“ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ยอมรับว่าถึงกับต้องเรียกทีมงานมาประชุมปรับแผนรับมือด่วน หลัง “มาซาอากิ โนอิริ” กำปั้นชาวญี่ปุ่น หักปากกาเซียนเอาชนะทีเคโอ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เฉพาะกาล ไปครอง ในศึก ONE 172 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ชัยชนะของ “มาซาอากิ” ในวันนั้นเรียกได้ว่าเป็นผลการแข่งขันที่ไม่มีใครคาดคิด แม้แต่ตัว “ซุปเปอร์บอน” เอง ซึ่งหลังจบการแข่งขันได้ไม่นาน เขาจึงรีบเรียกทีมงานคุณภาพของตัวเอง ซึ่งประกอบด้วย “เทรนเนอร์เก”, “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” และ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” มาประชุมด่วน เพื่อปรับแผนการเตรียมความพร้อมรับมือ “มาซาอากิ” ทันที
"ผมตกใจกับผลการแข่งขันวันนั้นนะเพราะทีแรกผมเตรียมความพร้อมที่จะป้องกันแชมป์คิกบ็อกซิ่งกับ ตะวันฉาย เอาไว้แล้ว แต่กลายเป็นว่าจะต้องเจอกับ มาซาอากิ ผมก็เลยต้องเรียกประชุมทีมเปลี่ยนแผนรับมือกันคร่าว ๆ เอาไว้ก่อนครับ"
"ผมมองว่าสาเหตุที่ ตะวันฉาย แพ้เป็นเพราะชกผิดฟอร์มไปเอง น้องเขาเตะซ้ายน้อยมาก หมัดที่เคยออกได้ดีก็ไม่ค่อยออก บวกกับพลาดแทงเข่าแบบหงายหลังด้วย ทำให้โดน มาซาอากิ สวนหมัดชุดกลับมา และผมเชื่อว่าสภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาว อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฟอร์มของน้องเขาออกมาไม่ดีเท่าที่ควรด้วยครับ"
ชัยชนะทีเคโอเหนือยอดนักชกอย่าง “ตะวันฉาย” ทำให้ “ซุปเปอร์บอน” ยอมรับตามตรงว่ามีมุมมองต่อ “มาซาอากิ” เปลี่ยนไปจากม้านอกสายตากลายมาเป็นนักชกสุดอันตรายที่ไม่สามารถประมาทได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม “จอมเตะก้านคอจากพัทลุง” ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง จาก “มาซาอากิ” ได้แน่นอน
"พูดตรง ๆ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องป้องกันแชมป์กับ มาซาอากิ เพราะผมมองว่าเขายังห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่อีกเยอะ แต่พอเขาชนะน็อก ตะวันฉาย ได้ ผมก็มองเขาในมุมที่เปลี่ยนไป ผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นนักมวยประเภทวางแผนแก้เกมดี ซึ่งแน่นอนว่าผมจะประมาทเขาไม่ได้เลย"
"จากเท่าที่ศึกษามา ผมเห็นว่า มาซาอากิ มีหมัดฮุกซ้ายที่น่ากลัว แต่ถ้าเทียบกับคู่ชกหลาย ๆ คนที่ผมเคยชกมาก่อน เช่น มารัต (กริกอเรียน) ผมยังมองว่า มารัต หมัดหนักกว่าและใช้หมัดชุดได้ดีกว่า มาซาอากิ พอสมควร ส่วนอาวุธอย่างอื่นของเขาไม่น่ากังวลเท่าไหร่ ถ้าหาทางป้องกันหมัดเขาได้ก็น่าจะชนะเขาได้ครับ"