัวอย่าง 1,441 คน กระจายกลุ่มตัวอย่างตามภาค
พิจารณาสัดส่วนกระจายกลุ่มตัวอย่าง ตามจำนวนประชากร จากรายงานสถิติประชากร ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ รวมทั้งกระจายกลุ่มตัวอย่าง ตามเพศและอาชีพ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้พฤติกรรมใช้บริการหมอดู ต่างกัน
คาดปีนี้ คนไทยเสียค่าใช้จ่ายดูหมอประมาณ 4,000 ล้านบาท คำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใช้บริการ ยังคาดเม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดู จะยังคงแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ที่เคยใช้บริการหมอดู ยังคงยืนยันจะพึ่งบริการหมอดูต่อไป
บริการหมอดู…เงินสะพัด 4,000 ล้านบาท…คนกรุงเทพฯ นำลิ่ว
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสำรวจ “คนไทยกับการใช้บริการหมอดู” เมื่อนำคำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใช้บริการ การสำรวจ พบว่าธุรกิจหมอดู ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศปีนี้ ประมาณ 4,000 ล้านบาท
มูลค่านี้ เฉพาะค่าใช้จ่ายดูหมอ ยังไม่รวมธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ เช่น ธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ ธุรกิจหนังสือพยากรณ์ดวงชะตา เป็นต้น
เม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดูแยกรายภาค
จำนวนผู้ใช้บริการ
(%)ความถี่ในการใช้บริการ (ครั้ง/ปี)ค่าใช้จ่าย
(บาท/ครั้ง)เม็ดเงินสะพัด
(ล้านบาท)
กรุงเทพฯ และปริมณฑล17.53.49270.341,600
ภาคกลาง12.12.82192.61900
ภาคเหนือ5.42.81192.72300
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ8.83.2163.041,000
ภาคใต้6.83.2105.67200
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ผลสำรวจ พบว่าคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ผู้นิยมใช้บริการธุรกิจหมอดูเฉลี่ย 17.5% ของกลุ่มตัวอย่าง ความถี่ใช้บริการเฉลี่ยประมาณ 3.49 ครั้งต่อปี ค่าใช้จ่ายใช้บริการหมอดูเฉลี่ย 270.34 บาทต่อครั้ง
เม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดูในกรุงเทพฯ จึงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ ส่วนภาคใต้ เม็ดเงินสะพัดธุรกิจหมอดูน้อยที่สุด เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างที่ใช้บริการธุรกิจหมอดู มีเพียง 6.8% เสียค่าใช้จ่ายดูหมอเฉลี่ยเพียง 105.67 บาทต่อครั้ง
ประเภทหมอดูยอดนิยม 5 อันดับแรก คือ วัน-เดือน-ปีเกิด ลายมือ ดวง กราฟชีวิต และคนทรง อันดับความนิยมประเภทหมอดู ต่างกันแต่ละภาค เช่น กลุ่มตัวอย่างภาคเหนือ จะนิยมใช้บริการดูลายมือมากกว่าภาคอื่นๆ กลุ่มตัวอย่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมใช้บริการคนทรงมากกว่าภาคอื่นๆ เป็นต้น
พฤติกรรมการใช้บริการหมอดูแยกรายอาชีพ
%
พนักงานบริษัทเอกชนข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจค้าขาย/กิจการส่วนตัวนักเรียน/นักศึกษาแม่บ้านรับจ้าง
เคย โดย
-ต้องดูหมอเป็นประจำ
-ดูหมอทุกครั้งที่มีโอกาส
-ดูหมอเฉพาะเวลามีปัญหา
-อื่นๆ44.4%
6.3%
37.5%
53.1%
3.1%53.1%
6.1%
36.4%
51.5%
6.1%62.1%
14.3%
10.7%
67.9%
7.1%55.2%
1.4%
50.7%
46.6%
1.4%56.4%
-
35.3%
64.7%
-42.9%
10%
20%
70%
-
ไม่เคยใช้บริการ55.6%46.9%37.9%44.8%43.6%57.1%
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
พิจารณาแยกกลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพที่นิยมใช้บริการหมอดู คือกลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว กล่าวคือ กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว 14.3% ของกลุ่มตัวอย่าง ใช้บริการหมอดูเป็นประจำ ความถี่ใช้บริการเฉลี่ย 2.52 ครั้งต่อปี เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 328.81 บาทต่อครั้ง ปัญหายอดนิยมที่ต้องปรึกษาหมอดู คือปัญหาการงาน ปัญหาการเงิน และปัญหาครอบครัว
กลุ่มตัวอย่างที่น่าสนใจ คือกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา หรือกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบใช้บริการหมอดู กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา 1.4% ของกลุ่มตัวอย่าง ใช้บริการหมอดูเป็นประจำ ความถี่ใช้บริการเฉลี่ย 3.75 ครั้งต่อปี เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 111 บาทต่อครั้ง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง นิยมใช้บริการหมอดูผ่านอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และบริการออดิโอเท็กซ์ ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นสนใจใช้บริการธุรกิจหมอดูมากขึ้น ปัญหายอดนิยมที่วัยรุ่นต้องปรึกษาหมอดู คือ ปัญหาความรัก ปัญหาการเรียน และปัญหาครอบครัว
หมอดู…ที่ปรึกษาปัญหาของคนไทย
การสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการหมอดูกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า
-ลักษณะพึ่งพาธุรกิจหมอดู แยกเป็น 54.6% พึ่งบริการดูหมอเมื่อเวลามีปัญหา 36.6% จะดูหมอเมื่อมีโอกาส 5.4% พึ่งธุรกิจหมอดูเป็นประจำ อีก 3.4% นานๆ ครั้งจึงจะพึ่งหมอดู
เมื่อเทียบผลสำรวจครั้งที่ผ่านๆ มา จำนวนคนพึ่งหมอดูเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการที่จะหาโอกาสดูหมอทุกครั้งที่มีโอกาส ดังนั้น ความถี่ดูหมอจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มค้าขาย/ กิจการส่วนตัว และกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา
-ปัญหายอดนิยม 3 อันดับแรกที่ปรึกษาหมอดู คือ ปัญหาการเงิน ปัญหาการงาน และปัญหาความรัก ซึ่งต่างจากผลสำรวจครั้งที่ผ่านมา กล่าวคือ คนไทยเริ่มให้ความสำคัญปัญหาการเงิน ปัญหาการงาน และปัญหาความรัก มากขึ้นชัดเจน เทียบผลสำรวจที่ผ่านมา
-ความถี่ใช้บริการหมอดู โดยเฉลี่ย ใช้บริการหมอดูปีละ 3.16 ครั้ง เสียค่าใช้จ่ายดูหมอเฉลี่ย 190.66 บาทต่อครั้ง อย่างไรก็ตาม ความถี่ดูหมอ และค่าใช้จ่ายดูหมอ ต่างกันมาก เมื่อเทียบระหว่างกลุ่มตัวอย่าง ทั้งในแง่เพศ ระดับการศึกษา และอาชีพ
เนื่องจากคนส่วนใหญ่ เสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 200 บาทต่อครั้ง แต่ก็มีกลุ่มตัวอย่างบางราย ยินดีจะจ่ายเกิน 1,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นกับความเชื่อถือตัวหมอดูแต่ละคน เมื่อเทียบผลสำรวจพฤติกรรมใช้บริการหมอดู จากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา
ทั้งความถี่และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยดูหมอต่อครั้งเพิ่มขึ้น จึงพอจะสรุปได้ ว่าไม่ว่าหมอดูจะขึ้นราคาค่าบริการ แต่คนไทยก็ยังนิยมใช้บริการหมอดู
-ประเภทหมอดูยอดนิยม 5 อันดับแรก คือ ดูวัน-เดือน-ปีเกิด ดูลายมือ ดูดวง กราฟชีวิต และคนทรง สถานที่นิยมดูหมอมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ บ้านหมอดู วัด และใช้บริการอินเตอร์เน็ต
จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ทางเลือกดูหมอเพิ่มขึ้น เนื่องจากความทันสมัยเทคโนโลยี จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ความนิยมพึ่งบริการหมอดูทางโทรศัพท์มือถือ ใช้บริการทางอินเตอร์เน็ต และใช้บริการออดิโอเท็กซ์ มากยิ่งขึ้น
