เผยโฉมเหรียญรางวัลซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ดึงแนวคิดกีฬาผสมผสานศิลปะไทย แสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างโดดเด่น และลงตัว ภายใต้แนวคิด “PLAY BY THE RULES” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ระบุ เหรียญรางวัลมีความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน และเป็นความภาคภูมิใจของนักกีฬา
ความเคลื่อนไหวมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ใน 3 เมืองหลัก กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ได้เผยโฉมเหรียญรางวัลกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ออกมาแล้ว โดยจุดเด่นของเหรียญรางวัล มีการนำเอกลักษณ์ลายกริดในศิลปะไทย ซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำการแข่งขันมาผสมผสานเข้ากับลายเส้นกรอบสนามกีฬา แสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยการผสมผสานกีฬากับศิลปะไทยได้อย่างลงตัว
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เหรียญรางวัลกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 สื่อให้เห็น “กีฬากับศิลปะ” และ “ความร่วมมือระหว่างประเทศ” กับ “อัตลักษณ์ความเป็นไทย” โดยใช้แนวคิด “PLAY BY THE RULES” ซึ่งสะท้อนถึง กฎ กติกา และวินัย อันเป็นรากฐานของความยุติธรรม การมีน้ำใจนักกีฬา และให้ความเคารพคู่แข่งขัน
สำหรับเหรียญรางวัลผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ชุบสีทอง, เงิน, นิเกิล ไม่หลุดลอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.5 เซนติเมตร ความหนาเหรียญ 0.8 เซนติเมตร ข้อความและโลโก้มีความคมชัด ด้านหน้าเป็นโลโก้การแข่งขันซีเกมส์ 2025 ส่วนด้านหลังเป็นโลโก้สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ พร้อมข้อความการแข่งขัน พื้นหลังของเหรียญรางวัลเป็นลายสานไทย สัญลักษณ์แห่งการถักทอสายใยแห่งมิตรภาพ โดยเส้นสายที่ประสานเข้าด้วยกัน เปรียบเป็นความร่วมมือ ความสามัคคี ความต่อเนื่องของนักกีฬาประชาคมอาเซียนทุกประเทศ และสื่อถึงพลังของกีฬาในการเชื่อมโยงผู้คน วัฒนธรรมและความภาคภูมิใจแบบไทย
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อว่า ส่วนเหรียญรางวัลมหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ที่จังหวัดนครราชสีมา ใช้รูปแบบเดียวกัน โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่โลโก้ และ สัญลักษณ์ในเหรียญเท่านั้น ขณะเดียวกันเหรียญรางวัลทุกชิ้นที่ผลิตขึ้น คำนึงถึงมาตรฐานเป็นสำคัญ ทุกเหรียญมีความแข็งแรง ทนทาน และสวยงาม ตนมั่นใจว่าเหรียญรางวัลนี้จะเป็นเหรียญแห่งชัยชนะและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของนักกีฬาทุกคน


