รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตั้งกรรมการกรองใบอนุญาตการขอดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ระบุจำนวนแบงก์ในปัจจุบันก็มีความเหมาะสม แต่การเพิ่มจำนวน ก็เป็นการเพิ่มทางเลือกการให้บริการแก่ประชาชน ส่วนที่เสนอเรื่องมาแล้ว 2-3 ราย จะพิจารณาได้เสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การขออนุญาตเพื่อดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยขณะนี้ได้มีการยื่นใบขออนุญาตแล้ว 2-3 ราย ดังนั้น เพื่อเป็นการกระจายอำนาจของรัฐมนตรีคลังพิจารณาเพียงผู้เดียวจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อทำการกลั่นกรองเรื่องดังกล่าว หลังจากคณะกรรมการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งเรื่องมาที่กระทรวงการคลัง
โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพิจารณาใบอนุญาตให้เป็นธรรมมากที่สุด และสามารถชี้แจงได้ว่ารายใดไม่ผ่านการอนุมัติด้วยเหตุผลใด
“คาดว่าจำนวนแบงก์ที่ขออนุญาตมา 2-3 รายนั้น จะสามารถตอบกลับไปได้ภายใน 2 สัปดาห์ และเห็นว่าจำนวนแบงก์ในปัจจุบันก็เป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว แต่การมีจำนวนเพิ่มขึ้นก็จะเป็นทางเลือกในการเพิ่มบริการให้แก่ประชาชน และการที่บางบริษัทมีคุณสมบัติที่เกินมาตรฐานเพียงเล็กน้อยก็จะต้องดูว่าหากอนุญาตไปแล้วจะดำเนินได้จริงหรือไม่ เนื่องจากไม่อยากให้มีปัญหาว่า เมื่อแบงก์ชาติส่งเรื่องมาก็เซ็นอนุญาตให้ ซึ่งเกรงว่าจะไม่เป็นธรรม” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การขออนุญาตเพื่อดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยขณะนี้ได้มีการยื่นใบขออนุญาตแล้ว 2-3 ราย ดังนั้น เพื่อเป็นการกระจายอำนาจของรัฐมนตรีคลังพิจารณาเพียงผู้เดียวจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อทำการกลั่นกรองเรื่องดังกล่าว หลังจากคณะกรรมการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งเรื่องมาที่กระทรวงการคลัง
โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพิจารณาใบอนุญาตให้เป็นธรรมมากที่สุด และสามารถชี้แจงได้ว่ารายใดไม่ผ่านการอนุมัติด้วยเหตุผลใด
“คาดว่าจำนวนแบงก์ที่ขออนุญาตมา 2-3 รายนั้น จะสามารถตอบกลับไปได้ภายใน 2 สัปดาห์ และเห็นว่าจำนวนแบงก์ในปัจจุบันก็เป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว แต่การมีจำนวนเพิ่มขึ้นก็จะเป็นทางเลือกในการเพิ่มบริการให้แก่ประชาชน และการที่บางบริษัทมีคุณสมบัติที่เกินมาตรฐานเพียงเล็กน้อยก็จะต้องดูว่าหากอนุญาตไปแล้วจะดำเนินได้จริงหรือไม่ เนื่องจากไม่อยากให้มีปัญหาว่า เมื่อแบงก์ชาติส่งเรื่องมาก็เซ็นอนุญาตให้ ซึ่งเกรงว่าจะไม่เป็นธรรม” นายสมคิด กล่าว