โดย มาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
แม้ว่าจะมีการใช้ IR ในการวัดผลตอบแทนเปรียบเทียบของกองทุนรวมในบ้านเรา โดย Lipper ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับกองทุนรวมระดับโลก และมีการให้รางวัล Post/Lipper Thailand Fund Award มาเป็นเวลา 2 ปีแล้วก็ตาม
แต่น่าจะมีน้อยคน ที่เข้าใจว่า IR คืออะไร ใช้วัดอะไร และอธิบายอะไร IR ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวัด และประเมินความชำนาญ ความสามารถของผู้จัดการกองทุน ที่บริหารกองทุนในลักษณะที่มีการเปลี่ยนแปลงหุ้น/ตราสารหนี้ ที่อยู่ในกองทุนอยู่ตลอดเวลา ตามสถานการณ์ (Active Fund Manager)
ซึ่งจะแตกต่างจากกองทุนที่เป็นลักษณะ Passive Fund ที่มีการบริหารการลงทุน และการจัดสัดส่วนการลงทุนของหุ้น/ตราสารหนี้ ให้เหมือนกับของดัชนีหลัก (Benchmark) เช่น SET Index เป็นต้น
IR คืออะไร? โดยศักยภาพแล้ว ผู้จัดการกองทุนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกองทุน โดยการจัดสัดส่วน หรือน้ำหนักการลงทุนในแต่ละหุ้น/ตราสารหนี้ ให้แตกต่างไปจากดัชนีหลัก การซื้อขาย เป็นไปตามจังหวะการลงทุน (Investment Timing)
กล่าวอย่างง่ายๆ คือผู้จัดการกองทุน พยายามที่จะสร้างผลตอบแทนส่วนเกิน (Excess Returns) โดยการเลือกหุ้น/ตราสารหนี้ที่จะลงทุน พร้อมกับจังหวะการลงทุน อย่างไรก็ตาม การสร้างผลตอบแทนส่วนเกิน มักจะมาคู่กับความเสี่ยงเสมอ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น สามารถวัดได้จากวิธีทางสถิติ Tracking Error
ซึ่งอธิบายถึงการแกว่งตัว (Volatility) ของความแตกต่างระหว่างผลตอบแทนของกองทุน กับของดัชนีหลัก (Standard Deviation of Excess Returns) โดยปกติ กองทุนที่มีค่า Tracking Error สูง มักจะมีความเสี่ยงของผลตอบแทนที่จะแตกต่างไปจากของดัชนีหลักมากเท่านั้น
ดังนั้น IR = Excess Returns / Tracking Error
ค่า IR สูงหรือต่ำถึงจะดี? เมื่อ IR เป็นตัววัดความชำนาญความสามารถของผู้จัดการกองทุน จึงมีการยืนยันโดยทั่วไป จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ว่า IR ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตบางประการ ในการนำ IR ไปใช้เปรียบเทียบผลการดำเนินการของกองทุน อาทิเช่น
1. ความเชื่อถือได้ของ IR ขึ้นกับระยะเวลา หรือจำนวนข้อมูล
2.ในกรณีที่ผู้จัดการกองทุนมีการถือเงินสดเป็นจำนวนมาก ทำให้ความเสี่ยงตามระบบ (Systematic Risk) น้อยกว่าดัชนีหลัก ความน่าเชื่อถือจะลดลง
3. การวัดค่า IR ของผู้จัดการกองทุน 2 คน จะต้องเปรียบเทียบบนพื้นฐานเดียวกัน เช่น ใช้ข้อมูลผลตอบแทนส่วนเกินที่เป็นรายเดือนเหมือนกัน
แม้ว่าจะมีการใช้ IR ในการวัดผลตอบแทนเปรียบเทียบของกองทุนรวมในบ้านเรา โดย Lipper ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับกองทุนรวมระดับโลก และมีการให้รางวัล Post/Lipper Thailand Fund Award มาเป็นเวลา 2 ปีแล้วก็ตาม
แต่น่าจะมีน้อยคน ที่เข้าใจว่า IR คืออะไร ใช้วัดอะไร และอธิบายอะไร IR ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวัด และประเมินความชำนาญ ความสามารถของผู้จัดการกองทุน ที่บริหารกองทุนในลักษณะที่มีการเปลี่ยนแปลงหุ้น/ตราสารหนี้ ที่อยู่ในกองทุนอยู่ตลอดเวลา ตามสถานการณ์ (Active Fund Manager)
ซึ่งจะแตกต่างจากกองทุนที่เป็นลักษณะ Passive Fund ที่มีการบริหารการลงทุน และการจัดสัดส่วนการลงทุนของหุ้น/ตราสารหนี้ ให้เหมือนกับของดัชนีหลัก (Benchmark) เช่น SET Index เป็นต้น
IR คืออะไร? โดยศักยภาพแล้ว ผู้จัดการกองทุนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกองทุน โดยการจัดสัดส่วน หรือน้ำหนักการลงทุนในแต่ละหุ้น/ตราสารหนี้ ให้แตกต่างไปจากดัชนีหลัก การซื้อขาย เป็นไปตามจังหวะการลงทุน (Investment Timing)
กล่าวอย่างง่ายๆ คือผู้จัดการกองทุน พยายามที่จะสร้างผลตอบแทนส่วนเกิน (Excess Returns) โดยการเลือกหุ้น/ตราสารหนี้ที่จะลงทุน พร้อมกับจังหวะการลงทุน อย่างไรก็ตาม การสร้างผลตอบแทนส่วนเกิน มักจะมาคู่กับความเสี่ยงเสมอ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น สามารถวัดได้จากวิธีทางสถิติ Tracking Error
ซึ่งอธิบายถึงการแกว่งตัว (Volatility) ของความแตกต่างระหว่างผลตอบแทนของกองทุน กับของดัชนีหลัก (Standard Deviation of Excess Returns) โดยปกติ กองทุนที่มีค่า Tracking Error สูง มักจะมีความเสี่ยงของผลตอบแทนที่จะแตกต่างไปจากของดัชนีหลักมากเท่านั้น
ดังนั้น IR = Excess Returns / Tracking Error
ค่า IR สูงหรือต่ำถึงจะดี? เมื่อ IR เป็นตัววัดความชำนาญความสามารถของผู้จัดการกองทุน จึงมีการยืนยันโดยทั่วไป จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ว่า IR ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตบางประการ ในการนำ IR ไปใช้เปรียบเทียบผลการดำเนินการของกองทุน อาทิเช่น
1. ความเชื่อถือได้ของ IR ขึ้นกับระยะเวลา หรือจำนวนข้อมูล
2.ในกรณีที่ผู้จัดการกองทุนมีการถือเงินสดเป็นจำนวนมาก ทำให้ความเสี่ยงตามระบบ (Systematic Risk) น้อยกว่าดัชนีหลัก ความน่าเชื่อถือจะลดลง
3. การวัดค่า IR ของผู้จัดการกองทุน 2 คน จะต้องเปรียบเทียบบนพื้นฐานเดียวกัน เช่น ใช้ข้อมูลผลตอบแทนส่วนเกินที่เป็นรายเดือนเหมือนกัน
ผลตอบแทนส่วนเกิน (% ต่อปี) | Tracking Error (% ต่อปี) | IR | |
กองทุน A | 2.2 | 2.7 | 0.8 |
สูงสุด | 10.7 | 19.8 | 1.6 |
Upper Quartile | 4.9 | 6.8 | 0.8 |
Median | 1.6 | 5.5 | 0.3 |
Lower Quartile | -0.6 | 3.5 | -0.1 |
ขั้นต่ำ | -4 | 0.5 | -0.8 |
จำนวนกองทุน | 64 | 64 | 64 |