สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการแข่งขัน "OR สควอชเยาวชนนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้"ครั้งที่ 3 (OR 3rd Southeast Asian Junior Individual Championships 2028)ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ค. 68 ที่ สนามแข่งขันกีฬาสควอช วชิราวุธวิทยาลัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยมีประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 5 ประเทศ คือ มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงค์โปร์, อินโดนีเซีย และ ไทย มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 130 คน
สำหรับการแข่งขันมี 2 ประเภท คือ ชายเดี่ยว และ หญิงเดี่ยว แบ่งเป็นจำนวน 5 รุ่นอายุ คือ รุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
ด้านผลแข่งขันปรากฎว่า นักกีฬาจากสิงคโปร์ และ มาเลเซีย สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ไปครองประเทศละ 4 แชมป์เท่ากัน ขณะที่อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์แบ่งกันไปประเทศละ 1 แชมป์
ส่วนผลการคว้าแชมป์ในประเภทต่างๆมีดังนี้ ประเภทบุคคลหญิง รุ่นอายุ 11 ปี คีร์ติ ปราดา จูนิวา บาล (มาเลเซีย), รุ่นอายุ 13 ปี คารีน่า ศศิกูมาร์ (สิงคโปร์), รุ่นอายุ 15 ปี นัยซ่า ซิงค์ (สิงคโปร์), รุ่นอายุ 17 ปี
ชี ซิม ออง (สิงคโปร์, รุ่นอายุ 19 ปี ไรฟ่า บุตรี ยัตตาชิ (อินโดนีเซีย)
ประเภทบุคคลชาย รุ่นอายุ 11 ปี แอชตัน เรน เมดิโน่ (ฟิลิปปินส์), รุ่นอายุ 13 ปี เวเน่ อิซัค วิลสัน (มาเลเซีย), รุ่นอายุ 15 ปี ซิมาร์เว ซิงค์ บาโมทรา (มาเลเซีย), รุ่นอายุ 17 ปี มิง รุย, อีธาน ควน (สิงคโปร์), รุ่นอายุ 19 ปี อิซ นาบิล อีมาน บิน ชาริสซาน (มาเลเซีย)
หลังการแข่งขัน นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา นายกสมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่นักกีฬาที่ชนะเลิศในรุ่นต่างๆ
ทั้งนี้ นาย อัครินทร์ หิรัญพฤกษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทยฯ และ ในฐานะรองประธาน สหพันธ์กีฬาสควอชแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เป็นครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาวงการสควอชในประเทศไทยหลักๆ 3 ด้าน คือ ด้านพัฒนานักกีฬาให้ได้มีโอกาสเล่นในการแข่งขันระดับทวีป เจอผู้เล่นระดับนานาชาติ และยังได้คะแนนสะสมในระดับเอเชีย
"นอกจากนี้ยังได้พัฒนาด้านผู้ตัดสินของไทยให้ได้ตัดสินในระดับนานาชาติ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ตัดสินในระดับสากล รวมถึงผู้ฝึกสอนที่จะได้เห็นการพัฒนาของนักกีฬาในประเทศต่างที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุง โปรแกรมการฝึกซ้อมของนักกีฬาไทยให้พัฒนาได้ทัดเทียมระดับนานาชาติต่อไป" นายอัครินทร์ กล่าว