การแข่งขันสปีดสเก็ตติ้ง ที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง วันที่ 19 ธ.ค.ชิงชัย 6 ทอง โดยรอบชิงชนะเลิศ ได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มามอบเหรียญรางวัล
โดย “น้องมีนา” ธนัชญา ฉัตรไธสง นักสปีดสเก็ตสาวเบอร์ 1 ของไทย ที่นำทีมคว้า 1 เหรียญทองประเภทผลัดผสมชายหญิง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ลงชิงชัย 3 อีเว้นท์ ผลปรากฏว่า “น้องมีนา” เข้าฟอร์มเหมาเรียบทั้ง 3 ทอง ในระยะ 500 ม., 1,500 ม. และ ทีมผลัดหญิง 3,000 ม.ทำให้รวม 2 วันคว้าได้ 4 เหรียญทองซีเกมส์ ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่มีการบรรจุกีฬาสปีดสเก็ตในศึกซีเกมส์ ส่วน พิมพิดา ลีละประยูร ที่ลงแข่งระยะ 1,500 ม.ได้เหรียญเงิน
ขณะที่ “เอ็ม” ชลชาติ ตะพรม นักสปีดสเก็ตชายเบอร์ 1 ไทย ที่บาดเจ็บเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. แต่กัดฟันลงแข่งระยะ 1,500 ม. แต่ยังโชว์ฟอร์มสมราคาคว้าเหรียญทองมาครองได้ อีกทั้งทีมผลัดชาย 5,000 ม.วิ่งเบียดกับทีมอินโดนีเซียอย่างสูสี แต่ในช่วงสุดท้ายไทยพลิกกลับมาแซงจนเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองไปอย่างสะใจกองเชียร์
หลังเกม “ดร.เก๋” ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมาธิการสหพันธ์กีฬาสเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ เปิดเผยว่า ดีใจมากๆที่นักกีฬาทำได้และเกินความคาดหวัง ในสมาคมมี 2 กีฬาที่รับผิดชอบโดยฟิกเกอร์สเก็ตได้มา 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง และ สปีดสเก็ตได้มา 6 ทอง 1 เงิน ถือว่าเป็นความสำเร็จที่สูงที่สุดของซีเกมส์
ดร.สุวรรณา เผยต่อว่า น้องมีนา คือความภาคภูมิใจของเรา เพราะเราสร้างน้องมาตั้งแต่เด็ก และปีนี้น้องมีนามีความมั่นใจทำได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ส่วนน้องเอ็มที่บาดเจ็บไปเมื่อวานนี้แต่เขามีใจที่สู้กลับมาคว้าทองได้ อีกทั้งสมาคมไม่ได้ดูแลเรื่องกายภาพร่างกายอย่างเดียว แต่ยังลงลึกไปถึงจิตใจ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งหมดนี้พอมารวมกันก็ทำให้เราประสบความสำเร็จในวันนี้
ด้าน “มีนา” ธนัชญา ฉัตรไธสง นักสปีดสเก็ตหญิง เปิดเผยว่า จริงๆก็มีความมั่นใจว่าจะคว้าได้ 4 ทอง แต่ก่อนแข่งก็มีความกดดันอยู่เพราะการแข่งขันเราจะพลาดไม่ได้เลย พอลงไปสนามต้อง 100% เสมอ ส่วนเหรียญทองที่ได้จะมอบให้พ่อแม่ และ สมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดส้ก็ตติ้งฯ รวมถึง ดร.สุวรรณา ที่เป็นผู้สนับสนุนตั้งแต่ตนเริ่มหัดเล่นจนเป็นแชมป์ซีเกมส์ในครั้งนี้


