xs
xsm
sm
md
lg

Equity Style

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฝ่ายบริหารกองทุนส่วนบุคคล
บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด
e-mail address : bls-privatefund@bualuang.co.th

รูปแบบการลงทุนในตราสารทุน หรือ Equity Style ที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในแวดวงการเงินนั้น จะเป็นรูปแบบการลงทุนในตราสารทุนที่นิยามโดย Frank Russell ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ

1) ให้ความสำคัญกับมูลค่า (Value)
2) ให้ความสำคัญกับการเติบโต (Growth)

3) ให้ความสำคัญกับตลาด (Market)
4) เลือกลงทุนเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดขนาดเล็ก (Small Capitalization)

1)Value เป็นรูปแบบการลงทุนที่เน้นมูลค่า นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ประเภทนี้ในการลงทุน เรา
เรียกว่าเป็น Value Investor กลยุทธ์โดยส่วนใหญ่ มักจะเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีราคาถูก โดยเฉพาะหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำๆ

นักลงทุนในกลุ่มนี้ บางครั้ง นอกจากพิจารณาค่า P/E ที่ต่ำแล้ว อาจจะพิจารณาค่า P/BV และ Price-to-Sales Ratio ในการพิจารณาด้วย โดยปกติแล้ว หลักทรัพย์ที่ลงทุนส่วนใหญ่ จะมีลักษณะเป็นบริษัทที่มีการเติบโต และอัตราการทำกำไรที่ไม่สูงนัก นักลงทุนที่เป็นประเภท Value Investor สามารถแบ่งย่อยเป็น Sub-styles ได้อีก 3 ประเภท โดยปัจจัยที่พิจารณา ดังต่อไปนี้

-Low P/E นักลงทุนประเภทนี้ จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่มีค่า P/E ที่ต่ำเป็นหลัก
โดยปกติ จะเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท Defensive, Cyclical, หรือหลักทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่มที่นักลงทุนอื่นๆ ในตลาดฯ ไม่ให้ความสนใจในขณะนั้น

-Contrarian กลยุทธ์ของการลงทุนแบบนี้ จะเน้นหุ้นที่มีการประเมินมูลค่าค่อนข้างต่ำ
เมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี หรือ Book Value ของบริษัทนั้นๆ โดยปกติแล้ว นักลงทุนประเภท Contrarian Investor จะเข้าลงทุนในช่วงที่ราคาของหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่ง มีการปรับตัวลงมากๆ

โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวร้ายเข้ามากระทบในช่วงใดช่วงหนึ่ง โดยเชื่อว่า ราคาของหลักทรัพย์ที่ลงทุนไป จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ลักษณะของบริษัทที่เข้าข่ายประเภทนี้ เช่น เป็นบริษัทที่มีระดับหนี้สินต่อทุนค่อนข้างสูง คุณภาพของกำไรสุทธิในขณะที่เข้าลงทุนอยู่ในระดับต่ำ เป็นต้น

-Yield นักลงทุนประเภทนี้จะค่อนข้าง Conservative กล่าวคือ จะลงทุนในบริษัทที่
การเติบโตของกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี หรือมีการจ่ายปันผลที่ดี โดยจะพิจารณาจากความสามารถในการจ่ายเงินปันผลเป็นหลัก

2)Growth กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นไปที่การเติบโตของบริษัท ที่จะลงทุนเป็นสำคัญ นักลงทุน
ประเภทนี้ มักจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

1) หุ้นที่มีค่า P/E สูงกว่าตลาดฯ โดยคาดหวังว่า การเติบโตในอนาคต จะอยู่ในระดับที่สูงมาก

2) บริษัทที่พิจารณาแล้ว ว่าเป็นบริษัทที่มีคุณภาพดี
3) หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ดี โดยเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดการว่าจะมีระดับการเติบโตในระดับที่สูงมาก ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และรับเหมาก่อสร้างในปัจจุบัน สำหรับนักลงทุนที่เป็นประเภท Growth Style นั้น สามารถแบ่งย่อยเป็น Sub-styles ได้อีก 2 ประเภท คือ

-Consistent Growth นักลงทุนประเภทนี้ จะเน้นไปที่บริษัทที่มีคุณภาพดี (High-
Quality Firms) โดยเฉพาะมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่ต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว บริษัทที่เข้าข่ายนี้ จะเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำตลาดฯ ในตลาดฯ ของตัวเอง ยกตัวอย่างบริษัทที่เข้าข่ายนี้ เช่น ITD, LH, AH เป็นต้น

-Earnings Momentum การลงทุนประเภทนี้ จะเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ที่
คาดการณ์ว่า จะมีการเติบโตของกำไรจะเติบโตอย่างมากมายในอนาคต โดยรูปแบบการลงทุน จะไม่จำกัดว่า จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใด เกณฑ์ในการลงทุน จะพิจารณาการเติบโตของกำไรสุทธิในระดับที่สูงเป็นหลัก

ในครั้งหน้า เราจะมาพูดถึงรูปแบบการลงทุนที่เหลืออีก 2 ประเภท คือ Market และ Small Capitalization
กำลังโหลดความคิดเห็น