สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย จัดแข่งฟุตบอลเยาวชน 8 คน “GLO CUP 2025” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมกับมอบโอกาสพิเศษให้เด็กไทย ที่มีความสามารถเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมกับสโมสร อวิสป้า ฟุกุโอกะ ทีมชั้นนำของเจลีก ญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย จัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 8 คน ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย "GLO CUP 2025 THAILAND CHAMPIONSHIP" รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมมอบโอกาสต่อยอดพัฒนาด้วยการไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่น ตามแนวทาง Japan Way
ฟุตบอลเยาวชน GLO CUP 2025 เป็นการแข่งขันฟุตบอล 8 คน รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ครอบคลุมทั้ง 7 ภูมิภาคทั่วประเทศรวม 672 ทีม เพื่อคืนกำไรให้กับสังคม ทั้งยังเป็นการนำรูปแบบและกติกาการแข่งขันที่เหมาะสมกับการพัฒนาฟุตบอลไทยแบบยั่งยืน รวมถึงพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยในแบบที่ถูกต้อง
สำหรับรูปแบบการแข่งขันนั้นจะแบ่งออกเป็น 7 ภาค เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 3 - 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 รอบภาค ภาคละ 48 ทีม คัดหาตัวแทนภาคเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศประเทศไทยรวม 32 ทีม ในแต่ละรุ่น
นอกจากนี้ยังมีการเฟ้นหา GLO STAR นักฟุตบอลฝีเท้าดีที่มีแววในการพัฒนาต่อยอดจำนวน 30 คน (รุ่นละ 15 คน) เพื่อเข้าแคมป์เก็บตัวระหว่างวันที่ 29 กันยายนถึง 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 และคัดหา 6 คนสุดท้ายคว้าโอกาสพิเศษเดินทางไปร่วมฝึกซ้อมฟุตบอล และฝึกด้านระเบียบวินัยซึ่งเป็นรากฐานของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ กับ อวิสปา ฟุกุโอกะ สโมสรระดับเจลีก 1 ลีกสูงสุดของญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน
โดยมีมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย นำโดย “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าไทยตลอดกาล และส่งเสริม มาเพิ่ม อีกหนึ่งตำนานทีมชาติไทย พร้อมทีมงานอีกมากมาย ร่วมคัดเลือกอย่างเคร่งครัดตามเกณฑ์พิจารณา ทั้งยังมีโอกาสกระทบไหล่ซุปเปอร์สตาร์วงการฟุตบอลไทยอย่าง เจ-ชนาธิป สรงกระสินธิ์ และ มุ้ย- ธีรศิลป์ แดงดา ที่พร้อมให้คำแนะนำในฐานะรุ่นพี่ที่เคยไปสร้างชื่อในเวทีเจลีกมาก่อนหน้า
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังและ ประธานบอร์ด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า "ด้วยพันธกิจตอบแทนคืนสู่สังคม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เชื่อในการให้โอกาส และการ สร้างอนาคต ให้กับเด็กไทย โดยการจัดแข่งขันขึ้นทั่วทั้ง 7 ภูมิภาค รวมแล้วจะมีผู้เข้าแข่งขันทั้งผู้เล่นและผู้ฝึกสอนกว่า 15,000 คน ซึ่งเป็นการส่งเสริมเยาวชนให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หันมาออกกำลังกาย และห่างไกลจากยาเสพติด และมากกว่านั้น คือ การการมอบโอกาสและพัฒนาสุดยอดนักเตะไทยแห่งอนาคตคนใหม่"
“ปัจจุบันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และเยาวชน นั้นยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขโดยเฉพาะการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และ ยาเสพติด ดังนั้นการให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในการออกกำลังกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง และสามารถลดเวลาการเข้าถึงสิ่งอบายมุขทั้งหมดได้”
“โดยฟุตบอลเป็นกีฬาที่ยอดนิยมที่เด็กให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และเป็นกีฬาที่เยาวชนนิยมเล่น ทางกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ตระหนักถึงความสำคัญจึงร่วมกับมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย จัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 8 คน ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นเวทีให้เด็กเยาวชนได้ใช้ในการแสดงความสามารถ รวมทั้งยังมีเงินรางวัลและเงินสนับสนุนให้รวมแล้วกว่า 1 ล้านบาท”
"นอกจากนี้ ฟุตบอล GLO CUP 2025 เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับประเทศ ที่ทุกคนมีโอกาสพัฒนาตัวเองต่อยอดเพื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพและเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต โดยเราจะส่งเด็กที่มีความสามารถผ่านการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นระดับตำนานทีมชาติไทยอย่าง “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และ ส่งเสริม มาเพิ่ม พร้อมทีมงานที่มีเกณฑ์การคัดเลือกอย่างเคร่งครัดเพื่อ ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยระยะเวลา 6 เดือน ตามแนวทาง Japan Way ในระดับเยาวชน U13 และ U15 กับสโมสรชั้นนำของเจลีกอย่าง อวิสปา ฟุกุโอกะ ที่ถือเป็นแหล่งผลิตนักฟุตบอลคุณภาพของญี่ปุ่นสู่เวทียุโรป และมีอะคาเดมีที่ได้รับคําชมจากเจลีกว่ามีแนวทางการพัฒนาที่เยี่ยม ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่หาได้ยาก”
“ในรายการนี้เรายังได้รุ่นพี่นักฟุตบอลดังระดับทีมชาติไทยอย่าง เจ-ชนาธิป สรงกระสินธิ์ และ มุ้ย- ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะให้คำแนะนำเยาวชนของเราในฐานะรุ่นพี่ที่เคยไปสร้างชื่อในเวทีเจลีกของญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนเด็กที่ได้รับการคัดเลือกจะเดินทางไปพบกับประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง”
ด้าน “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ประธานมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทยและสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน GLO Cup 2025 กล่าวถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า ว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันการพัฒนาเด็กไทย และจะเป็นการช่วยเฟ้นหาเด็กฝีเท้าดีใหม่ ๆ เข้าสู่ทีมชาติชุดยู17 ชิงแชมป์โลก ซึ่งจะมีการจัดแข่งขันทุกปี
“ทางมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย ได้รับความกรุณาจาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเฉพาะท่านปลัดกระทรวงการคลัง (ลวรณ แสงสนิท) ท่านมีแนวคิดว่า จะทำอย่างไรให้ฟุตบอลไทยพัฒนา”
“เลยมีโอกาสไปนำเสนอว่า ฟุตบอลที่มูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทยต้องการจะจัดการแข่งขัน จะจัดในรูปแบบใหม่ เพราะเด็กไทย จะต้องปลูกฝังให้มีวิธีคิดในการเล่น เลยมีการนำเสนอและทางท่านปลัดฯ ก็มีความสนใจ”
“อย่างในรุ่น 13 ปี เราพยายามปลูกฝังให้เริ่มเล่นจากฟุตบอล 8 คน ที่ตั้งเกมจากแดนหลัง เพราะว่าทั้งในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีความนิยมกันมาก เพราะถือว่าให้เด็กได้มีโอกาสได้สัมผัสได้บอลได้มากขึ้น เป็นการโชว์ทักษะมากขึ้น แต่เรามีการเพิ่มวิธีการ Build Up จากแดนหลัง เพราะว่าเด็กไทยชอบเตะทิ้งเตะกว้าง”
“การ Build Up จากแดนหลัง คือ ผู้รักษาประตู บอลออกจากเท้า จะต้องส่งให้กองหลัง Build Up ขึ้นมา ห้ามเตะเกินครึ่งสนาม แล้วอย่างที่สอง คือ เรื่องของการเข้าทำประตู เราให้โหม่งได้ แต่เป็นลักษณะโหม่งย้อน ห้ามโหม่งทำประตู เพราะว่าเราอยากให้ผู้เล่นแถวสองเข้าไปซัพพอร์ต เพราะว่าผู้เล่นบ้านเราเนี่ย การซัพพอร์ตช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่อนข้างมีปัญหา ในเรื่องของการสร้างสรรค์เกมรุก เลยเป็นกุศโลบายในการที่จะวางกฎระเบียบ เพื่อให้เด็กได้มีวิธีคิดมากขึ้น มีประโยชน์ในการเล่นมากขึ้น”
“ส่วนรุ่น 15 ปี จะเป็นฟุตบอล 8 คนเหมือนกัน แต่ว่าจะมีการ Build Up จากแดนหลัง เพราะเราต้องการให้เป็นบอลเท้าสู่เท้า เล่นด้วยความรวดเร็ว แต่สามารถโหม่งทำประตูได้”
“พอมีการนำเสนอไป ก็มีความเห็นที่ดี ที่เด็กๆ จะได้มีวิธีการเล่นใหม่ๆ ที่นอกกรอบ มีวิธีการเล่นที่ทันสมัยขึ้น เลยให้การสนับสนุนขึ้นมา”
“กิจกรรมนี้ นอกเหนือจากจัดให้เด็กๆ ทั้งประเทศที่มีโอกาสลงเล่นแล้ว ก็จะมีการมอบลูกฟุตบอล และมีโค้ชอย่าง อ.ส่งเสริม มาเพิ่ม รวมทั้งโค้ชที่จบโปร ไลเซนส์ อย่าง พ.ต.ภาณุพงศ์ ผิวอ่อน และอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ ที่ผ่านการอบรมโค้ชมาร่วมทำกิจกรรมในการที่จะพัฒนา การเล่นฟุตบอลของน้องๆ ในรูปแบบฟุตบอลคลินิก เป็นแบบ Trial Day วันศุกร์ 5 - 6 วัน โดยจะมีรอบคัดเลือก 48 ทีม และคัดเด็กทั้งหมดมาทำกิจกรรมร่วมกัน ในรอบ Trial Day มาหานักฟุตบอลที่ดี ที่มีคุณภาพ มาเก็บเป็นข้อมูล แล้วมาแข่งขันในรอบชิงแชมป์ภาค และชิงแชมป์ประเทศไทย โดยจะจัดด้วยกัน 7 สถานที่ ทั่วประเทศ โดยทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน จะคัดเลือกเจ้าภาพ”
“โดยโรงเรียนที่เข้ามาแข่งขัน จะได้ทุนการศึกษา ทุกโรงเรียนด้วย ทาง GLO Cup จะมีการทุนการศึกษา ค่าเดินทางให้ และในรอบสุดท้าย เราจะคัดเด็กอายุ 13 ปี 3 คน รุ่นอายุ 15 ปี 3 คน ไปทำการฝึกซ้อมที่ ประเทศญี่ปุ่น โดย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
“แล้วถ้าเด็กสามารถต่อยอดได้ พัฒนาได้ มีสโมสรให้ความสนใจ ทาง GLO โดยเฉพาะผม ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน จะพูดคุยกับสโมสรที่สนใจเรื่องโอกาสในการเซ็นสัญญา รวมถึงเรื่องการศึกษาที่จะต้องไปจัดการที่นั่นด้วย ควบคู่กับการประเมินผลงานผลงานของเด็กด้วยในการเก็บตัวว่า พอไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ผลงานเป็นแบบไหนอย่างไร”
“นอกจากนี้ โรงเรียนที่เด็กผ่านเข้าไปฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่นก็จะมีการมอบเงินทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนนั้นๆ ด้วยที่สามารถพัฒนาเด็กได้ดี และแน่นอนว่าเด็กๆในกลุ่มนี้ที่เรามุ่งมั่นในการพัฒนาเขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟีฟ่าได้ตัดสินใจขยายการจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (FIFA U-17 World Cup) ให้ครอบคลุม 48 ทีมและจัดขึ้นเป็นประจําทุกปีแทนที่จะเป็นทุกสองปี ทำให้เรามีเป้าหมายที่จะต้องพาทีมชาติไทยเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์นี้ให้ได้”
นอกจากนี้ ฟุตบอล GLO CUP 2025 ยังมีเงินสนับสนุนและเงินรางวัลให้แต่ละทีมรวมแล้วกว่า 1,000,000 บาท แบ่งเป็น
เงินสนับสนุนทีม รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี
รอบภาค 24 ทีม (2 รุ่น) เงินบำรุงทีม ทีมละ 5,000 บาท
ทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย
เงินบำรุงทีมทีมละ 10,000 บาท
เงินรางวัลทีมรอบสุดท้าย ( 2 รุ่น )
ทีมชนะเลิศ จำนวน 300,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 100,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับที่ 2 จำนวน 50,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับที่ 3 จำนวน 20,000 บาท
สำหรับ การแข่งขันฟุตบอล 8 คน เยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ เยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 3 - 19 พฤษภาคม 2568 โดยสามารถติดต่อดาวน์โหลดใบสมัครได้ที glocup.com/register หรือ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่เพจ GLO Cup และ สอบถามรายละเอียดได้ทีเบอร์ 088-617-5678