ผู้จัดการรายวัน-ผู้บริหารอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มั่นใจซื้อขายหุ้นวันแรกนักลงทุนตอบรับเหตุปัจจัยพื้นฐานดีสอดรับผลประกอบการไตรมาส 2 กวาดรายได้กว่า 124 ล้านบาท ด้านโบรกฯเคจีไอ แกนนำอันเดอร์ไรท์ประเมินราคาเป้าหมายประมาณ 6.50 บาท
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะนำหุ้นไอพีโอเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในวันที่20 สิงหาคมนี้ใช้ชื่อย่อว่า “ICT”
โดยบริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 4.25 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งมีบล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
“ผมมั่นใจว่าหุ้นอินเตอร์ลิ้งค์ฯจะไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งในปีมีมูลค่าตลาดรวม 103,191 ล้านบาท ขณะที่บริษัท ฯ จะมีการขยายตัวที่มากกว่า 100%” นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี 2547 บริษัทฯมีผลประกอบการดีขึ้นอย่างมาก โดยมีรายได้รวม 124.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ของปี 2546 ที่มีรายได้ 67.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 83.65 และมีกำไรสุทธิ 11.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ถึงร้อยละ 361 เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายจากธุรกิจจัดจำหน่าย 30% ตลอดจนการขยายธุรกิจใหม่ด้วยการรับรู้รายได้จากรับเหมาติดตั้งระบบข่ายสายสัญญาณสื่อสาร สนามบินสุวรรณภูมิ เฟสแรก และการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากรของกรมศุลกากร
นอกจากนี้ คาดว่าในไตรมาส 3 และ 4 บริษัทจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนจากการรับรู้รายได้จากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟสแรก และงานเพิ่มเติมของระบบอื่นๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิที่ต้องใช้สายสัญญาณของบริษัท ประมาณ 100 ล้านบาท โครงการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดของกรมศุลกากรด้วย
นอกจากนั้นบริษัทฯยังจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่”สายอัจฉริยะของ LINK” ที่จะเข้าทดแทนสายโทรศัพท์พื้นฐาน
ตลอดจนโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท อาทิ โครงการซื้อคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้งของกระทรวงศึกษาธิการโครงการครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้งของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมซึ่งได้ประมูลไปแล้วอยู่ระหว่างรอผลการตัดสินและโครงการติดตั้งอุปกรณ์การอ่านค่าไฟฟ้าอัตโนมัติของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่เตรียมจะยื่นประมูลต่อไป
ด้านนางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงราคาหุ้นจองของ ICT ที่ 4.25 บาทว่าเป็นราคาที่เหมาะสม โดยมีพีอีเรโชประมาณ 8 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มสื่อสารที่มีพีอีเรโช 11 เท่า และกลุ่มไอทีเฉลี่ยที่ 11-12 เท่าซึ่งจะเห็นได้ว่าสูงกว่าพีอีของ ICT
ดังนั้นราคาหุ้นน่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามผลประกอบการที่จะออกมาดีอย่างต่อเนื่องประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนเป็นจำนวนมากที่สนใจซื้อหุ้นแต่ไม่ได้รับการจัดสรรเพราะเสนอขายหมดแล้วเชื่อว่าเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในกระดานน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้จากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ต่าง ๆ ให้ความเห็นว่าราคาจองยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานโดยบล. นครหลวงไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นดังกล่าวประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 6.16 บาท ในขณะที่นักวิเคราะห์บ.ล.เคจีไอในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น ICTได้ให้ราคาเป้าหมาย ที่6.50 บาท
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะนำหุ้นไอพีโอเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในวันที่20 สิงหาคมนี้ใช้ชื่อย่อว่า “ICT”
โดยบริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 4.25 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งมีบล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
“ผมมั่นใจว่าหุ้นอินเตอร์ลิ้งค์ฯจะไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งในปีมีมูลค่าตลาดรวม 103,191 ล้านบาท ขณะที่บริษัท ฯ จะมีการขยายตัวที่มากกว่า 100%” นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี 2547 บริษัทฯมีผลประกอบการดีขึ้นอย่างมาก โดยมีรายได้รวม 124.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ของปี 2546 ที่มีรายได้ 67.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 83.65 และมีกำไรสุทธิ 11.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ถึงร้อยละ 361 เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายจากธุรกิจจัดจำหน่าย 30% ตลอดจนการขยายธุรกิจใหม่ด้วยการรับรู้รายได้จากรับเหมาติดตั้งระบบข่ายสายสัญญาณสื่อสาร สนามบินสุวรรณภูมิ เฟสแรก และการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากรของกรมศุลกากร
นอกจากนี้ คาดว่าในไตรมาส 3 และ 4 บริษัทจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนจากการรับรู้รายได้จากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟสแรก และงานเพิ่มเติมของระบบอื่นๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิที่ต้องใช้สายสัญญาณของบริษัท ประมาณ 100 ล้านบาท โครงการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดของกรมศุลกากรด้วย
นอกจากนั้นบริษัทฯยังจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่”สายอัจฉริยะของ LINK” ที่จะเข้าทดแทนสายโทรศัพท์พื้นฐาน
ตลอดจนโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท อาทิ โครงการซื้อคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้งของกระทรวงศึกษาธิการโครงการครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้งของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมซึ่งได้ประมูลไปแล้วอยู่ระหว่างรอผลการตัดสินและโครงการติดตั้งอุปกรณ์การอ่านค่าไฟฟ้าอัตโนมัติของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่เตรียมจะยื่นประมูลต่อไป
ด้านนางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงราคาหุ้นจองของ ICT ที่ 4.25 บาทว่าเป็นราคาที่เหมาะสม โดยมีพีอีเรโชประมาณ 8 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มสื่อสารที่มีพีอีเรโช 11 เท่า และกลุ่มไอทีเฉลี่ยที่ 11-12 เท่าซึ่งจะเห็นได้ว่าสูงกว่าพีอีของ ICT
ดังนั้นราคาหุ้นน่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามผลประกอบการที่จะออกมาดีอย่างต่อเนื่องประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนเป็นจำนวนมากที่สนใจซื้อหุ้นแต่ไม่ได้รับการจัดสรรเพราะเสนอขายหมดแล้วเชื่อว่าเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในกระดานน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้จากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ต่าง ๆ ให้ความเห็นว่าราคาจองยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานโดยบล. นครหลวงไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นดังกล่าวประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 6.16 บาท ในขณะที่นักวิเคราะห์บ.ล.เคจีไอในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น ICTได้ให้ราคาเป้าหมาย ที่6.50 บาท