-ปัจจัยที่มีอิทธิพลเลือกหมอดู 57% ของกลุ่มตัวอย่าง ได้รับการแนะนำจากเพื่อนหรือญาติ 28.5% ดูหมอเพราะได้ยินชื่อเสียงหมอดู 12.3% ไปตามคำแนะนำของหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ที่เหลืออีก 2.3% ไม่ได้เจาะจงหมอดูคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ เพียงแต่โอกาสเอื้ออำนวยให้ดูหมอช่วงนั้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า ความมีชื่อเสียงของหมอดู เริ่มเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้น ในการเลือกหมอดู
ภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง…ไม่ส่งผลกระทบธุรกิจหมอดู
หมอดูเป็นธุรกิจน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากผลสำรวจพฤติกรรมใช้บริการหมอดูตลอดระยะที่ผ่านมาของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ธุรกิจหมอดูก็ยังคงได้รับความนิยม และขยายตัวต่อเนื่อง
แม้ช่วงเศรษฐกิจซบเซา หลายธุรกิจในไทยได้รับผลกระทบถ้วนหน้า แต่หมอดู เป็นธุรกิจหนึ่ง ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นธุรกิจเฟื่องฟู และยังได้รับความนิยมสม่ำเสมอ
ช่วงเศรษฐกิจรุ่งโรจน์ ธุรกิจหมอดูก็ยังมีเม็ดเงินสะพัดเป็นกอบเป็นกำ มูลค่ามหาศาลของธุรกิจนี้ น่าจับตามองอย่างมาก การสำรวจของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ทั้งช่วงเศรษฐกิจดีและซบเซา พฤติกรรมดูหมอ ใกล้เคียงกันมาก ทั้งในแง่ความถี่ดูหมอ และค่าใช้จ่ายดูหมอแต่ละครั้ง จะต่างกันเพียงรายละเอียดปัญหาที่ปรึกษาหมอดูเท่านั้น
ประเด็นน่าสนใจ คือสาเหตุหลักที่คนไทยนิยมใช้บริการหมอดู เพื่อต้องการคลายความกังวลปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าในชีวิต ผลสำรวจ หมอดูช่วยคลายความกังวลได้ไม่มากก็น้อย กล่าวคือ กลุ่มตัวอย่างประมาณ 2 ใน 3 จะรู้สึกคลายความกังวลปัญหาต่างๆ เมื่อปรึกษาหมอดู
ดังนั้น คำกล่าวที่ว่าหมอดูนั้น นอกจากจะทำนายทายทักอนาคต ยังรับหน้าที่จิตแพทย์อีกด้วย ไม่เกินความเป็นจริงเลย
สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้น คือเพียง 5.1% ของกลุ่มตัวอย่าง ที่เชื่อมั่นคำทำนายหมอดูมาก ที่เหลือ 70.3% เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง อีก 24.6% ไม่เชื่อคำทำนายเลย แต่ 20.9% ของกลุ่มตัวอย่าง ยังคงจะพึ่งบริการหมอดูอีกต่อไปอนาคต
เทคโนโลยีทันสมัย…สร้างลูกค้าใหม่สำหรับธุรกิจหมอดู
ปัจจุบัน จะสังเกตเห็นว่า กิจการหมอดูแพร่หลายเข้าไปในสื่อต่างๆ แทบทุกประเภท เดิม คำทำนายของหมอดู ที่จะพบเห็นได้เสมอ คือในหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ โดยแต่ละเล่ม จะมีคอลัมภ์หมอดูไว้ให้บริการคนอ่านโดยเฉพาะ ผู้อ่านบางท่านก็เปิดอ่านคอลัมภ์นี้ก่อนคอลัมภ์อื่นๆ
หลังจากนั้น กิจการหมอดูเริ่มเข้าไปมีบทบาทในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม ซึ่งสร้างรายได้ให้สถานที่ดังกล่าวพอสมควรทีเดียว ปัจจุบัน เทคโนโลยีทันสมัย มีส่วนช่วยให้ธุรกิจหมอดูเฟื่องฟูมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการดูหมอทางโทรศัพท์มือถือ ออดิโอเท็กซ์ และอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้ที่นิยมดูหมอทั้งหลาย มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องการจะดูหมอ มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ธุรกิจเหล่านี้ พยายามดึงหมอดูที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ เป็นผู้ให้คำทำนาย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายมากยิ่งขึ้น แม้การดูหมอในสื่อต่างๆ จะเป็นเพียงบริการเสริม แต่ก็นับว่ามีส่วนอย่างมาก สร้างสีสันน่าสนใจให้สื่อต่างๆ จนกระทั่งบางครั้ง มีการโฆษณาว่าหมอดูชื่อดัง เขียนคำพยากรณ์ให้ฉบับนี้เป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดผู้นิยมหมอดู หันมาซื้อหนังสือเล่มนี้มากยิ่งขึ้น
