นายภานพ ใจเกื้อ เลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊คนส่วนตัวแสดงความเห็นถึงการจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ที่ไม่ใช้เสาธงในการอัญเชิญธงชาติแต่ละประเทศขึ้นสู่ยอดเสาในช่วงพิธีการรับเหรียญรางวัลของนักกีฬา แต่ใช้จอ LED แสดงธงชาติขึ้นจอ
เลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศ ชี้ว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นการทำลายมนต์ขลัง และลดทอนศักดิ์ศรีของชาติผู้ที่ได้รับชัยชนะลง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกลับมาใช้การอัญเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาดังเดิม ในการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่าง 20-26 มกราคม 2026
สำหรับโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า “ในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมา มีประเด็นที่คนกีฬาอย่างผมเห็นแล้วต้องย้อนกลับมาขบคิดอย่างหนัก คือพิธีมอบเหรียญรางวัลที่ฝ่ายจัดการแข่งขันเลือกใช้การแสดงภาพธงชาติบนจอ LED แทนการเชิญธงผ้าขึ้นสู่ยอดเสาแบบดั้งเดิม
ในยุคดิจิทัล ความสะดวกและเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญครับ แต่สำหรับโลกของกีฬา ความล้ำสมัยไม่ใช่คำตอบของความภาคภูมิใจเสมอไปนะครับ
นวัตกรรมเราควรใช้เพื่อ "เสริมสร้าง" ไม่ใช่เพื่อ "ลดทอน" มนต์ขลังของกีฬา
ท่านครับ วินาทีที่ผืนธงค่อยๆ ทะยานขึ้นสู่ยอดเสาตามท่วงทำนองเพลงชาติ นั่นคือสัญลักษณ์ของการไต่เต้าจากความพยายามสู่ความสำเร็จสูงสุด
การที่ท่านเปลี่ยนให้เหลือเพียงภาพนิ่งบนจอแบนๆ มันทำให้ "พลัง" ของความสำเร็จจืดจางลงไปอย่างน่าเสียดาย และการขึ้นไฟล์ภาพผิดประเทศที่ปรากฏในข่าว
สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า "ความง่าย... มักมาพร้อมความมักง่าย"
ท่านครับ คำว่า "ประเพณี" ไม่ได้หมายถึงความล้าหลัง แต่คือ "กระบวนการที่พิสูจน์แล้วว่าทรงคุณค่า" การที่สากลยึดถือการเชิญธงผ้ามานับร้อยปี ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีเทคโนโลยี แต่เพราะเขารู้ว่า "พิธีกรรม" คือสิ่งที่สร้างมนต์ขลังให้กับการรอคอย
การทำลายประเพณีมักเริ่มจากการอ้าง "ความสะดวก" แต่สิ่งที่หายไปคือ "ความพยายาม" เมื่อเราลดขั้นตอนการพับธง การผูกเงื่อน และการใช้กองเกียรติยศ ให้เหลือเพียงการกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด เรากำลังบอกนักกีฬาว่า ความสำเร็จของคุณมีค่าแค่การคลิกเมาส์ครั้งเดียว
มีอยู่สนามหนึ่งที่ผมไปทำข่าว ผมถามน้องที่เป็นผู้ประกาศว่า "ทำไมเอ่ยเพียงชื่อประเทศ แต่ไม่เอ่ยชื่อนักกีฬาตอนรับเหรียญ" คำตอบที่ได้รับคือ ผู้ใหญ่บรีฟมาว่า เป็นไปตามรูปแบบโอลิมปิกสากล
บ้าบอ! คุณผู้ใหญ่รู้จักรูปแบบของโอลิมปิกสากลดีจนเอามาอ้างในการเรียกชื่อนักกีฬา แต่คุณกลับเลือก "ตัดเสาธง" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโอลิมปิกทิ้งไปเนี่ยนะ
มันชวนให้ตั้งคำถามว่า หรือท่านผู้นั้นที่ออกบัญชาการ จะเห็นว่าการเชิญธงบนเสาจริงเป็นเพียง "ภาระ" ที่ต้องกำจัดออกไป ถึงได้กล้าลดทอนศักดิ์ศรีของชาติต่างๆ ให้เหลือเพียงภาพบนจอไฟเช่นนี้
และหากท่านเห็นว่าการเชิดชูเกียรติยศมันเป็น”ภาระ”ที่หนักหนานัก ก็ควรพิจารณาตัวเองว่าท่านยังเหมาะสมที่จะแบกรับเกียรติยศของวงการกีฬาต่อไปหรือไม่
20-26 มกราคมปีหน้า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพอาเซียนพาราเกมส์ ผมขอเรียกร้องให้คืน "เสาธง" เพื่อคืน "จิตวิญญาณ" ให้กับผู้ชนะครับ
การเชิญธงชาติบนเสาจริงไม่ใช่ความยุ่งยาก แต่มันคือ "ศักดิ์ศรี" ของนักกีฬาที่สู้มาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะนักกีฬาคนพิการที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากกว่าคนปกติหลายเท่า
จะ "กู้ศักดิ์ศรี" หรือจะ "ตอกย้ำความล้มเหลว" ...คำตอบอยู่ที่ท่านครับ”


