“พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) เผยได้รับประสบการณ์คิกบ็อกซิ่งล้ำค่ามากมายจากการขึ้นชก 2 ไฟต์กับ “โจนาธาน ดิ เบลลา” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกันตัวแทนอิตาลี-แคนาดา
ในศึก ONE Fight Night 36 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา “พระจันทร์ฉาย” ต้องยุติสถานะแชมป์โลก ONE 2 กติกา แห่งรุ่นสตรอว์เวต (มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง) หลังถูกแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งเฉพาะกาลอย่าง “ดิ เบลลา” งัดฟอร์มดุบุกมาแก้มือเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ รวบเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งขึ้นนั่งบัลลังก์แต่เพียงผู้เดียว
แม้จะต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี แต่ “พระจันทร์ฉาย” เลือกมองในแง่ดีถึงการได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าจากการแลกเดือดกับ “ดิ เบลลา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งระดับโลกถึง 2 ไฟต์
“นักชกทุกคนเมื่อขึ้นเวที ไม่มีใครอยากแพ้อยู่แล้ว ผมเองก็เช่นกัน ถ้าถามว่าเสียใจไหม ก็ต้องตอบว่าเสียใจ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือผิดหวังมากนัก เพราะคนที่ผมแพ้คือสุดยอดนักคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดในโลกในรุ่นสตรอว์เวต และผมเชื่อว่าเขาจะครองเข็มขัดไปได้อีกนานหลายปี”
“ทั้งชีวิตผมชกคิกบ็อกซิ่งมาแค่ 3 ไฟต์ แต่สามารถเอาชนะนักชกระดับโลกอย่าง ดิ เบลลา ได้ 1 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง ถือว่าไม่มีอะไรเสียหายเลยครับ ตรงกันข้าม ผมได้บทเรียนมากมายจากเขา การเจอกับ ดิ เบลลา เพียง 2 ไฟต์ ให้ประสบการณ์เหมือนผ่านศึกคิกบ็อกซิ่งมา 20–30 ครั้งเลยก็ว่าได้”
ด้วยระยะเวลากว่า 2 เดือนครึ่งที่ “พระจันทร์ฉาย” ต้องห่างจากครอบครัวอันเป็นที่รัก เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับการเก็บตัวซ้อมสำหรับไฟต์ล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทำให้ตอนนี้ “พระจันทร์ฉาย” ขอตัดสินใจพักร่างกายและจิตใจจากสังเวียนชั่วคราว เพื่อกลับไปทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มตัว ก่อนจะกลับมาลุยฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นอีกครั้งสำหรับไฟต์ต่อไป
“ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายต่อไปครับ อยากพักจากวงการมวยชั่วคราว เพื่อใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ เพราะตลอด 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ผมเก็บตัวซ้อมอยู่ในค่ายตลอด ไม่ได้พาไปเที่ยวเลย หลังจากได้พักจนเต็มอิ่มแล้ว ผมจะกลับมาซ้อมต่อทันที ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเข็มขัดมวยไทย หรือกลับไปลุยใหม่ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ผมพร้อมทั้งสองทางครับ”