สถานที่ที่นิยมใช้บริการหมอดู
%
พนักงานบริษัทข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจค้าขาย/กิจการส่วนตัวนักเรียน/นักศึกษาแม่บ้านรับจ้าง
บ้านหมอดู27.5%34.8%50%4.6%32.3%41.7%
สมาคมโหราศาสตร์4.3%7.6%2%0.7%3.2%2.8%
วัด30.4%19.7%20%9.9%35.5%19.4%
ห้างสรรพสินค้า2.9%1.5%-4.6%6.5%-
โรงแรม-1.5%2%0.7%-8.2%
ใช้บริการอินเตอร์เน็ต13.0%16.7%8%28.5%-16.7%
โทรศัพท์มือถือ2.9%6.1%2%22.5%6.5%2.8%
อ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์11.6%9.1%4%4.6%3.2%5.6%
ใช้บริการออดิโอเท็กซ์(1900)1.4%3%6%20.5%6.5%-
สถานที่จัดงานต่างๆ5.8%-6%3.3%6.5%2.8%
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ประเด็นน่าสนใจ คือการใช้สื่อที่ทันสมัยมากขึ้นให้บริการหมอดู ทำให้ธุรกิจหมอดูได้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา กลุ่มหนุ่มสาวสมัยใหม่ ที่เคยชินกับการใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์การสื่อสารทันสมัย
ทำให้เป้าหมายการดูหมอเพิ่มบทบาทเป็นธุรกิจที่สร้างความบันเทิง และช่วยแก้เหงายามว่างด้วย จากที่เคยเป็นธุรกิจที่มุ่งจะทำนายทายทักอนาคต และเป็นที่ปรึกษายามมีปัญหาเท่านั้น
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญทำให้บริการหมอดูในสื่อที่ทันสมัยต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว คือให้คำทำนายฟรี หรือค่าใช้จ่ายถูกกว่าใช้บริการหมอดูตามสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าต้องการจะรู้รายละเอียด จึงจะจ่ายเงินกัน ทำให้กลุ่มผู้เข้ามาใช้บริการ เป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเน้นอ่านคำพยากรณ์ เพื่อความบันเทิงมากกว่าที่จะเป็นการดูหมอจริงจัง
เม็ดเงินทำบุญ-สะเดาะเคราะห์…รับอานิสงส์จากธุรกิจหมอดู
ความนิยมหมอดู นอกจากจะทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากสะพัดอยู่ในธุรกิจนี้ ธุรกิจต่อเนื่องธุรกิจดูหมอในเมืองไทย ยังเฟื่องฟูตาม เนื่องจากเมื่อหาหมอดู 67.3% ของกลุ่มตัวอย่าง ได้รับคำแนะนำให้ทำบุญ 19.9% ได้รับคำแนะนำสะเดาะเคราะห์ ที่เหลืออีก 12.9% พบหมอดูเพื่อต้องการตรวจดวงชะตา หรือถามปัญหา เท่านั้น
ธุรกิจทำบุญ-สะเดาะเคราะห์ ในบรรดาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหมอดู ธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ เป็นธุรกิจที่เฟื่องฟู และได้รับอานิสงส์มากที่สุด คนที่ใช้บริการหมอดูประมาณ 85% ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ จะทำบุญ หรือสะเดาะเคราะห์ ตามที่ได้รับคำแนะนำ
แยกเป็น 8.3% จะทำตามคำแนะนำทันที 28.1% จะทำตามคำแนะนำเมื่อพร้อม ส่วนอีก 48.6% ต้องพิจารณาก่อน ว่าจะทำตามหรือไม่ เพียง 15% ไม่ทำตามคำแนะนำเนื่องจากคิดว่า ไม่สามารถจะช่วยแก้ปัญหาได้ การสำรวจ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ตามคำแนะนำหมอดู ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศถึงปีละ 200 ล้านบาท
เม็ดเงินสะพัดธุรกิจทำบุญ/สะเดาะห์เคราะห์แยกรายภาค
กลุ่มตัวอย่างที่ทำตามคำแนะนำให้ทำบุญ/สะเดาะห์เคราะห์
(%)ค่าใช้จ่าย
(บาท/ครั้ง)เม็ดเงินสะพัด
(ล้านบาท)
กรุงเทพฯและปริมณฑล94.2274.7285
ภาคกลาง85.7243.1240
ภาคเหนือ82216.2824
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ77.8210.2539
ภาคใต้78.5243.8914
ที่มา : โพลล์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการทำบุญ/สะเดาะห์เคราะห์ของคนที่ทำตามคำแนะนำของหมอดู คือธุรกิจปล่อยสัตว์ต่างๆ ธุรกิจเครื่องสังฆทาน ธุรกิจหล่อพระพุทธรูป ธุรกิจจำหน่ายผ้าหลากสี หรือแม้แต่ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์แปลก เช่น เลื่อย ฆ้อน เป็นต้น ซึ่งบางครั้ง หมอดูแนะนำให้นำของเหล่านี้ถวายพระ เพื่อทำบุญ หรือแก้เคล็ด
นอกจากการทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหมอดูใหญ่ที่สุดแล้ว ก็มีธุรกิจอื่นๆ เกี่ยวข้องกับธุรกิจหมอดูอื่นๆ อีก ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ดูหมอ
โดยเฉพาะตำราที่ใช้ประกอบดูหมอ ซึ่งมีวางจำหน่ายหลากหลาย สำหรับผู้สนใจจะหาซื้อไว้เพื่อศึกษาด้วยตนเอง หรือซื้อไปใช้ สำหรับประกอบอาชีพหมอดูอนาคต โดยในร้านจำหน่ายหนังสือหลายแห่ง จัดวางหนังสือเกี่ยวกับหมอดูไว้เป็นมุมเฉพาะ เพื่อตอบสนองผู้อ่านสนใจหนังสือด้านนี้
ส่วนอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นไพ่ป๊อก ไพ่ทาโร่หรือไพ่ยิปซี แว่นขยาย ปฏิทิน 100 ปีสำหรับดูตำแหน่งของดาวต่างๆ ในวันเกิดของผู้ต้องการดูหมอ ฯลฯ อุปกรณ์ที่ใช้ดูหมอเหล่านี้ ยอดขายเพิ่มขึ้น ตามความนิยมของธุรกิจหมอดู
โดยหมอดูสมัครเล่น ต้องการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อประกอบการศึกษาตำราหมอดู ธุรกิจหนังสือ และเทปพยากรณ์ดวงชะตา โดยเฉพาะหนังสือและเทปเฉพาะกิจ ที่เป็นคำทำนายดวงชะตาตลอดทั้งปี ตามดวงวันเกิด 12 ราศี ซึ่งจะออกจำหน่ายช่วงปลายปี และต้นปี
หนังสือและเทปดังกล่าวนี้ มีวางจำหน่ายในร้านขายหนังสือ และได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง และธุรกิจโรงเรียนสอนการพยากรณ์ดวงชะตา
ปัจจุบัน คนไทยสนใจดูหมอมาก ทำให้อาชีพหมอดูเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากมีโอกาสจะมีรายได้งาม ถ้ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ปัจจุบัน มีผู้เป็นหมอดูสมัครเล่นมากมาย ที่สนใจศึกษาด้วยตนเอง และเรียนรู้จากอาจารย์หมอดูทั้งหลาย ดังนั้น โรงเรียนสอนการพยากรณ์ดวงชะตา จึงเป็นธุรกิจที่แนวโน้มแจ่มใสไม่น้อยทีเดียว
สรุป
หมอดูเป็นธุรกิจน่าสนใจ เนื่องจากไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะรุ่งเรือง หรือซบเซา ธุรกิจหมอดู ก็ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง ความถี่ดูหมอ และค่าใช้จ่ายดูหมอ ใกล้เคียงกัน ผลจากการสำรวจของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจหมอดูปีนี้ ประมาณ 4,000 ล้านบาท
คำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใช้บริการ ซึ่งนอกจากเม็ดเงินที่หมุนเวียนในธุรกิจหมอดู ความนิยมธุรกิจหมอดูที่เติบโตต่อเนื่อง ยังสร้างเม็ดเงินธุรกิจต่อเนื่องอีกมากมาย
โดยเฉพาะธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ ซึ่งประเมินปีนี้ เม็ดเงินสะพัดธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น จากการปฏิบัติตามคำแนะนำหมอดูถึง 200 ล้านบาท ยังมีธุรกิจน่าสนใจอื่นๆ อีกหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจำหน่ายหนังสือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูหมอ เทปและหนังสือคำพยากรณ์ รวมทั้งธุรกิจโรงเรียนสอนการพยากรณ์ดวงชะตา เหล่านี้ เป็นต้น ต่างก็ได้รับอานิสงส์จากธุรกิจหมอดู ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง