ทัพนักกีฬาจากทั่วอาเซียน เข้าร่วมพิธีเชิญธงชาติทุกชาติ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่หน้าอินเดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไฮไลต์ที่น่าจับตาในพิธีนั้น มีทัพนักกีฬาจากกัมพูชาเดินทางมาร่วมเข้า ยืนยันพร้อมลงแข่งขันในซีเกมส์ 2025 ด้วย แม้สถานการณ์ระหว่างประเทศทั้งไทยและกัมพูชา กำลังตึงเครียด เนื่องจากปัญหาข้อพิพาทชายแดน
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เผยว่า ในศึกซีเกมส์ 2025 ทางผู้แทนกัมพูชาก็ยืนยันว่าจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มาร่วมแข่งขันซีเกมส์แน่นอนประมาณ 130 กว่าคน ซึ่งขณะนี้มาถึงแล้วซึ่ง เราก็ย้ำถึงเรื่องความปลอดภัยให้กับกัมพูชาและพิธีขั้นตอนทุกอย่างในเรื่องของการเดินทางและอาหารจะต้องปลอดภัยและไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นในช่วงที่แข่งขันซีเกมส์อย่างแน่นอน
ประชุมมนตรีซีเกมส์สดุดีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ซีเกมส์ให้ "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมถกหนักเสนอเปลี่ยนสำนักงานมนตรีซีเกมส์จากไทยย้ายไปที่อื่น "พิมล ศรีวิกรม์" ยืนยันไม่เห็นด้วย ส่วนประเด็นกัมพูชายืนยันส่งนักกีฬาเข้าร่วมซีเกมส์ร้อยกว่าชีวิตทยอยเดินทางถึงเมืองไทยแล้ว ไทยยืนยันความปลอดภัยจะดูแลให้เป็นอย่างดี
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ยังเผยอีกว่า ในการประชุมมนตรีซีเกมส์ เมื่อช่วงสายวันที่ 8 ธ.ค.นั้น ได้มีการมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ซีเกมส์ให้กับบุคคลที่ทำคัณประโยชน์ให้กับวงการ ซึ่งทางคณะกรรมการพิจารณามอบรางวัลให้กับ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และมอบใก้อีก 2 ท่าน ก็คือผู้แทนจากสิงคโปร์ และบรูไน
“นอกจากนี้ผู้แทนจากคณะกรรมโอลิมปิกของมาเลเซีย ได้นำเสนอในการที่จะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์อีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งก็ต้องเรียนว่าเขามีความพร้อมมาก จากนั้นมีการพูดกันถึงเรื่องของซีเกมส์ ว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อไหมเพราะมีเสนอให้เปลี่ยนเป็นชื่อ ”อาเซียนเกมส์“ แทน ”ซีเกมส์” ซึ่งก็คุยกันยาวพอสมควรแต่หลายคนมองว่า ชื่อซีเกมส์มีประวัติเกมส์มาอย่างยาวนานและเชื่อว่าน่าจะใช้ชื่อการแข่งขันเดิมคือ ซีเกมส์ไม่น่าจะเปลี่ยนเป็นอาเซียนเกมส์"
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมของซีเกมส์ มีการเสนอการย้ายสำนักงานออฟฟิศไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่ที่ประเทศไทย โดยเรื่องนี้ออฟฟิศอยู่ที่เมืองไทยตลอด การเสนอแบบนี้และมีการยกมือถามความเห็นซึ่งบอกว่ามี 4-5 ชาติเห็นด้วยกับการย้ายสำนักงานออฟฟิศไปตามประเทศเจ้าภาพ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะนำเสนอเรื่องแบบนี้และให้มีการโหวต เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ควรอยู่ในวาระประชุมและให้ทุกขาติมีเวลารับทราบแล้วค่อยมีการถกพูดคุยประชุมอย่างถกต้อง“
”สุดท้ายนี้ผมในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย มีความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เพราะว่าเราเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมาแล้ว วันที่ 9 ธ.ค.นี้ ก็จะเริ่มเปิดแล้วก็แข่งกันไปอีก 10 กว่าวัน ในฐานะเจ้าภาพก็ต้องทำให้ดีที่สุดครับ มีประเด็นเยอะที่เห็นตามข่าวไม่ว่าจะเป็นสถานที่จัดแข่งความพร้อมพิธีเปิดและพิธีปิดต่างๆนานาพวกเนี้ยผมถือโอกาสนี้ อยากจะเรียนว่าทางคณะกรรมการคณะกรรมการแห่งประเทศไทยเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการแข่งขันพิธีเปิด-พิธีปิด การดูแลสนามซ่อมสนามเราไม่มีบทบาท ซึ่งหลักของเราก็คือว่าเตรียมนักกีฬานะครับแล้วก็ส่งนักกีฬาทำให้เรียบร้อย ซึ่งตรงนี้เราจัดการเรียบร้อยไปหมดแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการกีฬาแห่งประเทศไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานออกมาให้ดีที่สุด“


