ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตัดสิน กรณีภาษีของสถาบันการเงินที่ต้องควบรวมกิจการ หรือเลือกสถานะเพียง 1 สถานะ ในการดำเนินธุรกิจตามแผนมาสเตอร์แพลน
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสถาบันหลายแห่งเข้ามาหารือเพื่อขอทราบรายละเอียดในเรื่องภาษี หรือการโอนทรัพย์สิน หากมีการควบรวมกิจการระหว่างสถาบันการเงินหรือเลือกสถานะเพียง 1 สถานะ ในการทำธุรกิจตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) แต่ต้องยอมรับว่า ธปท.ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องภาษีได้เอง จึงต้องส่งรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับภาษีที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับสถาบันที่ดำเนินการตามมาสเตอร์แพลนไปให้กรมสรรพากรพิจารณาแล้ว ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลังจะแจ้งเรื่องมาให้ ธปท.รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
“รายละเอียดเรื่องภาษีที่ธนาคารซิตี้ แบงก์ เคยหารือก็กำลังพิจารณาอยู่ แต่เรื่องภาษีมันเป็นปัญหากับรายอื่นด้วย คือไม่ใช่กระทบแค่กรณีซิตี้ แบงก์ หรือรายที่เลือก 1 สถานะเท่านั้น แต่มันเกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการของสถาบันการเงินอื่นด้วย เพราะบริษัทลูกจะเกิดภาษี เกิดการตีค่ามารวมกันที่อาจมีกำไรเกิดขึ้น ซึ่งการโอนทรัพย์สินหนี้สินก็เปรียบเสมือนการทำธุรกิจ ต้องมีการจ่ายภาษี ธปท.จึงส่งเรื่องไปให้กรมสรรพากรเป็นผู้พิจารณา ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาอยู่ เพราะอยากให้เกิดความยุติธรรมกันทุกแห่งและรู้ว่าอันไหนควรลดหรือไม่ ลดอย่างไรต่อไปจะได้ชัดเจน” นางธาริษากล่าว
นางธาริษา กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้ยังไม่มีสถาบันการเงินรายใดยื่นแผนเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งนี้ สถาบันการเงินคงต้องการวางแผนให้รอบคอบ และบางรายอาจจะมีการเปลี่ยนแผนก็ได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าช่วงสิ้นเดือนนี้คงยื่นแผนเข้ามาครบทุกราย
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสถาบันหลายแห่งเข้ามาหารือเพื่อขอทราบรายละเอียดในเรื่องภาษี หรือการโอนทรัพย์สิน หากมีการควบรวมกิจการระหว่างสถาบันการเงินหรือเลือกสถานะเพียง 1 สถานะ ในการทำธุรกิจตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) แต่ต้องยอมรับว่า ธปท.ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องภาษีได้เอง จึงต้องส่งรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับภาษีที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับสถาบันที่ดำเนินการตามมาสเตอร์แพลนไปให้กรมสรรพากรพิจารณาแล้ว ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลังจะแจ้งเรื่องมาให้ ธปท.รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
“รายละเอียดเรื่องภาษีที่ธนาคารซิตี้ แบงก์ เคยหารือก็กำลังพิจารณาอยู่ แต่เรื่องภาษีมันเป็นปัญหากับรายอื่นด้วย คือไม่ใช่กระทบแค่กรณีซิตี้ แบงก์ หรือรายที่เลือก 1 สถานะเท่านั้น แต่มันเกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการของสถาบันการเงินอื่นด้วย เพราะบริษัทลูกจะเกิดภาษี เกิดการตีค่ามารวมกันที่อาจมีกำไรเกิดขึ้น ซึ่งการโอนทรัพย์สินหนี้สินก็เปรียบเสมือนการทำธุรกิจ ต้องมีการจ่ายภาษี ธปท.จึงส่งเรื่องไปให้กรมสรรพากรเป็นผู้พิจารณา ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาอยู่ เพราะอยากให้เกิดความยุติธรรมกันทุกแห่งและรู้ว่าอันไหนควรลดหรือไม่ ลดอย่างไรต่อไปจะได้ชัดเจน” นางธาริษากล่าว
นางธาริษา กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้ยังไม่มีสถาบันการเงินรายใดยื่นแผนเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งนี้ สถาบันการเงินคงต้องการวางแผนให้รอบคอบ และบางรายอาจจะมีการเปลี่ยนแผนก็ได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าช่วงสิ้นเดือนนี้คงยื่นแผนเข้ามาครบทุกราย