สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และผู้สนับสนุนหลัก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยผลิตภัณฑ์ “est Cola – Local Main Partner of FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025” พร้อมด้วยผู้แทนจาก PPTV HD 36 และ AIS PLAY ร่วมแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2568” โดยมี นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงาน
ประเทศไทยได้รับเกียรติจาก สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) อีกครั้ง ด้วยการได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการวอลเลย์บอลไทยที่มีการจัดการแข่งขันระดับโลก
สำหรับการได้รับสิทธิ์ครั้งนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก คณะรัฐมนตรีในการประชุม เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ตามข้อเสนอของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยผ่านการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทย ในการจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติ และเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลก
การแข่งขันครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน 2568
โดยจะมีทีมวอลเลย์บอลหญิงระดับชาติจากทั่วทุกทวีปที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 32 ทีม โดยแบ่งออกเป็น 8 สาย ๆ ละ 4 ทีม สำหรับการแข่งขันในรอบแรก จะมีการกระจายการแข่งขันไปยัง 4 เมืองหลักในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ (ภาคเหนือ), จังหวัดนครราชสีมา (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), จังหวัดภูเก็ต (ภาคใต้) และ กรุงเทพมหานคร (ภาคกลาง) ขณะที่การแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะจัดขึ้น ณ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร
วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดให้รับชมอย่างทั่วถึงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ PPTV HD ช่อง 36 ซึ่งจะถ่ายทอดสดทุกแมตช์สำคัญวันละ 2 คู่ พร้อมทีมผู้บรรยายมืออาชีพ และ AIS Play แพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำที่จะเปิดให้แฟน ๆ รับชมแบบสดทุกที่ ทุกเวลา ครบทุกคู่ ทุกสนาม
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวล่า “รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติเป็นประจำ ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้จำนวน 200 ล้านบาท และได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณของรัฐบาลให้จำนวน 450 ล้านบาท รวม 650 ล้านบาท ตามที่สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยเสนอ คาดว่าการแข่งขันครั้งนี้จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 8,500 ล้านบาท ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว การจ้างงาน และเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ซึ่งเป็นโอกาสในการ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และเป็นเวทีแสดงศักยภาพของประเทศไทยสู่สายตา ชาวโลก ผ่านการถ่ายทอดสดที่คาดว่าจะมีผู้ชมทั่วโลกกว่า 3,000 ล้านคน สำหรับการเตรียมการเชิงนโยบายได้ขอให้การแข่งขันรายการครั้งนี้เป็นแบบ GREEN HEART EVENT (GHE) เป็นการแข่งขันระดับนานาชาตินำร่อง โดยให้ความสำคัญกับแนวคิดความยั่งยืน (Sustainability) ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ตาม BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) โดยกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ได้ร่วมมือกับสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย สมาคมการจัดการกีฬาแห่งประเทศไทย และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ในการกำหนดแนวทางและรูปแบบการจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามเกณฑ์ของ GREEN HEART EVENT (GHE) โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งขณะได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว และทางสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติจะนำไปเป็นต้นแบบใช้ในการแข่งขันระดับโลกต่อไปด้วย”
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2568 ประเทศไทยได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการวอลเลย์บอลไทย เป็นก้าวสำคัญที่เราได้มีโอกาสแสดงศักยภาพของประเทศไทยในหลายๆ ด้าน กระตุ้นการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ที่จะได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับคณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ของทีมที่จะเดินทางเข้ามาร่วมการแข่งขันจากทั่วโลกไปพร้อมกัน ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขัน สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) และวอลเลย์บอลเวิลด์ ได้ลงพื้นที่ 4 จังหวัด เพื่อตรวจความพร้อมของสนามจัดการแข่งขัน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ, จังหวัดภูเก็ต ที่อาคารยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง, จังหวัดนครราชสีมา ที่สนามชาติชายฮอลล์ และกรุงเทพมหานคร ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งทุกสนามมีความพร้อมเป็นไปตามมาตรฐานสากลและสามารถปรับปรุงแล้วเสร็จก่อนการแข่งขัน นอกจากนี้ได้มีการประชุมหารือร่วมกันทางออนไลน์ทุกสัปดาห์ สำหรับการเปิดจำหน่ายตั๋ว ในวันนี้ (28 พฤษภาคม 2568) เริ่มเวลา 15.00 น ผ่านทางไทยทิกเก็ตเมเจอร์”
นางสาวสุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)โดยเครื่องดื่มเอส โคล่า กล่าวว่า “ไทยเบฟ ได้ให้การสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอลไทยมากว่า 30 ปี โดยปัจจุบันได้สนับสนุนในนามของเครื่องดื่มเอส โคล่าตลอดทางเราได้อยู่เคียงข้างวงการวอลเลย์บอลไทย ผ่านภาพจำจากโลโก้ เอส โคล่า บนเสื้อทีมชาติไทยในทุกชุด และกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับแฟนๆ ในทุกการแข่งขันเป็นประจำในทุก ๆ ปี ในปีนี้ เอสโคล่า ได้รับเกียรติในการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 “estCola – Local Main Partner of FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025” ซึ่งการแข่งขันระดับโลกที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีแข่งขันของนักกีฬา แต่ยังเป็นเวทีในการแสดงพลังเชียร์ของคนไทยทั้งประเทศ เราพร้อมที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการจุดกระแสเชียร์วอลเลย์บอลไทยให้ลุกเป็นไฟ ผ่านแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ ‘เสิร์ฟเอส เชียร์ไทยให้ AWESOME’ ที่จะมาปลุกจิตวิญญาณความเป็นหนึ่งเดียวของแฟนวอลเลย์บอลไทยอย่างเต็มพิกัด ภายในแคมเปญ เราจะมีเซอร์ไพรส์มากมายที่มาพร้อมสนุก Awesome สมกับความเป็นเอส โคล่า อีกทั้งยังมีกิจกรรมสุดพิเศษเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและวางรากฐานวงการวอลเลย์บอล พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ในวันข้างหน้า ทั้งหมดนี้เกิดจากความตั้งใจของเอส โคล่า ที่อยากเห็นคนไทยทั้งประเทศรวมใจกันส่งเสียงเชียร์ให้ทีมชาติไทย กันแบบ Awesome สมศักดิ์ศรีเจ้าภาพของการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก ปี 2568”
นายพรชัย พูนล้ำเลิศ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 กล่าวว่า“สถานีโทรทัศน์ พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ต้องขอขอบคุณสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจพีพีทีวี ได้นำการแข่งขันระดับโลกครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น เผยแพร่สู่สายตาประชาชนชาวไทย และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการส่งความสุขสู่ประชาชนชาวไทย และทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้แฟนกีฬาได้ส่งกำลังใจไปยังนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก ประจำปี 2568 (FIVB Women’s World Championships 2025) ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ ทางพีพีทีวีมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด 64 แมตช์ โดยจะเป็นการถ่ายทอดสดจำนวน 28 แมตช์ ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะให้ความสำคัญกับแมตช์ที่ทีมชาติไทยลงทำการแข่งขันเป็นหลัก รวมถึงคู่การแข่งขันที่น่าสนใจในแต่ละวัน
สำหรับในรอบแบ่งกลุ่มทางพีพีทีวี จะทำการถ่ายทอดสด วันละ 2 คู่ ส่วนการแข่งขันคู่อื่น ๆ จะนำมาออกอากาศในรูปแบบเทปบันทึกภาพให้ครบถ้วนทุกคู่ และเมื่อการแข่งขันดำเนินมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย พีพีทีวีก็จะถ่ายทอดสดให้ได้ชมครบทุกแมตช์จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ฝากติดตามร่วมลุ้นและเชียร์ทีมชาติไทย รวมถึงทีมจากนานาประเทศที่จะลงสู้ศึกในครั้งนี้ และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว ตลอดจนเนื้อหาพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ทั้งทางหน้าจอพีพีทีวี ช่อง 36 และออนไลน์ทาง PPTV Sports”
พัชราพร กุศล หัวหน้าแผนกงานบริหารวิดีโอและบรอดคาสท์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ที่ผ่านมา AIS PLAY มุ่งมั่นในการนำเสนอคอนเทนต์กีฬาคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ หรือวอลเลย์บอลในทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ของความตั้งใจที่รวมเอาคอนเทนต์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสรับชมคอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง วันนี้ เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับสิทธิ์ในการเป็น DOMESTIC BROADCASTER อย่างเป็นทางการในประเทศไทย สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2568 ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะจาก แฟนกีฬาไทยที่ให้การสนับสนุนและติดตามนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยมาโดยตลอด”
เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากลรวมทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างบรรยากาศเชียร์ สมาคมฯ ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มเอส โคล่าทำเพลงประจำการแข่งขันครั้งนี้ด้วย ในชื่อเพลงว่า เสียงเชียร์เพื่อแชมป์ to be the champion ขับร้องโดย โจอี้ ภูวศิษฐ์
ส่วนบัตรเข้าชมการแข่งขัน เริ่มจำหน่ายแล้วทาง thaiticketmajor โดย บัตรรอบแบ่งกลุ่ม จนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย มีราคา 4,000, 2,800, 900, 600 และ 300 บาท ส่วนรอบ ก่อนรองชนะเลิศ 4,000, 2,800, 1,200, 800 และ 500 บาท ขณะที่รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ 4,000, 2,800, 2,000, 1,500 และ 1,000 บาท