xs
xsm
sm
md
lg

TFD คาดปีนี้โต 2 เท่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) คาดฟันรายได้ปีนี้กว่า 1,300 ล้านบาท โต 2 เท่าจากปีที่แล้ว หลัก ๆ จากการขายทรัพย์สินให้กองทุนรวมอสังหาฯ โครงการคอนโดมิเนียมเลคกรีน สุขุมวิทซอย 8 โครงการที่พักอาศัย สุขุมวิทซอย 59 โครงการโรงงานสำเร็จรูปในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ประธานบอร์ดบริหารบริษัทเผยอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินบางนา-ตราด ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำโรงงานจับตลาด SMEs หลังเชื่อมั่น Wทักษิณ” กลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบแน่

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักด้านสร้างโรงงานสำเร็จรูปเพื่อขาย และให้เช่า ตลอดจนโครงการที่พักอาศัยย่านทำเลใจกลางเมือง เปิดเผยว่าบริษัทตั้งประมาณการเติบโตปีนี้ 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา

คือตั้งเป้ารายได้ 1,300 ล้านบาท ที่มาของรายได้หลัก จากการขายทรัพย์สิน ทั้งภาคโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารที่พักอาศัย และรายได้ค่าเช่าระยะยาว รายได้หลักจากการขายทรัพย์สินให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ซึ่งจะตั้งเสร็จภายในไตรมาสแรกปีนี้

การขายโครงการคอนโดมิเนียมเลคกรีน สุขุมวิท ซอย 8 ซึ่งเปิดขายมาตั้งแต่ต้นปี 2547 จากโครงการที่พักอาศัย ซอยสุขุมวิท 59 และโครงการโรงงานสำเร็จรูปที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ฯลฯ ผลจากรายได้ในการขายของบริษัท จะนำมาลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อโครงการพัฒนาต่อไปปีนี้

แม้ที่ผ่านมา มีปัญหาราคาน้ำมัน ไข้หวัดนก หรือมหันตภัยสึนามิ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบสถานการณ์การลงทุนปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มการเลือกตั้งในไทยที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคไทยรักไทย โดยนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร น่าจะได้รับเสียงข้างมาก และกลับเข้ามาบริหารประเทศต่ออีก 4 ปี

ทำให้มีผลต่อด้านความเชื่อมั่นศักยภาพของรัฐบาล เห็นได้จากส่วนของบริษัทเอง ที่ดำเนินธุรกิจหลัก คือสร้างโรงงานเพื่อปล่อยเช่าให้ลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลัก ยอดขายปลายปีที่ผ่านมา โรงงานและที่ดินเปล่าในนิคมอุตสาหกรรม มีการขายที่ดีกว่าช่วงกลางปี เช่นเดียวกับคอนโดมิเนียมพักอาศัยในเมือง ก็ทำยอดขายดีขึ้นกว่าช่วงกลางปี นายอภิชัยกล่าว

แนวโน้มธุรกิจหลักของบริษัท ยังเป็นการสร้างโรงงานสำเร็จรูปเพื่อให้เช่าและขาย ขนาดพื้นที่ 800-2,000 ตารางเมตร ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินย่านบางนา-ตราด ห่างสนามบินสุวรรณภูมิ (หนองงูเห่า) เล็กน้อย เพื่อดำเนินธุรกิจรูปแบบดังกล่าว ตลอดจนสร้างโกดังให้เช่าด้วย

โดยเห็นว่า พื้นที่บริเวณใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพื้นที่มีศักยภาพการลงทุนสูง ไม่ห่างจากตัวเมืองกรุงเทพฯ มากนัก นอกจากนี้ ยังส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อย (SMEs) ตามนโยบายรัฐบาล คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปีนี้

ส่วนนโยบายพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในเมืองเป็นรายได้เสริม โครงการดังกล่าว ขึ้นกับการศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นการซื้ออาคารที่มีอยู่เดิม และโครงการอื่นที่สร้างไม่เสร็จ โดยบริษัทจะพัฒนาต่อ เพื่อขายหรือให้เช่า ภายในเวลาเพียง 1-1 ปีครึ่ง เป็นการลงทุนระยะสั้น ได้รับผลตอบแทนเร็ว ความเสี่ยงต่ำ สอดคล้องกับภาวการณ์เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ ที่ผันผวนรวดเร็วมาก รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น