กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ยืนยันจะไม่ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย ระบุเพราะยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องสานต่อนโยบายต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลอีกมาก โดยเฉพาะโครงการสร้างสังคมผู้ประกอบการ โดยปีหน้าจะเน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้เทคโนโลยีต่างๆ ให้มากขึ้น
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะยื่นใบสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย แทนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ซึ่งไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยยืนยันว่าจะไม่ยื่นใบสมัครในตำแหน่งดังกล่าวแน่นอน เนื่องจากยังมีภารกิจสำคัญในเอสเอ็มอีแบงก์ที่ต้องสานต่อนโยบายต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการสร้างสังคมผู้ประกอบการให้เกิดขึ้นให้มากที่สุดภายในเวลา 1 ปี
นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2548 เป็นต้นไป เอสเอ็มอีแบงก์จะทำหน้าที่หลักในการส่งเสริมให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเกษตรหันมาใช้เครื่องจักร เครื่องจักรกล หรือเทคโนโลยีต่างๆ แทนการใช้แรงงาน เช่น กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเกี่ยวข้าว ฟัดข้าว กระบวนการตัดอ้อย หรือกระบวนการอื่นๆ เพื่อให้แรงงานเหล่านั้นหันมาประกอบอาชีพอย่างอื่นแทนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตมากที่สุด โดยไม่ต้องไปเสียเวลากับการใช้แรงงานในภาคการเกษตรอีก ซึ่งเอสเอ็มอีแบงก์จะหาแหล่งอาชีพ ฝึกฝน อบรม หาตลาดให้กับแรงงานเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างให้เป็นสังคมของผู้ประกอบการมากที่สุด
กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวอีกว่า เอสเอ็มอีแบงก์จะจัดหาเครื่องจักรดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานกับเยอรมนี ญี่ปุ่น เพื่อนำเครื่องจักรมาให้เกษตรกรใช้ในระบบเช่า โดยไม่ต้องซื้อเครื่องจักรเอง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตได้มากและลดต้นทุนการผลิต โดยเอสเอ็มอีแบงก์ประสานงานกับจังหวัด องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั้ง อบจ. อบต. หรือเทศบาล เพื่อให้องค์กรเหล่านี้เป็นผู้บริหารเรื่องเครื่องจักรเพื่อให้เกษตรกรเช่าแทนการซื้อซึ่งจะสนับสนุนให้ท้องถิ่นต่างๆ มีการพัฒนาเพิ่มขึ้น
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะยื่นใบสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย แทนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ซึ่งไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยยืนยันว่าจะไม่ยื่นใบสมัครในตำแหน่งดังกล่าวแน่นอน เนื่องจากยังมีภารกิจสำคัญในเอสเอ็มอีแบงก์ที่ต้องสานต่อนโยบายต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการสร้างสังคมผู้ประกอบการให้เกิดขึ้นให้มากที่สุดภายในเวลา 1 ปี
นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2548 เป็นต้นไป เอสเอ็มอีแบงก์จะทำหน้าที่หลักในการส่งเสริมให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเกษตรหันมาใช้เครื่องจักร เครื่องจักรกล หรือเทคโนโลยีต่างๆ แทนการใช้แรงงาน เช่น กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเกี่ยวข้าว ฟัดข้าว กระบวนการตัดอ้อย หรือกระบวนการอื่นๆ เพื่อให้แรงงานเหล่านั้นหันมาประกอบอาชีพอย่างอื่นแทนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตมากที่สุด โดยไม่ต้องไปเสียเวลากับการใช้แรงงานในภาคการเกษตรอีก ซึ่งเอสเอ็มอีแบงก์จะหาแหล่งอาชีพ ฝึกฝน อบรม หาตลาดให้กับแรงงานเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างให้เป็นสังคมของผู้ประกอบการมากที่สุด
กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวอีกว่า เอสเอ็มอีแบงก์จะจัดหาเครื่องจักรดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานกับเยอรมนี ญี่ปุ่น เพื่อนำเครื่องจักรมาให้เกษตรกรใช้ในระบบเช่า โดยไม่ต้องซื้อเครื่องจักรเอง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตได้มากและลดต้นทุนการผลิต โดยเอสเอ็มอีแบงก์ประสานงานกับจังหวัด องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั้ง อบจ. อบต. หรือเทศบาล เพื่อให้องค์กรเหล่านี้เป็นผู้บริหารเรื่องเครื่องจักรเพื่อให้เกษตรกรเช่าแทนการซื้อซึ่งจะสนับสนุนให้ท้องถิ่นต่างๆ มีการพัฒนาเพิ่มขึ้น