ผู้บริหารโรงแรมเซ็นทรัลพลาซาคาดปีนี้มีรายได้เกิน 5,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรายได้จากธุรกิจอาหารขยายตัวดีมาก คาดคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการขยายตัวของธุรกิจโรงแรม ปีนี้คาดมีอัตราเข้าพักเพิ่มจากปีก่อน 65%
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL กล่าวถึง รายได้ของบริษัทในปีนี้ว่าจะมีรายได้เกินกว่า 5,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% จากปี 2546 โดยมาจากรายได้จากธุรกิจอาหารที่คาดว่าจะมีรายได้ 3,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9.8% และรายได้จากธุรกิจโรงแรม
ที่คาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ 2,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% และในปีนี้บริษัทคาดว่าอัตราการเข้าพักจะเพิ่มจากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 65% โดยค่าห้องพักอยู่ที่ประมาณ 2,600 บาท
ส่วนในไตรมาสที่ 2 บริษัทคาดว่ารายได้ของบริษัทเมื่อเทียบระยะเดียวกันของปีก่อนจะเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,254 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 24.2% ไตรมาสที่ 2 ของปี 2546 ที่มีรายได้ 1010 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเติบโตทั้งธุรกิจอาหารและโรงแรม
“ภาพรวมในระยะครึ่งปีหลังธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารยังน่าจะมีการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจอาหารซึ่งหลังจากการระบาดของไข้หวัดนกที่ทำให้รายได้ของบริษัทชะลอตัวลง แต่ในเดือนเมษายนรายได้ก็ปรับเพิ่มขึ้นมาก ส่วนในธุรกิจโรงแรมในปีนี้จะมีการประชุมใหญ่ๆ ค่อนข้างมาก และมีการพัฒนาสายการบินราคาต่ำซึ่งจะทำให้ธุรกิจโรงแรมได้รับประโยชน์ ดังนั้น แม้ในช่วงต้นปีจะมีปัจจัยเสี่ยงมาก แต่ปีนี้บริษัทเชื่อว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท”
นายรณชิต กล่าว
มร.คริส เบลี รองประธานฝ่ายขายและการตลาดฝ่ายธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งในปีนี้บริษัทจะมีการกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การปรับปรุงโรงแรมให้มีความทันสมัย การพัฒนาช่องทางการตลาดและพัฒนาพันธมิตรทางด้านธุรกิจ การพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการของพนักงาน
ด้านนายอนุสรณ์ ปัญญากุล รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอาหารในปีนี้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผลกระทบในช่วงต้นปี โดยบริษัทมีแบรนด์ที่ดูแล 6 แบรนด์ ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท, พิทซ่า ฮัท, บาสกิ้น รอบบิ้นส์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละบริษัทมีการเติบโตในช่วง 5 เดือนเฉลี่ยอยู่ 14-15% และคาดว่าในครึ่งปีหลังยังน่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มโดยรวม 30-35 สาขา เพื่อเข้าหากลุ่มลูกค้าเพื่อกระจายรายได้ของบริษัท
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL กล่าวถึง รายได้ของบริษัทในปีนี้ว่าจะมีรายได้เกินกว่า 5,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% จากปี 2546 โดยมาจากรายได้จากธุรกิจอาหารที่คาดว่าจะมีรายได้ 3,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9.8% และรายได้จากธุรกิจโรงแรม
ที่คาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ 2,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% และในปีนี้บริษัทคาดว่าอัตราการเข้าพักจะเพิ่มจากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 65% โดยค่าห้องพักอยู่ที่ประมาณ 2,600 บาท
ส่วนในไตรมาสที่ 2 บริษัทคาดว่ารายได้ของบริษัทเมื่อเทียบระยะเดียวกันของปีก่อนจะเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,254 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 24.2% ไตรมาสที่ 2 ของปี 2546 ที่มีรายได้ 1010 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเติบโตทั้งธุรกิจอาหารและโรงแรม
“ภาพรวมในระยะครึ่งปีหลังธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารยังน่าจะมีการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจอาหารซึ่งหลังจากการระบาดของไข้หวัดนกที่ทำให้รายได้ของบริษัทชะลอตัวลง แต่ในเดือนเมษายนรายได้ก็ปรับเพิ่มขึ้นมาก ส่วนในธุรกิจโรงแรมในปีนี้จะมีการประชุมใหญ่ๆ ค่อนข้างมาก และมีการพัฒนาสายการบินราคาต่ำซึ่งจะทำให้ธุรกิจโรงแรมได้รับประโยชน์ ดังนั้น แม้ในช่วงต้นปีจะมีปัจจัยเสี่ยงมาก แต่ปีนี้บริษัทเชื่อว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท”
นายรณชิต กล่าว
มร.คริส เบลี รองประธานฝ่ายขายและการตลาดฝ่ายธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งในปีนี้บริษัทจะมีการกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การปรับปรุงโรงแรมให้มีความทันสมัย การพัฒนาช่องทางการตลาดและพัฒนาพันธมิตรทางด้านธุรกิจ การพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการของพนักงาน
ด้านนายอนุสรณ์ ปัญญากุล รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอาหารในปีนี้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผลกระทบในช่วงต้นปี โดยบริษัทมีแบรนด์ที่ดูแล 6 แบรนด์ ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท, พิทซ่า ฮัท, บาสกิ้น รอบบิ้นส์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละบริษัทมีการเติบโตในช่วง 5 เดือนเฉลี่ยอยู่ 14-15% และคาดว่าในครึ่งปีหลังยังน่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มโดยรวม 30-35 สาขา เพื่อเข้าหากลุ่มลูกค้าเพื่อกระจายรายได้ของบริษัท