xs
xsm
sm
md
lg

"กิตติรัตน์"มั่นใจหุ้นไทยขึ้นต่อส่งท้ายปี 47

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการ ตลท.เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้นต่อ ฉลองเทศกาลคริสต์มาส และส่งท้ายปี 47 เหตุจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลงช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล พร้อมมั่นใจเงินบาทแข็งค่าไม่กระทบเศรษฐกิจไทย เรียกร้องให้พรรคการเมืองแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้นักลงทุนรู้ทิศทาง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นปลายปี 2547 อยู่ในเกณฑ์ที่สดใส เนื่องจากปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นก่อนหน้านี้ คือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ค่อย ๆ ปรับราคาลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล แต่ก็ต้องติดตามดูสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพราะไม่มั่นใจว่าราคาน้ำมันจะผันผวนอีกหรือไม่

ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เพราะปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐนั้น นายกิตติรัตน์ เห็นว่า ไม่มีผลต่อตลาดหุ้นมากนัก เพราะเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสามารถดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทได้ ประกอบกับเงินสกุลภูมิภาคอื่น ๆ ก็แข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว ทำให้เศรษฐกิจมีการปรับตัวมาเป็นระยะ โดยมีกลไกของตลาดเป็นตัวกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว จึงไม่น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ในระยะสั้นผู้ส่งออกจะต้องระมัดระวังความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราด้วย

สำหรับทิศทางของตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งทั่วประเทศในปี 2548 นั้น กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า น่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น เนื่องจากนักลงทุนจะคลายความกังวลเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม แต่ละพรรคการเมืองควรที่จะประกาศนโยบายทางเศรษฐกิจให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจและกำหนดทิศทางการลงทุนได้อย่างถูกต้อง

“ ตลาดหุ้นไม่ชอบอะไรที่คลุมเครือ ไม่ชอบเลือกทางใดทางหนึ่ง ต้องการอะไรที่มีความชัดเจน หากรู้พรรคการเมืองใดได้เป็นพรรครัฐบาล ก็จะทำให้สบายใจขึ้น โดยเฉพาะถ้ารู้ว่าพรรคการเมืองนั้นมีนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างไร ดังนั้น เห็นว่าพรรคการเมืองทุกพรรค ควรที่จะประกาศนโยบายเศรษฐกิจออกมาก่อนการเลือกตั้งเช่นเดียวกับพรรครัฐบาลปัจจุบัน เพื่อที่นักลงทุนจะได้ทราบล่วงหน้า และไม่ต้องรอลุ้นหลังการเลือกตั้ง เพราะหากนโยบายเศรษฐกิจออกมาไม่เคลียร์อาจจะทำให้นักลงทุนมีปฏิกิริยาทางลบได้” นายกิตติรัตน์ กล่าว

ส่วนการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า มีจำนวนบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนสูงเป็นประวัติการณ์ คาดว่าสิ้นปี 2547 จะมีจำนวนทั้งสิ้น 50 บริษัท และจะต่อเนื่องไปจนกระทั่งปี 2548 ซึ่งขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังศึกษาแนวทางที่จะให้นักลงทุนรู้จักผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนรายใหม่มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และเห็นผลงานของผู้บริหารเหล่านี้ที่ทำงานในแวดวงธุรกิจมานับ 10 ปี ก่อนที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น