ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ คว้าแชมป์ดิวิชันเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก หลังเอาชนะ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส ขาดลอย 29-18 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนามนอร์ธเวสต์ สเตเดียม วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม
เกมนี้ไม่ใช่ฟอร์มอันสวยหรูของแชมป์เก่า เริ่มตั้งแต่เสียฟัมเบิลวิ่งย้อนคิกออฟ, เสีย 2 โทษจากการเล่น ทุช พุช (ใช้แนวป้องกันดันเพื่อกินระยะสั้นๆ) และเตะฟิลด์โกลพลาด 2 ลูก ทำให้สกอร์ตามหลังช่วงพักครึ่ง 7-10 อย่างไรก็ตาม เจเลน เฮิร์ตส ควอเตอร์แบ็ก กับ เซควอน บาร์กลีย์ รันนิงแบ็ก ฉุดทีมกลับสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ป้องกันแชมป์ดิวิชันไว้ได้
ช่วงท้ายเกิดเหตุตะลุมบอน หลัง บาร์ลีย์ ทำ 2 คะแนน ส่งผลให้ อีเกิลส์ นำห่าง 29-10 เหลือเวลาประมาณ 4 นาทีครึ่ง ก่อน คอมมานเดอร์ส ตอบโต้ด้วยทัชดาวน์ที่ไร้ความหมาย
เฮิร์ตส ลงเล่นร่วมกับเซ็นเตอร์ที่คุ้นเคยกันมานานกว่าช่วงเริ่มฤดูกาล 2025 ขว้างคอมพลีต 22 จาก 30 ครั้ง รวม 15 ครั้งให้ เอ.เจ. บราวน์ กับ เดอวอนตา สมิธ 2 ปีกนอกตัวเก่ง ระยะ 185 หลา 2 ทัชดาวน์ ให้ สมิธ ระยะ 5 หลาช่วงครึ่งแรก และ ดัลลัส กูเดิร์ต ระยะ 15 หลาควอเตอร์ 3 ซึ่งเป็นการจบไดรฟ์ 17 เพลย์ ระยะ 83 หลา ฆ่าเวลา 10 นาทีครึ่ง
นอกจากนี้ เฮิร์ตส ยังเล่นงาน วอชิงตัน ด้วยเกมวิ่ง ถือบอล 7 ครั้ง ระยะรวม 40 หลา ขณะที่ อีเกิลส์ (ชนะ 10 แพ้ 5) เก็บชัย 2 เกมรวด หลังพ่ายมา 3 เกมติดต่อกัน กลายเป็นแชมป์ดิวิชัน 2 สมัยติดต่อกันทีมแรก ฟิลาเดลเฟีย นับตั้งแต่ทำไว้ฤดูกาล 2001-2004
ด้าน บาร์กลีย์ ทำ 1 ทัชดาวน์ ระยะ 12 หลา จากการถือบอล 21 ครั้ง ระยะ 132 หลา สถิติรวมทะลุหลัก 1,000 หลา เรียบร้อยแล้ว เฉพาะฤดูกาล 2025 และ แทงค์ บิ๊กสบี บวกเพิ่ม 1 ทัชดาวน์ ระยะ 22 หลาควอเตอร์ 4
คอมมานเดอร์ส แพ้ 9 จาก 10 เกม สถิติหล่นเหลือชนะ 4 แพ้ 11 เพียง 1 ซีซันหลังสถิติชนะ 12 แพ้ 5 และเข้าชิงแชมป์สาย NFC
ผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง ชิคาโก แบร์ส พลิกจากตาม 10 แต้มท้ายควอเตอร์ 4 เอาชนะ กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส อย่างดุเดือด 22-16 โดย คาเล็บ วิลเลียมส์ ควอเตอร์แบ็กดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2024 ขว้างทัชดาวน์ 46 หลา ให้ ดีเจ มัวร์ ช่วงต่อเวลา
แบร์ส (ชนะ 11 แพ้ 4) นำจ่าฝูงดิวิชัน NFC เหนือ ทิ้งห่าง แพ็คเกอร์ส (ชนะ 9 แพ้ 5 เสมอ 1) 1.5 เกม เหลือโปรแกรม 2 สัปดาห์ จ่อเข้าเพลย์ออฟครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2020 หลังเอาชนะ กรีน เบย์ คู่ปรับตัวฉกาจ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ตามสถิติเฮด-ทู-เฮดที่ด้อยกว่า ชนะ 7 แพ้ 30 รวมเพลย์ออฟ หรืออาจการันตีเพลย์ออฟ กรณี พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ชนะ ดีทรอยต์ วไลออนส์ วันอาทิตย์นี้ (21 ธ.ค.)
ขณะที่ แพ็คเกอร์ส เสีย จอร์แดน เลิฟ ควอเตอร์แบ็ก สมองถูกกระทบกระเทือน หลังขับเคลื่อนทีมบุกทำ 2 ฟิลด์โกล ขว้างคอมพลีต 8 จาก 13 ครั้ง ระยะ 77 หลา โดย มาลืก วิลลิส ลงเล่นแทน ขว้างคอมพลีต 9 จาก 12 ครั้ง ระยะ 121 หลา 1 ทัชดาวน์ แต่เสียฟัมเบิลตรงเส้น 36 หลาแดนคู่แข่งช่วงต่อเวลา
เกมนี้ไม่ใช่ฟอร์มอันสวยหรูของแชมป์เก่า เริ่มตั้งแต่เสียฟัมเบิลวิ่งย้อนคิกออฟ, เสีย 2 โทษจากการเล่น ทุช พุช (ใช้แนวป้องกันดันเพื่อกินระยะสั้นๆ) และเตะฟิลด์โกลพลาด 2 ลูก ทำให้สกอร์ตามหลังช่วงพักครึ่ง 7-10 อย่างไรก็ตาม เจเลน เฮิร์ตส ควอเตอร์แบ็ก กับ เซควอน บาร์กลีย์ รันนิงแบ็ก ฉุดทีมกลับสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ป้องกันแชมป์ดิวิชันไว้ได้
ช่วงท้ายเกิดเหตุตะลุมบอน หลัง บาร์ลีย์ ทำ 2 คะแนน ส่งผลให้ อีเกิลส์ นำห่าง 29-10 เหลือเวลาประมาณ 4 นาทีครึ่ง ก่อน คอมมานเดอร์ส ตอบโต้ด้วยทัชดาวน์ที่ไร้ความหมาย
เฮิร์ตส ลงเล่นร่วมกับเซ็นเตอร์ที่คุ้นเคยกันมานานกว่าช่วงเริ่มฤดูกาล 2025 ขว้างคอมพลีต 22 จาก 30 ครั้ง รวม 15 ครั้งให้ เอ.เจ. บราวน์ กับ เดอวอนตา สมิธ 2 ปีกนอกตัวเก่ง ระยะ 185 หลา 2 ทัชดาวน์ ให้ สมิธ ระยะ 5 หลาช่วงครึ่งแรก และ ดัลลัส กูเดิร์ต ระยะ 15 หลาควอเตอร์ 3 ซึ่งเป็นการจบไดรฟ์ 17 เพลย์ ระยะ 83 หลา ฆ่าเวลา 10 นาทีครึ่ง
นอกจากนี้ เฮิร์ตส ยังเล่นงาน วอชิงตัน ด้วยเกมวิ่ง ถือบอล 7 ครั้ง ระยะรวม 40 หลา ขณะที่ อีเกิลส์ (ชนะ 10 แพ้ 5) เก็บชัย 2 เกมรวด หลังพ่ายมา 3 เกมติดต่อกัน กลายเป็นแชมป์ดิวิชัน 2 สมัยติดต่อกันทีมแรก ฟิลาเดลเฟีย นับตั้งแต่ทำไว้ฤดูกาล 2001-2004
ด้าน บาร์กลีย์ ทำ 1 ทัชดาวน์ ระยะ 12 หลา จากการถือบอล 21 ครั้ง ระยะ 132 หลา สถิติรวมทะลุหลัก 1,000 หลา เรียบร้อยแล้ว เฉพาะฤดูกาล 2025 และ แทงค์ บิ๊กสบี บวกเพิ่ม 1 ทัชดาวน์ ระยะ 22 หลาควอเตอร์ 4
คอมมานเดอร์ส แพ้ 9 จาก 10 เกม สถิติหล่นเหลือชนะ 4 แพ้ 11 เพียง 1 ซีซันหลังสถิติชนะ 12 แพ้ 5 และเข้าชิงแชมป์สาย NFC
ผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง ชิคาโก แบร์ส พลิกจากตาม 10 แต้มท้ายควอเตอร์ 4 เอาชนะ กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส อย่างดุเดือด 22-16 โดย คาเล็บ วิลเลียมส์ ควอเตอร์แบ็กดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2024 ขว้างทัชดาวน์ 46 หลา ให้ ดีเจ มัวร์ ช่วงต่อเวลา
แบร์ส (ชนะ 11 แพ้ 4) นำจ่าฝูงดิวิชัน NFC เหนือ ทิ้งห่าง แพ็คเกอร์ส (ชนะ 9 แพ้ 5 เสมอ 1) 1.5 เกม เหลือโปรแกรม 2 สัปดาห์ จ่อเข้าเพลย์ออฟครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2020 หลังเอาชนะ กรีน เบย์ คู่ปรับตัวฉกาจ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ตามสถิติเฮด-ทู-เฮดที่ด้อยกว่า ชนะ 7 แพ้ 30 รวมเพลย์ออฟ หรืออาจการันตีเพลย์ออฟ กรณี พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ชนะ ดีทรอยต์ วไลออนส์ วันอาทิตย์นี้ (21 ธ.ค.)
ขณะที่ แพ็คเกอร์ส เสีย จอร์แดน เลิฟ ควอเตอร์แบ็ก สมองถูกกระทบกระเทือน หลังขับเคลื่อนทีมบุกทำ 2 ฟิลด์โกล ขว้างคอมพลีต 8 จาก 13 ครั้ง ระยะ 77 หลา โดย มาลืก วิลลิส ลงเล่นแทน ขว้างคอมพลีต 9 จาก 12 ครั้ง ระยะ 121 หลา 1 ทัชดาวน์ แต่เสียฟัมเบิลตรงเส้น 36 หลาแดนคู่แข่งช่วงต่อเวลา


