“น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135–145 ป.) วัย 38 ปี จากสกลนคร เปิดใจถึงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” อดีตเจ้าบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125–135 ป.) ก่อนที่จะต้องโคจรมาชิงเข็มขัดชิงเข็มขัดมวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ว่าง ในศึกยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ONE 173 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่16 พ.ย. 68 ณ สนาม อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
แม้จะรู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยชกอยู่ต่างรุ่นใน ONE และทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อเส้นทางมวยบังคับให้ชิงเข็มขัดสีทองอันทรงเกียรติซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตนักสู้ “น้องโอ๋” ยืนยันว่าเขาจำเป็นต้องวางมิตรภาพที่มีไว้นอกสังเวียน และพร้อมจัดหนักจัดเต็มใส่ “รถถัง” แน่นอน
“ผมกับ รถถัง รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเข้ามาชก ONE ใหม่ ๆ ตอนนั้นผมยังเป็นครูมวยอยู่สิงคโปร์ เวลา “รถถัง” ไปชกที่นั่น ผมจะคอยช่วยเหลือกันมาตลอด พอมาอยู่เมืองไทย เราก็เตะฟุตบอลด้วยกันเป็นประจำ ในสนามบอลผมมักเป็นคนจ่ายบอลให้เขายิงประตู ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมต้องทำเองเพื่อชิงเข็มขัดมา”
“เราสองคนเป็นมืออาชีพ รายการประกบให้ชกกันก็ต้องเต็มที่ ไม่ผมก็เขาต้องปิดเกมให้ได้ เรื่องอื่นเอาไว้ที่หลังครับ”
หลังลดจากรุ่นแบนตัมเวตมาสู่รุ่นฟลายเวตในสองไฟต์ที่ผ่านมา “น้องโอ๋” สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะล่าสุดเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ก้องธรณี ส.สมหมาย” ในศึก ONE Fight Night 31 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมก้าวขึ้นมาติดอันดับ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ได้สำเร็จ และยังส่งให้เขาได้รับโอกาสขึ้นชิงเข็มขัดที่ว่างอยู่ในครั้งนี้
ในวัย 38 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงบั้นปลายอาชีพของนักมวยส่วนใหญ่ แต่ “น้องโอ๋” ยืนยันว่าโอกาสชิงเข็มขัดครั้งนี้สำคัญกับชีวิตของเขามาก โดยตั้งใจจะพิสูจน์ให้เห็นว่ายังมีไฟและจิตวิญญาณนักสู้อยู่เสมอ
“เข็มขัดเส้นนี้สำคัญกับผมมาก มีคนบอกว่าผมอายุเยอะ ควรเลิกมวยได้แล้ว แต่ผมยังตื่นเช้าเข้ายิม ผมยังรักการชกมวย ยังมีไฟและร่างกายยังดี”
“ผมหวังเสมอว่าการลดรุ่นลงมาต้องได้ชิงแชมป์สักครั้ง ต้องขอบคุณ บอสชาตรี ที่เห็นว่าผมคู่ควรกับโอกาสนี้ ผมจะทำให้เต็มที่ครับ”


