บรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การโชว์ผลงานครึ่งปีมีรายได้จากการบริหารหนี้กว่า 4,000 ล้านบาท เกินเป้าถึงร้อยละ 136.67 เดินหน้าวางแผนซื้อเอ็นพีแอลมูลค่า 100,000 ล้านบาท เข้าพอร์ต ล่าสุดลงนามซื้อเอ็นพีแอลจากธนาคารสแตนดาร์ชาร์เตอร์ดนครธนกว่า 10,000 ล้านบาท มั่นใจบริหารมีกำไรมากกว่าครึ่งของราคาที่ซื้อทั้งพอร์ต
ผู้บริหารบรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชยการ (บสก.) ได้ลงนามสัญญาซื้อสินทรัพย์จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน มูลค่า 10,651 ล้านบาท ในราคา 1,431 ล้านบาท โดยนายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวว่า จากการประเมินภาพรวมคาดว่าจะสามารถบริหารหนี้ดังกล่าวได้ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะซื้อหนี้เข้ามาเพื่อบริหารเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธนที่จะทำการซื้อหนี้เพิ่มอีกประมาณ 11,000 ล้านบาท หนี้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์มูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาท และหนี้ของธนาคารทหารไทย
จากการบริหารหนี้ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเพราะสามารถคืนเงินสดให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกว่า 40,000 ล้านบาทแล้ว และยังจะคืนอีกกว่า 20,000 ล้านบาท ขณะที่ บสก.ยังมีสินทรัพย์ให้บริหารอีกมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการที่ บสก.มีเครือข่ายสาขาที่ทำหน้าที่เจรจากับลูกหนี้ทั่วประเทศและมีทีมงานที่ดี
นายโชคชัย อักษรนันทน์ ประธานกรรมการ บสก. กล่าวว่า แม้ว่า บสก.จะสามารถคืนเงินให้กับกองทุนตามที่กำหนด 41,000 ล้านบาทแล้ว แต่ในทางนโยบายยังต้องดำเนินการซื้อหนี้เอ็นพีแอลเพื่อมาบริหารให้มีรายได้ต่อไป เพราะขณะนี้ยังมีหนี้เอ็นพีแอลในระบบหลายแสนล้านบาท บสก.บริหารหนี้ได้สำเร็จก็เท่ากับว่าเป็นการช่วยประเทศชาติอีกทางหนึ่งด้วย จึงมีนโยบายที่จะซื้อหนี้เข้ามาบริหารต่อเนื่อง โดย บสก.ไม่มีปัญหาในเรื่องของเงินสด และบางส่วนยังได้รับการเปิดวงเงินจากธนาคารกรุงไทยด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานของ บสก.ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถเรียกเก็บหนี้ได้รวม 3,654 ล้านบาท รับโอนทรัพย์ชำระหนี้ 651 ล้านบาท รวมผลดำเนินงานมีรายได้ 4,305 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายคิดเป็นร้อยละ 136.67 ของเป้าหมายครึ่งปี
ผู้บริหารบรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชยการ (บสก.) ได้ลงนามสัญญาซื้อสินทรัพย์จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน มูลค่า 10,651 ล้านบาท ในราคา 1,431 ล้านบาท โดยนายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวว่า จากการประเมินภาพรวมคาดว่าจะสามารถบริหารหนี้ดังกล่าวได้ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะซื้อหนี้เข้ามาเพื่อบริหารเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธนที่จะทำการซื้อหนี้เพิ่มอีกประมาณ 11,000 ล้านบาท หนี้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์มูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาท และหนี้ของธนาคารทหารไทย
จากการบริหารหนี้ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเพราะสามารถคืนเงินสดให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกว่า 40,000 ล้านบาทแล้ว และยังจะคืนอีกกว่า 20,000 ล้านบาท ขณะที่ บสก.ยังมีสินทรัพย์ให้บริหารอีกมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการที่ บสก.มีเครือข่ายสาขาที่ทำหน้าที่เจรจากับลูกหนี้ทั่วประเทศและมีทีมงานที่ดี
นายโชคชัย อักษรนันทน์ ประธานกรรมการ บสก. กล่าวว่า แม้ว่า บสก.จะสามารถคืนเงินให้กับกองทุนตามที่กำหนด 41,000 ล้านบาทแล้ว แต่ในทางนโยบายยังต้องดำเนินการซื้อหนี้เอ็นพีแอลเพื่อมาบริหารให้มีรายได้ต่อไป เพราะขณะนี้ยังมีหนี้เอ็นพีแอลในระบบหลายแสนล้านบาท บสก.บริหารหนี้ได้สำเร็จก็เท่ากับว่าเป็นการช่วยประเทศชาติอีกทางหนึ่งด้วย จึงมีนโยบายที่จะซื้อหนี้เข้ามาบริหารต่อเนื่อง โดย บสก.ไม่มีปัญหาในเรื่องของเงินสด และบางส่วนยังได้รับการเปิดวงเงินจากธนาคารกรุงไทยด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานของ บสก.ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถเรียกเก็บหนี้ได้รวม 3,654 ล้านบาท รับโอนทรัพย์ชำระหนี้ 651 ล้านบาท รวมผลดำเนินงานมีรายได้ 4,305 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายคิดเป็นร้อยละ 136.67 ของเป้าหมายครึ่งปี