วันนี้ (15 ธันวาคม) ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาลงโทษจำคุก 2 อดีตผู้บริหาร บล.ซีมิโก้ (ZMICO) 5 ปี โดยไม่รอการลงโทษ รวมถึง “นุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” อดีตกรรมการ ZMICO กรณีขายหุ้น บจ. ให้ ZMICO ราคาแพงกว่าราคาที่ควรจะเป็นมาก ตั้งแต่ปี 42 โดยมีอดีต ผอ.ฝ่าย ZMICO “กาญจนา เหล่าตระกูล” สนับสนุน รองเลขาฯ ก.ล.ต. เตือนผู้บริหาร บจ. ดูกรณีเป็นตัวอย่าง
เนื่องจาก ก.ล.ต. กล่าวโทษนายนุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) (ZMICO) เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2542 กรณีแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
จากกรณีที่บริษัทมีมติให้ลงทุนหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แห่งหนึ่ง ราคาหุ้นละไม่เกิน 20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดฯ ของหุ้นดังกล่าวขณะนั้นเป็นจำนวนมาก และเวลาต่อมา
นายนุประพัทธ์มอบหมายให้นางกาญจนา เหล่าตระกูล อดีตผู้อำนวยการฝ่าย บล. ซีมิโก้ ซื้อหุ้นบริษัทเดียวกันนั้น ผ่านบัญชีของบุคคลอื่นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 172,400 หุ้น ราคาหุ้นละ 5.30-8.50 บาท และนำหุ้นดังกล่าว ขายต่อให้บริษัท ราคาหุ้นละ 19.75 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาตลาดที่บุคคลทั่วไปซื้อขายกัน
ในการนี้ อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง และศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาว่า นายนุประพัทธ์ จำเลยที่ 1 ทำความผิดตามมาตรา 85 แห่ง พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 311 และมาตรา 313 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 จึงพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี
ส่วนนางกาญจนา จำเลยที่ 2 ทำความผิดตามมาตรา 85 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชนฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 315 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ จึงพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี เช่นกัน
“คำพิพากษานี้ น่าที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะใช้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อนำไปสู่การเพิ่มความระมัดระวังในการบริหารกิจการ ด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี และการปฏิบัติหน้าที่ด้วยซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัท นอกจากนี้ ยังแสดงว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยมีประสิทธิภาพเพียงพอ ที่จะนำผู้กระทำความผิดลงโทษได้ด้วย” นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
เนื่องจาก ก.ล.ต. กล่าวโทษนายนุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) (ZMICO) เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2542 กรณีแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
จากกรณีที่บริษัทมีมติให้ลงทุนหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แห่งหนึ่ง ราคาหุ้นละไม่เกิน 20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดฯ ของหุ้นดังกล่าวขณะนั้นเป็นจำนวนมาก และเวลาต่อมา
นายนุประพัทธ์มอบหมายให้นางกาญจนา เหล่าตระกูล อดีตผู้อำนวยการฝ่าย บล. ซีมิโก้ ซื้อหุ้นบริษัทเดียวกันนั้น ผ่านบัญชีของบุคคลอื่นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 172,400 หุ้น ราคาหุ้นละ 5.30-8.50 บาท และนำหุ้นดังกล่าว ขายต่อให้บริษัท ราคาหุ้นละ 19.75 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาตลาดที่บุคคลทั่วไปซื้อขายกัน
ในการนี้ อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง และศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาว่า นายนุประพัทธ์ จำเลยที่ 1 ทำความผิดตามมาตรา 85 แห่ง พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 311 และมาตรา 313 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 จึงพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี
ส่วนนางกาญจนา จำเลยที่ 2 ทำความผิดตามมาตรา 85 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชนฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 315 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ จึงพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี เช่นกัน
“คำพิพากษานี้ น่าที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะใช้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อนำไปสู่การเพิ่มความระมัดระวังในการบริหารกิจการ ด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี และการปฏิบัติหน้าที่ด้วยซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัท นอกจากนี้ ยังแสดงว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยมีประสิทธิภาพเพียงพอ ที่จะนำผู้กระทำความผิดลงโทษได้ด้วย” นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว