บุญถาวรเดินหน้าขยายยอดขาย หลังได้รับอานิสงส์เศรษฐกิจในประเทศเติบโตต่อเนื่อง กำลังซื้อเพิ่ม คาดปี 48 ยอดขายโต 20% เป็นเงินกว่า 5,000 ล้านบาท ปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 4,600 ล้านบาท พร้อมชูจุดแข็งระบบ e-library เชื่อมระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์กับ 6 สาขาที่มีอยู่แล้ว และซัพพลาย์เออร์ 200 ราย เตรียมเนรมิตสาขาใหม่ เกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 300 ล้านบาท ถอดแบบจากสาขาต้นแบบรัชดาภิเษก อัดแคมเปญส่งท้ายลุ้นโชคมูลค่า 15 ล้านบาท
บริษัท บุญถาวร จุดเริ่มต้นร้านค้าเล็กๆ ที่ดำเนินธุรกิจสุขภัณฑ์ และเซรามิค ตั้งแต่ปี 2521 ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง และพัฒนารูปแบบมาตลอด จนถึงการก่อตั้งบริษัท บุญถาวร สาขารัชดาภิเษก ปี 2527 หลังจากนั้น อาณาจักรบุญถาวรแตกเครือข่ายสาขาตามสี่มุมเมืองในกรุงเทพ ได้แก่ สาขารังสิต ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี บางนา และธนบุรี-ปากท่อ เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภค ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายวิวัฒน์ ทยานุวัฒน์ ประธานเครือบุญถาวร กล่าวว่าบริษัทเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบริษัท บนถนนรัชดาภิเษก พื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโชว์รูมทันสมัย เพื่อขายกระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์ และห้องครัว รูปโฉมใหม่ที่ทันสมัย และยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ขณะนี้ บริษัท บุญถาวรมีรายการสินค้าให้ลูกค้าเลือกถึง 50,000 รายการ แบบห้องตัวอย่างถึง 1,000 แบบ
ด้านผลดำเนินงาน เขาคาดว่าปีนี้ จะมียอดขายประมาณ 4,500-4,600 ล้านบาท ปี 2548 คาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างน้อย 20% ซึ่งไม่รวมสาขาเกษตร-นวมินทร์ แห่งใหม่ ขณะที่ ยอดสั่งซื้อสินค้าลูกค้าเฉลี่ย 4,000 บาทต่อบิล โดยสาขารัชดาภิเษก ยอดขายค่อนข้างสูง
บริษัทมีแผนจะปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ ให้เหมาะสมกับตลาด และความต้องการลูกค้า เพื่อตอบแทนลูกค้า บริษัทจึงจัดแคมเปญ หากลูกค้าซื้อสินค้าครบ 10,000 บาทที่โชว์รูมรัชดาภิเษก ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.พ.2548 จะมีสิทธิลุ้นรางวัลชิงโชครวมมูลค่า 15 ล้านบาท ซึ่งจะจับรางวัลวันที่ 12 มี.ค.2548
ทางด้านนายวิโรจน์ อภิวัฒนลังการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญถาวรเซรามิค กล่าวถึงสาขาเกษตร-นวมินทร์ ว่าจะเป็นศูนย์การกระจายสินค้าทันสมัย เนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเช่า 30 ปี แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส เฟสแรก จะมีรูปแบบ และการบริหารจัดการเหมือนสาขารัชดาภิเษก ที่เปิดตัวไปแล้ว รวมถึงการผสมผสานจากรูปแบบสาขา 4 มุมเมืองด้วย นอกจากนี้ ยังลงทุนด้านคลังสินค้าด้วย เฉพาะเฟสแรก ใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาทไม่รวมค่าปรับหน้าดิน ส่วนเฟสที่ 2 จะเป็นส่วนศูนย์กระจายสินค้า
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญพัฒนาระบบเทคโนโลยี โดยสาขาใหม่ที่รัชดาภิเษก เป็นสาขาที่ทันสมัยเรื่องเทคโนโลยี เป็นระบบ e-library สามารถตอบสนองความสะดวกสบาย คล่องตัว ลูกค้าเลือกหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากระบบดังกล่าว
“ทุกระบบ เราจะเชื่อมต่อกับสาขาทุกแห่ง สามารถตรวจสอบสต็อกสินค้าได้หมด มีการเชื่อมกับผู้ผลิตสินค้าให้กับบริษัท ซึ่งจะทยอยดำเนินการให้ครบ จากซัพพลายเออร์ที่มีอยู่ 200 ราย ผลดีจากการใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาเสริม ช่วยให้บริษัทสามารถลดสินค้าคงคลังลงได้ 4-5 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
“ขณะที่ยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะช่วยให้วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด ปัจจุบัน ลูกค้าของบริษัทเกือบ 95% จะเป็นผู้ใช้ทั่วไป เช่น สถาปนิก ผู้รับเหมา โครงการบ้าง อย่างไรก็ดี มีผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เจรจากับบริษัท เพื่อนำสุขาภัณฑ์เข้าไปในโครงการ” นายวิโรจน์กล่าว
นายสิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการบริษัท บุญถาวร กล่าวว่าระบบ e-library ไม่ใช่บริษัทพึ่งให้ความสำคัญระบบดังกล่าว แต่พัฒนาต่อเนื่องมากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน บริษัทใช้เงินลงทุนด้านระบบไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาท
ปี 2548 จะลงทุนด้านไอทีอีก 10 ล้านบาท โดยโชว์รูมแห่งใหม่ที่รัชดาภิเษก ใช้งบปรับปรุงโชว์รูม รวมถึงพัฒนาระบบไอทีสาขานี้ ประมาณ 150 ล้านบาท สาขาดังกล่าว ยังเป็นศูนย์รวมให้บริการคำปรึกษาออกแบบในระบบการตกแต่งเสมือนจริง (virtual decoration) สำหรับห้องน้ำและ Planit Millennium สำหรับห้องครัว เพื่อตอบสนองความต้องการรูปแบบใช้ชีวิตที่แตกต่าง
นายวิโรจน์กล่าวเสริมว่า ช่วงที่ผ่านมา อัตราเติบโตบริษัทสูงกว่าอัตราเติบโตเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย โดยแนวโน้มเศรษฐกิจ จะมีผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภค เนื่องจากลูกค้ากลุ่มที่ซ่อมแซมส่วนนี้ บริษัทมีค่อนข้างมาก ช่วงที่ผ่านมา ผลจากต้นทุนวัสดุแพงขึ้น บริษัท บุญถาวร ต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุนซัพพลาย์เออร์บางสินค้า เฉลี่ยประมาณ 3-5%
“เรื่องของการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA )แน่นอน มีผลต่อตลาด เพราะสินค้าที่มีต้นทุนต่ำ จะเข้ามาสู่ตลาดไทยมากขึ้น และหากสินค้าไหนที่ลูกค้าต้องการมาก และหากบริษัทไม่มี ก็จะเลือกหาให้กับลูกค้า” นายวิโรจน์กล่าว
บริษัท บุญถาวร จุดเริ่มต้นร้านค้าเล็กๆ ที่ดำเนินธุรกิจสุขภัณฑ์ และเซรามิค ตั้งแต่ปี 2521 ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง และพัฒนารูปแบบมาตลอด จนถึงการก่อตั้งบริษัท บุญถาวร สาขารัชดาภิเษก ปี 2527 หลังจากนั้น อาณาจักรบุญถาวรแตกเครือข่ายสาขาตามสี่มุมเมืองในกรุงเทพ ได้แก่ สาขารังสิต ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี บางนา และธนบุรี-ปากท่อ เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภค ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายวิวัฒน์ ทยานุวัฒน์ ประธานเครือบุญถาวร กล่าวว่าบริษัทเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบริษัท บนถนนรัชดาภิเษก พื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโชว์รูมทันสมัย เพื่อขายกระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์ และห้องครัว รูปโฉมใหม่ที่ทันสมัย และยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ขณะนี้ บริษัท บุญถาวรมีรายการสินค้าให้ลูกค้าเลือกถึง 50,000 รายการ แบบห้องตัวอย่างถึง 1,000 แบบ
ด้านผลดำเนินงาน เขาคาดว่าปีนี้ จะมียอดขายประมาณ 4,500-4,600 ล้านบาท ปี 2548 คาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างน้อย 20% ซึ่งไม่รวมสาขาเกษตร-นวมินทร์ แห่งใหม่ ขณะที่ ยอดสั่งซื้อสินค้าลูกค้าเฉลี่ย 4,000 บาทต่อบิล โดยสาขารัชดาภิเษก ยอดขายค่อนข้างสูง
บริษัทมีแผนจะปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ ให้เหมาะสมกับตลาด และความต้องการลูกค้า เพื่อตอบแทนลูกค้า บริษัทจึงจัดแคมเปญ หากลูกค้าซื้อสินค้าครบ 10,000 บาทที่โชว์รูมรัชดาภิเษก ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.พ.2548 จะมีสิทธิลุ้นรางวัลชิงโชครวมมูลค่า 15 ล้านบาท ซึ่งจะจับรางวัลวันที่ 12 มี.ค.2548
ทางด้านนายวิโรจน์ อภิวัฒนลังการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญถาวรเซรามิค กล่าวถึงสาขาเกษตร-นวมินทร์ ว่าจะเป็นศูนย์การกระจายสินค้าทันสมัย เนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเช่า 30 ปี แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส เฟสแรก จะมีรูปแบบ และการบริหารจัดการเหมือนสาขารัชดาภิเษก ที่เปิดตัวไปแล้ว รวมถึงการผสมผสานจากรูปแบบสาขา 4 มุมเมืองด้วย นอกจากนี้ ยังลงทุนด้านคลังสินค้าด้วย เฉพาะเฟสแรก ใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาทไม่รวมค่าปรับหน้าดิน ส่วนเฟสที่ 2 จะเป็นส่วนศูนย์กระจายสินค้า
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญพัฒนาระบบเทคโนโลยี โดยสาขาใหม่ที่รัชดาภิเษก เป็นสาขาที่ทันสมัยเรื่องเทคโนโลยี เป็นระบบ e-library สามารถตอบสนองความสะดวกสบาย คล่องตัว ลูกค้าเลือกหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากระบบดังกล่าว
“ทุกระบบ เราจะเชื่อมต่อกับสาขาทุกแห่ง สามารถตรวจสอบสต็อกสินค้าได้หมด มีการเชื่อมกับผู้ผลิตสินค้าให้กับบริษัท ซึ่งจะทยอยดำเนินการให้ครบ จากซัพพลายเออร์ที่มีอยู่ 200 ราย ผลดีจากการใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาเสริม ช่วยให้บริษัทสามารถลดสินค้าคงคลังลงได้ 4-5 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
“ขณะที่ยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะช่วยให้วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด ปัจจุบัน ลูกค้าของบริษัทเกือบ 95% จะเป็นผู้ใช้ทั่วไป เช่น สถาปนิก ผู้รับเหมา โครงการบ้าง อย่างไรก็ดี มีผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เจรจากับบริษัท เพื่อนำสุขาภัณฑ์เข้าไปในโครงการ” นายวิโรจน์กล่าว
นายสิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการบริษัท บุญถาวร กล่าวว่าระบบ e-library ไม่ใช่บริษัทพึ่งให้ความสำคัญระบบดังกล่าว แต่พัฒนาต่อเนื่องมากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน บริษัทใช้เงินลงทุนด้านระบบไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาท
ปี 2548 จะลงทุนด้านไอทีอีก 10 ล้านบาท โดยโชว์รูมแห่งใหม่ที่รัชดาภิเษก ใช้งบปรับปรุงโชว์รูม รวมถึงพัฒนาระบบไอทีสาขานี้ ประมาณ 150 ล้านบาท สาขาดังกล่าว ยังเป็นศูนย์รวมให้บริการคำปรึกษาออกแบบในระบบการตกแต่งเสมือนจริง (virtual decoration) สำหรับห้องน้ำและ Planit Millennium สำหรับห้องครัว เพื่อตอบสนองความต้องการรูปแบบใช้ชีวิตที่แตกต่าง
นายวิโรจน์กล่าวเสริมว่า ช่วงที่ผ่านมา อัตราเติบโตบริษัทสูงกว่าอัตราเติบโตเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย โดยแนวโน้มเศรษฐกิจ จะมีผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภค เนื่องจากลูกค้ากลุ่มที่ซ่อมแซมส่วนนี้ บริษัทมีค่อนข้างมาก ช่วงที่ผ่านมา ผลจากต้นทุนวัสดุแพงขึ้น บริษัท บุญถาวร ต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุนซัพพลาย์เออร์บางสินค้า เฉลี่ยประมาณ 3-5%
“เรื่องของการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA )แน่นอน มีผลต่อตลาด เพราะสินค้าที่มีต้นทุนต่ำ จะเข้ามาสู่ตลาดไทยมากขึ้น และหากสินค้าไหนที่ลูกค้าต้องการมาก และหากบริษัทไม่มี ก็จะเลือกหาให้กับลูกค้า” นายวิโรจน์กล่าว