ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โฟนอินพูดคุยในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เมื่อช่วงสายวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรณีดรามาการจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ดร.ก้องศักด ระบุถึงกรณีที่ลำโพงในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชายว่า เรื่องนี้ถือเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค ซึ่งกีฬาในซีเกมส์มี 50 กว่าชนิด กีฬาฟุตบอลได้ให้สมาคมฟุตบอลฯ รับผิดชอบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ก็ช็อกเหมือนกัน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวเรื่องลิขสิทธิ์ และได้ทำหนังสือขอโทษ สปป.ลาว และเวียดนามแล้ว ในช่วงที่ลำโพงไม่ดัง ระหว่างยืนเคารพเพลงชาติก่อนเตะ
ดร.ก้องศักด เผยอีกว่า ส่วนไฟในสนามยืนยันว่ามีความสว่างเกินกว่ามาตรฐาน ต้องยอมรับว่าอาจดูไม่เรียบร้อย มีติดเป็นจุดๆ แต่ได้แก้ไขแล้ว ยืนยันว่าสว่างเพียงพอ ขณะที่ภาพสปอนเซอร์ตรงคบเพลิง ตนก็ไม่ชอบเช่นกัน และสั่งให้เปลี่ยนแล้วเป็นโลโก้ซีเกมส์และมาสคอต การจัดมีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายที่ดูสิทธิประโยชน์ลูกค้าก็อยากให้ลูกค้าแฮปปี้ แต่ตรงนั้นไม่มีความจำเป็น ไม่ได้มีสัญญาระบุไว้ สปอนเซอร์เป็นตัววิ่งตรงจอ LED อยู่แล้ว
ผู้ว่าการกกท. ยอมรับว่า การบริหารงบประมาณนั้นค่อนข้างยากลำบาก งบประมาณการจัดไทยน้อยกว่ากัมพูชาครั้งที่แล้ว กัมพูชา 3,000 กว่าล้าน ส่วนไทย 2,000 กว่าล้าน ซึ่งมีข้อจำกัดในการประหยัดเงินให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ปัญหาซีเกมส์ แต่เป็นปัญหาของวงการกีฬาที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐน้อยกว่าเท่าที่ควรจะเป็น
“เรื่องคอนเซปต์งาน เอกชนรับงานไปพรีเซนต์ยังไม่มีการเซ็นสัญญาอะไรทั้งสิ้น แต่มีการทำงานร่วมกันจริง 4 บริษัทที่ไปลงพื้นที่ วางคอนเซปต์เป็นการทำงานที่ทุกคนทราบดีว่ายังไม่มีสัญญา เรื่องการคัดเลือก เรียนตรงๆว่า เรามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเยอะบ่อยครั้ง ทีมการเมืองอาจชอบเจ้านั้นเจ้านี้มากกว่า คนที่ตัดสินใจคัดเลือก ก็ต้องมาดูคอนเซปต์ไหนสวยงามที่สุด เป็นในมุมมองของผู้ที่ตัดสินใจ”
ดร.ก้อง ยังเผยถึงกรณี เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาว่า เป็นการสื่อสารระหว่างสมาคมกีฬากับนักกีฬา สมาคมต่างๆ มาตกลงกับกองทุนฯ ว่าจะรับไปเมื่อไหร่ ตกลงกันว่า 6 ธ.ค. บางสมาคมได้รับเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีความยุ่งยากคือการสรุปรายงานผล บางชนิดกีฬาทำรายงานผลทุกรอบ ได้เบี้ยเลี้ยงไปแล้ว แล้วแต่การบริหารจัดการของสมาคมว่าเป็นอย่างไร และการมีมติเพิ่มชนิดกีฬาเรื่อยๆ ตั้งงบจาก 30 กีฬา มา 50 กีฬา ต้องใช้เงินค่าเบี้ยเลี้ยงเพิ่มขึ้น 200 กว่าล้าน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่พอ โดยเราขอเพิ่ม แต่กองทุนฯก็ต้องดูสภาพคล่อง ส่วนกระทรวงการคลังก็มองว่า เพิ่มตอนนี้ไม่ได้ ทุกสมาคมก็ต้องการให้มีกีฬาของตัวเองในซีเกมส์ ซึ่งเมื่อการคลังไม่อนุมัติให้เราเพิ่มเงิน ก็ต้องมารอประชุมบอร์ดปี 2569 เรื่องนี้นักกีฬาอาจไม่ได้รับการสื่อสารที่เข้าใจ
ผู้ว่ากกท. ทิ้งท้ายว่า มาสคอตเดิมเป็นรูปปลากัด พอเปลี่ยนรัฐบาลเป็นเดอะสาน 7 สี เปลี่ยนรัฐบาลอีก เดอะสานเหมือนเดิม เป็นตัวธงชาติ ปัญหาหลักจริงๆ คือความไม่แน่นอนทางการเมืองในไทย พอมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายเปลี่ยน การทำงานของผู้ปฏิบัติก็เปลี่ยน การเมืองชุดนี้ รัฐมนตรี รองนายกฯ มีความมุ่งมั่นอย่างหนักให้เรียบร้อย ขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่มีการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้ทันเวลา


