xs
xsm
sm
md
lg

ทริสคงเครดิต “เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บริษัท ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ที่ BBB แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”

สะท้อนสถานภาพทางการตลาดแข็งแกร่งของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน “กรุงเทพธุรกิจ” และหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ “The Nation” ตลอดจนรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องของหนังสือพิมพ์รายวัน “คม ชัด ลึก” รวมทั้งความสามารถคณะผู้บริหาร และแนวโน้มธุรกิจโฆษณา ที่ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าว ถูกลดทอนด้วยความผันผวนราคากระดาษหนังสือพิมพ์ และอัตราก่อหนี้บริษัทที่ยังสูง แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” สะท้อนผลประกอบการที่น่าจะเป็นไปตามคาด ความมีชื่อเสียง และการเป็นเจ้าของสื่อหลากหลายประเภท ทำให้บริษัทยังคงรักษาสถานภาพการตลาดที่แข็งแกร่งไว้ได้ ท่ามกลางภาวะการแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้น

แนวโน้มอันดับเครดิต ยังอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ภาระหนี้ที่สูงของบริษัท จะลดลงโดยลำดับ เนื่องจากบริษัทลงทุนเพื่อขยายกำลังผลิตไปแล้ว

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจสื่อหลากหลายประเภท อาทิ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ รวมทั้งอินเทอร์เน็ต โดยสื่อสิ่งพิมพ์ ยังคงเป็นธุรกิจหลักสร้างรายได้มากกว่า 90% และสร้างกำไรจากการดำเนินงานเกือบ 100% หนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ของบริษัท จัดเป็นผู้นำโดดเด่นในกลุ่มหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน สามารถรักษาฐานผู้อ่านไว้ได้ หลังจากการเปิดตัวของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน “โพสต์ ทูเดย์” กุมภาพันธ์ 2546

ขณะที่หนังสือพิมพ์ “The Nation” ของบริษัท ก็สามารถรักษาฐานผู้อ่านให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้นำตลาด คือหนังสือพิมพ์ “Bangkok Post” ส่วนหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ซึ่งเปิดตัวตุลาคม 2544 ก็ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทช่วงปี 2545-2547

หลังรณรงค์ด้านการตลาดอย่างหนัก ผ่านช่องทางจำหน่ายมากมาย ทำให้เป็นที่รู้จัก และได้รับการตอบรับจากผู้อ่านอย่างดี จนติดอันดับ 1 ใน 3 หนังสือพิมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุด ต่อมา ยอดจำหน่ายหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” เริ่มคงที่ปี 2546 หลังบริษัทชะลอทำการตลาด

แต่คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาอัตราเติบโตรายได้โฆษณาได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จ คือคณะผู้บริหารที่มีความสามารถ และประสบการณ์ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในความเป็นมืออาชีพในธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์เป็นผู้ผลิตข่าวสารและเนื้อหาสู่สื่อหลากหลายประเภท

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า แหล่งรายได้สำคัญของบริษัทสำหรับธุรกิจหนังสือพิมพ์ มาจากการโฆษณา ซึ่งจะเคลื่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยที่ปริมาณโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ผันผวนมากกว่าการโฆษณาในสื่ออื่นๆ การขยายตัวเศรษฐกิจปี 2546 มีผลให้บริษัทรายได้โฆษณาเติบโต 11%

โดยปี 2546 ปริมาณโฆษณาในสื่อทั้งหมดเติบโต 16.8% ขณะที่การโฆษณาในสื่อหนังสือพิมพ์เติบโต 20.0% อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะมีอัตราเติบโตรายได้โฆษณา 16% ช่วง 9 เดือนแรกปี 2547 แต่เมื่อเทียบสัดส่วนรายได้โฆษณาบริษัทกับทั้งอุตสาหกรรม ลดลงจาก 13% ปี 2546 เหลือ 10.6% ช่วง 9 เดือนแรกปี 2547

ขณะที่อัตราก่อหนี้ของบริษัทยังคงสูงอยู่ โดยมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อแหล่งเงินทุน 66.9% ณ ธันวาคม 2546 และ 66.8% ณ กันยายน 2547 เทียบกับ 70.2% ณ ธันวาคม 2545 ภาระเงินกู้ปี 2546 ส่วนใหญ่จากสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคากระดาษสูงขึ้นปี 2547 อย่างไรก็ตาม ปริมาณดังกล่าว เริ่มลดลงปี 2547 เป็นต้นมา

กระดาษหนังสือพิมพ์ ถือเป็นต้นทุนหลักธุรกิจหนังสือพิมพ์ของบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 50% ของต้นทุนบริษัทระหว่างปี 2543-2546 ลดเหลือ 44% 9 เดือนแรกปี 2547 โดยราคากระดาษโลก มีผลต่อกำไรขั้นต้นของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

นับตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินปี 2540 บริษัทต้นทุนกระดาษเฉลี่ยสูงสุด 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันปี 2543 ซึ่งสูงกว่าราคากระดาษโลกโดยเฉลี่ยที่ 596 ดอลลาร์ต่อตัน เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนกระดาษเฉลี่ยของบริษัทลดลง หลังปี 2543 ตามราคากระดาษโลก

บริษัทมีต้นทุนกระดาษหนังสือพิมพ์ปี 2547 ที่ 440 ดอลลาร์ต่อตัน 400 ดอลลาร์ปี 2546 เทียบกับราคากระดาษโลกช่วงต้นปี 2547 ที่ 480 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 550 ดอลลาร์ ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2547 ซึ่งราคากระดาษโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2546 ทริสเรทติ้งกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น