แอลเอ แรมส์ เสียสถิติชนะ 6 เกมรวด หลังแพ้ แครอไลนา แพนเธอร์ส แบบพลิกล็อก 28-31 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนามแบงค์ ออฟ อเมริกา สเตเดียม วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน
ไบรซ์ ยัง ควอเตอร์แบ็กดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2023 ขว้างคอมพลีต 15 จาก 20 ครั้ง ระยะ 206 หลา 3 ทัชดาวน์ โดย 2 สกอร์เกิดจากการเล่นดาวน์ที่ 4 รวมเพลย์ขว้าง 43 หลา ให้ เทอไทรัว แม็คมิแลน ขึ้นนำ 31-28 เหลือเวลา 3 นาที 24 วินาที ขณะที่ทีมรับ แพนเธอร์ส ได้ 3 เทิร์นโอเวอร์จาก แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด ควอเตอร์แบ็ก
ยัง วัย 24 ปี 128 วัน กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดของประวัติศาสตร์ NFL สร้างไดรฟ์การบุกสู่ชัยชนะควอเตอร์ 4 หรือต่อเวลา 11 ครั้ง แซง จอช อัลเลน ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ฤดูกาล 2024 ทำไว้ขณะอายุ 24 ปี 164 วัน
ชัยชนะเกมนี้ส่งผลให้ แพนเธอร์ส ขยับสถิติเป็น ชนะ 7 แพ้ 6 ตามหลัง แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส (ชนะ 7 แพ้ 5) จ่าฝูงดิวิชันเอ็นเอฟซี (NFC) ใต้ แค่ 0.5 เกม และเปิดซีซันดีสุดนับตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเข้าเพลย์ออฟครั้งสุดท้าย
ก่อนเริ่มเกม สแตฟฟอร์ด กำลังร้อนแรงขว้าง 18 ทัชดาวน์ ตลอด 5 เกมล่าสุด แต่จบเกมนี้ปาบอลเข้าเป้า 18 จาก 28 ครั้ง ระยะ 243 หลา 2 ทัชดาวน์ ให้ ดาวานเต อดัมส์ ปีกนอก ทำสกอร์ที่ 13 และ 14 ของซีซัน
ทว่าเทิร์นโอเวอร์สร้างความเสียหายต่อ แรมส์ (ชนะ 9 แพ้ 3)
แพนเธอร์ส อินเทอร์เซ็ปต์ สแตฟฟอร์ด 2 ครั้ง ลูกแรกโดย นิค สก็อตต์ จบสถิติ NFL อันยาวนาน 37 ปี ขว้างทัชดาวน์ 28 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่เสียอินเทอร์เซ็ปต์ และลูกที่ 2 ทำให้ ไมค์ แจ็คสัน วิ่งย้อนทัชดาวน์ 48 หลา
เดอร์ริค บราวน์ ผู้ปัดบอลเป็นเหตุให้ สแตฟฟอร์ด เสียอินเทอร์เซ็ปต์แรก สตริป-แซ็ก (แซ็กแล้วตบบอลหลุดมือ) เหลือเวลา 2 นาที 25 วินาที ตอกฝาโลง แรมส์
แพนเธอร์ส ขว้างระยะไกลกว่า 20 หลา แค่ 1 เพลย์ เกมแพ้ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 9-20 สัปดาห์ที่แล้ว ผิดกับเกมวันอาทิตย์นี้ (30 พ.ย.)
ยัง ขว้างทัชดาวน์ 35 หลา ให้ ชูบา ฮับบาร์ด, 33 หลา ให้ เจเลน โคเกอร์ และ 43 หลา ให้ แม็คมิแลน
ท่ามกลางสายฝนตกหนักครึ่งหลัง แพนเธอร์ส อาศัยเกมวิ่งอันโดดเด่นฆ่าเวลา และทิ้งให้ สแตฟฟอร์ด กับทีมบุกประสิทธิภาพสูง นั่งพักข้างสนาม โดย ฮับบาร์ด ตะลุย 83 หลา และ ริโก ดาวเดิล บวกเพิ่ม 58 หลา
แพนเธอร์ส ดูเหมือนคุมเกมไว้ได้เมื่อเข้าสู่ควอเตอร์ 4 ขึ้นนำ 24-21 และทำเกมวิ่งได้ดี ทว่า จา'เทเวียน แซนเดอร์ส ไทต์เอนด์ เสียโทษโฮลดิง (ดึง) จึงต้องจบไดรฟ์ด้วยการพันท์ (เตะกินแดน)
แรมส์ จุดประกายความหวัง โดย เบลก โครัม วิ่งระยะ 34 หลา และ ปูกา นาคัว ปีกนอก รับบอลมือเดียวอย่างน่าทึ่ง ได้ระยะ 30 หลา นำไปสู่เพลย์ ไคเรน วิลเลียมส์ วิ่งทัชดาวน์ 7 หลา แซงนำ 28-24
อน่างไรก็ตาม แครอไลนา ตอบโต้ทันควัน โดย แม็คมิแลน วิ่งตัดเข้าด้านหลังทีมรับ แรมส์ แล้วรับบอลทำสกอร์ให้ทีมกลับขึ้นนำ
ผลอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) สัปดาห์ที่ 13
ชิคาโก แบร์ส ชนะ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ 24-15
ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ชนะ คลีฟแลนด์ บราวน์ส 26-8
แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ส ชนะ เทนเนสซี ไตตันส์ 25-3
ฮุสตัน เท็กแซนส์ ชนะ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส 20-16
นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส แพ้ ไมอามี ดอลฟินส์ 17-21
แอตแลนตา ฟอลคอนส์ แพ้ นิว ยอร์ก เจ็ตส์ 24-27
อริโซนา คาร์ดินัลส์ แพ้ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส 17-20
มินเนโซตา ไวกิงส์ แพ้ ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส 0-26
ลาส เวกัส เรดเดอร์ส แพ้ แอลเอ ชาร์เจอร์ส 14-31
บัฟฟาโล บิลล์ส ชนะ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส 26-7
เดนเวอร์ บรองโกส์ ต่อเวลาชนะ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส 27-26


