บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยจับมือบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์รุกปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย คาดครึ่งหลังปี 47 สินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่จะเพิ่มอีก 50,000 ล้านบาท ขณะที่ผู้บริหารอิออนมั่นใจจะไม่ทำให้เกิดเอ็นพีแอล
นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บตท.ได้ร่วมมือกับบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นช่องทางในการขยายสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยให้กับ บตท. โดยเฉพาะในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยคงที่ทุก 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี ตลอดอายุสัญญา 30 ปี และโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบขั้นบันได เพื่อส่งให้สถาบันการเงินในตลาดแรกเป็นผู้ให้สินเชื่อแก่ลูกค้า จากนั้น บตท.จะรับซื้อสินเชื่อดังกล่าวมาบริหารต่อไป
ทั้งนี้ บตท.สามารถซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินในตลาดแรกเพื่อนำไปปล่อยให้ลูกค้าได้เดือนละประมาณ 500 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเชื่อว่าเมื่อร่วมมือกับ บ.อิออนฯ แล้ว ยิ่งทำให้ บตท.สามารถขยายสินเชื่อได้ทั่วประเทศมากขึ้น ส่วนขยายสินเชื่อได้เท่าใดยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่คาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังของปี 2547 สินเชื่อใหม่ทางด้านที่อยู่อาศัยจะขยายตัวอีกประมาณ 50,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อที่ปล่อยไปแล้วและเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวมีจำนวนประมาณ 800,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าในจำนวนนี้จะมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่รอรีไฟแนนซ์เงินกู้เพราะอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนั้น บตท.ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยคาดว่าจะเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนจะเป็นเท่าใดคงต้องรอดูสัญญาณที่ชัดเจนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
นายอภิชาต นันทเทิม กรรมการบริหาร บริษัท อิออนฯ กล่าวว่า การร่วมกับ บตท.ครั้งนี้บริษัทจะได้รับค่าคอมมิชชั่นส่วนหนึ่ง และทำให้บริษัทสามารถขยายลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง จากปัจจุบันที่มีลูกค้าทุกประเภทรวมกันประมาณ 2 ล้านราย และมีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่ำมากเพียงร้อยละ 2.2 ขณะที่ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ขยายสินเชื่อรายย่อยได้สูงกว่าร้อยละ 16 จากปีก่อนที่ปล่อยได้ 28,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อได้เกิน 30,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อรายย่อยทั้งระบบจะมีจำนวน 150,000 ล้านบาท และภายในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า
นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บตท.ได้ร่วมมือกับบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นช่องทางในการขยายสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยให้กับ บตท. โดยเฉพาะในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยคงที่ทุก 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี ตลอดอายุสัญญา 30 ปี และโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบขั้นบันได เพื่อส่งให้สถาบันการเงินในตลาดแรกเป็นผู้ให้สินเชื่อแก่ลูกค้า จากนั้น บตท.จะรับซื้อสินเชื่อดังกล่าวมาบริหารต่อไป
ทั้งนี้ บตท.สามารถซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินในตลาดแรกเพื่อนำไปปล่อยให้ลูกค้าได้เดือนละประมาณ 500 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเชื่อว่าเมื่อร่วมมือกับ บ.อิออนฯ แล้ว ยิ่งทำให้ บตท.สามารถขยายสินเชื่อได้ทั่วประเทศมากขึ้น ส่วนขยายสินเชื่อได้เท่าใดยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่คาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังของปี 2547 สินเชื่อใหม่ทางด้านที่อยู่อาศัยจะขยายตัวอีกประมาณ 50,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อที่ปล่อยไปแล้วและเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวมีจำนวนประมาณ 800,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าในจำนวนนี้จะมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่รอรีไฟแนนซ์เงินกู้เพราะอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนั้น บตท.ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยคาดว่าจะเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนจะเป็นเท่าใดคงต้องรอดูสัญญาณที่ชัดเจนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
นายอภิชาต นันทเทิม กรรมการบริหาร บริษัท อิออนฯ กล่าวว่า การร่วมกับ บตท.ครั้งนี้บริษัทจะได้รับค่าคอมมิชชั่นส่วนหนึ่ง และทำให้บริษัทสามารถขยายลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง จากปัจจุบันที่มีลูกค้าทุกประเภทรวมกันประมาณ 2 ล้านราย และมีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่ำมากเพียงร้อยละ 2.2 ขณะที่ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ขยายสินเชื่อรายย่อยได้สูงกว่าร้อยละ 16 จากปีก่อนที่ปล่อยได้ 28,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อได้เกิน 30,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อรายย่อยทั้งระบบจะมีจำนวน 150,000 ล้านบาท และภายในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า