“น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135–145 ป.) วัย 39 ปี จากสกลนคร เปิดใจถึงกรณีมีปัญหาเรื่องทำค่าน้ำไม่ผ่าน และเหตุที่ทำให้ชวดขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ว่างกับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) วัย 28 ปี จากพัทลุง ในศึก ONE 173 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา
เดิมที “น้องโอ๋” มีคิวพบกับ “รถถัง” ในศึกใหญ่ที่ญี่ปุ่น ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหลายอย่างที่ทำให้เขาชวดโอกาสลงแข่งขันอย่างน่าเสียดาย โดย “น้องโอ๋” ขึ้นชั่งน้ำหนัก 2 รอบ แต่ทำค่าน้ำไม่ผ่าน ขณะที่ “รถถัง” ซึ่งชั่งน้ำหนักผ่านเรียบร้อยแล้ว แต่เกิดอาการไม่สบายกะทันหัน จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่งผลให้ศึกชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต จำเป็นต้องถูกถอดออกจากศึก ONE 173
ล่าสุด “น้องโอ๋” ได้มาเปิดใจผ่านรายการ The ONE Podcast EP.37 ซึ่งออกอากาศไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเจ้าตัวได้ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“ผมเดินทางไปญี่ปุ่นวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อถึงก็เจอกับอากาศหนาวทันที ทำให้ต้องเตรียมตัวปรับร่างกาย ส่วนเรื่องการกินไม่ค่อยมีปัญหา”
“สำหรับการชั่งน้ำหนัก ผมได้เตรียมการทุกอย่างมาตามแผนแล้ว แต่อากาศข้างนอกเย็นมาก ทำให้ไม่สามารถออกไปวิ่งเพื่อลดน้ำหนักส่วนเกินได้ และวันนั้นผมกินน้ำน้อยเกินไปด้วย เพราะกลัวว่าน้ำหนักจะลงไม่ทันตามเวลาที่กำหนด”
“ผมไปทดสอบรอบแรก น้ำหนักผ่าน แต่ค่าน้ำไม่ผ่าน เกินไปแค่นิดเดียว ก่อนจะกินน้ำเข้าไปเยอะมากเกือบ 2-3 ลิตร แต่ยิ่งเวลาเหลือน้อย ทำให้เรากดดันมากขึ้น เมื่อมาชั่งรอบสอง น้ำหนักผ่าน แต่ค่าน้ำยังไม่ผ่านเหมือนเดิมครับ”
อย่างไรก็ตาม ตามกฎระเบียบของ ONE นักกีฬาที่ยังทำค่าน้ำไม่ผ่านในเวลาที่กำหนดจะยังคงได้รับโอกาสให้ทำค่าน้ำให้ผ่านและชั่งน้ำหนักสุดท้าย เพื่อเข้าสู่กระบวนการเจรจากับคู่ชกว่าจะดำเนินการแข่งขันต่อไปหรือไม่ ซึ่ง “น้องโอ๋” ที่กำลังเตรียมตัวไปวัดค่าน้ำอีกรอบก็ต้องเจอกับข่าวที่ไม่คาดคิด เมื่อทีมงาน ONE แจ้งว่าทาง “รถถัง” ได้ขอถอนตัวจากการชกไปก่อนแล้วเนื่องจากป่วยกะทันหัน จึงไม่จำเป็นต้องวัดค่าน้ำอีกต่อไป โดย “น้องโอ๋” ยอมรับตามตรงว่ารู้สึกเสียดายมากที่การแข่งขันครั้งนี้ไม่เกิดขึ้น
“ผมรู้สึกเศร้าและเสียใจที่ไม่ได้ชกไฟต์นี้ เพราะตั้งแต่รู้ว่ามีรายการขึ้นชกก็เตรียมตัวอย่างดี อีกอย่าง ผมซ้อมใกล้ชิดกับ ซุปเปอร์บอน มาตลอด เลยอยากมีโอกาสได้ขึ้นชกในศึกเดียวกัน และอยากคว้าเข็มขัดกลับบ้านด้วยกันทั้งคู่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้วก็ไม่เป็นไร ไฟต์หน้าค่อยกลับมาสู้ใหม่”
“วันนั้น รถถัง ได้วิดีโอคอลมาหาผมด้วย เราได้พูดคุยขอโทษกันเรียบร้อย ถือว่าเป็นเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เชื่อว่าเรายังมีโอกาสได้เจอกันอยู่ดี เพราะมีแฟนมวยหลายคนอยากชมเราทั้งคู่อยู่ครับ”


