คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
โคเวนทรี้ ซิตี้ สโมสรนี้แฟนบอลยุคทศวรรษที่ 90 รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเคยโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฉายาที่คนไทยเรียกกันก็คือ "ช้างกระทืบโรง" แต่จริงๆ แล้วนิกเนมคือ "เดอะ สกาย บลูส์"
ปีสุดท้ายของ โคเวนทรี้ บนลีกสูงสุดคือฤดูกาล 2000-01 โดยตกชั้นในอันดับที่ 19 พร้อมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แบร็ดฟอร์ด ซิตี้ ทั้งที่ปีนั้นอัดแน่นไปด้วยนักเตะชื่อดังที่คุ้นหูกันดีอย่าง แม็กนุส เฮดแมน, จอห์น ฮาร์ทสัน, มุสตาฟา ฮัดจิ และ เคร็ก เบลลามี่ มิหนำซ้ำเคยกระเด็นไปถึง ดิวิชัน 4 หรือ ลีก ทู ฤดูกาล 2017–18 ส่วนตอนนี้สามารถไต่ขึ้นมาอยู่ระดับ แชมเปียนชิป ได้แล้ว
ภายใต้การคุมทัพของ มาร์ค โรบินส์ ตั้งแต่ปี 2017 โคเวนทรี้ ทำผลงานยอดเยี่ยมได้แชมป์ ลีก วัน ฤดูกาล 2019–20 ทว่าซีซั่นนี้ 2024-25 ออกสตาร์ทไม่ดีรั้งอันดับ 17 เหนือโซนตกชั้นจาก แชมเปียนชิป เพียง 2 แต้มเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
บอร์ดบริหารของ โคเวนทรี้ ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการไล่ โรบินส์ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนๆ เนื่องจากกุนซือคนนี้พิสูจน์ฝีมืออยู่กับทีมมาถึง 8 ปี โดยเมื่อฤดูกาล 2023–24 เคยพาทีมเข้าถึงรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ อีกด้วย ก่อนจะแพ้จุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เสียงวิจารณ์จากแฟนบอลเริ่มหนาหู เนื่องจากว่าคนที่ถูกเลือกมาแทนของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ไม่เคยพิสูจน์ผลงานอะไรเลยจากการที่เคยคุม ดาร์บี้ เคาน์ตี้, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน และกลับมา เชลซี ในฐานะกุนซือชั่วคราว ดีที่สุดคือเคยได้รองแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 2019-20 ยิ่งบรรดากุนซือจากยุคโกลเดนเจเนเรชั่นสมัยเป็นนักเตะอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด, แกรี เนวิลล์ รวมถึง เวย์น รูนีย์ ต่างไม่มีใครไปได้สวยเลยสักคน
จากการไม่คาดหวัง แลมพาร์ด ทำผลงานดีเกินคาดนำ โคเวนทรี้ เก็บชัยชนะ 8 นัดจาก 11 นัดนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ทำให้พุ่งขึ้นมามีแต้มเท่ากับจ่าฝูง ลีดส์ ยูไนเต็ด ล่าสุดลงเตะไปแล้ว 42 นัดมี 63 แต้มรั้งอันดับ 6 คือพื้นที่สุดท้ายในการลุ้นเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ขณะที่โปรแกรมเหลืออีก 4 นัด
อย่างที่บอกไปแล้วว่า โคเวนทรี้ นั้นเวลานี้รั้งที่ 6 คืออันดับสุดท้ายที่จะได้เพลย์ออฟ ดังนั้นจากนี้ห้ามตกกว่านี้โดยเด็ดขาด ซึ่งการที่มี 63 แต้มนั้นไม่ปลอดภัย เพราะยังมีอีก 3 ทีมที่มี 60 แต้มหายใจรดต้นคออยู่คือ เวสต์ บรอมวิช, มิดเดิลสโบรช์ และ มิลล์วอลล์
ขณะที่โปรแกรมอีก 4 นัดที่เหลือจากนี้ของ โคเวนทรี้ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะต้องเปิดบ้านเจอกับ เวสต์ บรอมวิช ที่จะมาตัดแต้มกันเอง ตามด้วยไปเยือน 2 นัดคือกับ พลีมัธ และ ลูตัน ทาวน์ ก่อนที่จะกลับไปเล่นในบ้านปิดท้ายพบ มิดเดิลสโบรช์
ปิดท้ายตรงนี้ขออัพเดตสถานการณ์ของทีมอื่นๆ ในศึก แชมเปียนชิป กันหน่อย โดยอันดับ 1 และ 2 ที่จะได้เลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ ลีก แบบอัตโนมัติคือ ลีดส์ กับ เบิร์นลีย์ มี 88 แต้มเท่ากันแข่งเท่ากัน 42 นัด ส่วนอันดับ 3-6 ที่จะต้องมาเพลย์กันไล่เรียงดังนี้คือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 83 แต้ม, ซันเดอร์แลนด์ 76 แต้ม, บริสตอล ซิตี้ 64 แต้มและ โคเวนทรี้ 63 แต้ม