ในช่วงปลายปีนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หรือ ซีเกมส์ 2025 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 แน่นอนว่า "เทนนิส" เป็นอีกหนึ่งกีฬาความหวังของทัพนักกีฬาไทยที่จะคว้าเหรียญทองได้เหมือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าชาติในอาเซียนจะเป็นคู่แข่งกันในซีเกมส์ แต่การช่วยกันพัฒนาวงการกีฬาของเพื่อนบ้านในอาเซียนก็เป็นสิ่งที่ทุกชาติคำนึงถึง และให้ความร่วมมือที่ดีกันตลอดมา รวมทั้งเทนนิสก็ยึดถือแนวทางนี้ตลอดมา เพื่อช่วยกันสร้างนักเทนนิสอาเซียนก้าวสู่เวทีโลกหรือนานาชาติให้มากขึ้น
แนวทางที่ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ จะช่วยเหลือ และสนับสนุนนักเทนนิสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือการมอบสิทธิพิเศษในการแข่งขัน (ไวลด์การ์ด) ให้กับนักหวดมือดีที่อันดับโลกยังไม่ถึงเกณฑ์ เพื่อให้ได้มาร่วมแข่งขัน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจ พัฒนาฝีมือต่อยอดไปในวันข้างหน้า
สมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ได้มอบไวลด์การ์ดในการเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “ไอทีเอฟ วีเมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์” ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี 2 สัปดาห์ ช่วงวันที่ 17-30 มี.ค. 2568 ให้แก่นักหวดของสิงคโปร์อย่าง ออเดรย์ ถง วัย 18 ปี และ อีวา มารี เดวิญส์ วัย 16 ปี สองดาวรุ่งที่เป็นกำลังสำคัญของวงการหวดลูกสักหลาดของสิงคโปร์ เพื่อเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ได้มาทดสอบฝีมือ
ออเดรย์ ถง เป็นหนึ่งในนักหวดทีมชาติสิงคโปร์ชุดสู้ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา และเป็นลูกสาวของ เอ็ดวิน ถง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒธรรม สังคม เยาวชน และกีฬาของประเทศสิงคโปร์
ขณะที่ อีวา มารี เดวิญส์ ปัจจุบันมีอันดับเยาวชนโลกอยู่ที่ 243 เยาวชนโลก และยังเคยได้แชมป์ไอทีเอฟจูเนียร์มาแล้ว 2 รายการ ซึ่งหนึ่งแชมป์ได้จากการแข่งขันที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี รายการ PTT ITF Juniors J4 เมื่อปี 2022
ทั้ง ออเดรย์ ถง และ อีวา มารี เดวิญส์ เป็นนักเทนนิสความหวังของสิงคโปร์ยุคใหม่ ที่สร้างนักเทนนิสขึ้นมาเพื่ออนาคต โดย ออเดรย์ ถง เล่าถึงจุดเริ่มเล่นเทนนิสว่า พ่อแม่แนะนำให้เล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ซึ่งตอนนั้นสนุกกับการเล่นเทนนิสมาก จึงเล่นมาเรื่อย ๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดีมากจากพ่อแม่ จนเริ่มจริงจัง และติดทีมชาติ
พรสวรรค์ ทักษะ เมื่อมารวมกับกำลังใจและองค์ประกอบอื่น ๆ อย่างถูกที่ถูกเวลาแล้ว ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในช่วงรอสิงคโปร์ประกาศอย่างเป็นทางการ โดย ออเดรย์ เคยติดทีมชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี มาแข่งขันรายการเยาวชนที่ประเทศไทย ทำให้ได้สัมผัสกับศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี มาแล้ว แต่การกลับมาครั้งนี้ ไม่ได้มาด้วยการเป็นนักเทนนิสเยาวชนเหมือนวันนั้น เพราะการได้มาเจอกับรายการเทนนิสอาชีพ ย่อมต้องเจอคู่แข่งในอีกระดับหนึ่ง
ออเดรย์ ถง และ อีวา มารี เดวิญส์ ตัดสินใจที่มาแข่งขันรายการอาชีพ ซึ่งการได้ไวลด์การ์ดมาแข่งขันที่ประเทศไทย ทำให้ได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับไปมากมาย เนื่องจากเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากการมาแข่งขันตอนเป็นเยาวชน ทั้งคู่แข่ง ความเข้มข้นในการแข่งขัน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องกลับมาเจอกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งในซีเกมส์ที่จะถึงนี้
"สิงคโปร์ได้เหรียญจากเทนนิสในซีเกมส์ครั้งสุดท้าย เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ครั้งนี้หวังเหมือนกันว่า เราจะทำได้ที่ประเทศไทย โดย สเตฟานี่ ถัน ที่ได้เหรียญทองแดง เมื่อ 8 ปีก่อน ก็เป็นโค้ชที่ช่วยดูแลการซ้อมอยู่ด้วย มั่นใจว่าความสำเร็จของ สเตฟานี่ จะช่วยให้ทีมเทนนิสสิงคโปร์มีลุ้นเหรียญมากขึ้น" ออเดรย์ ถง กล่าว
ออเดรย์ มองว่า วงการเทนนิสสิงคโปร์ยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาตัวเองขึ้นมา ดังนั้น การได้รับโอกาสที่ดีได้ไวลด์การ์ดรายการอาชีพที่ประเทศไทยมอบให้ และการออกไปแข่งขันนอกประเทศ รวมทั้งการจัดการแข่งขันเทนนิสรายการใหญ่ในประเทศตัวเอง จะทำให้เทนนิสสิงคโปร์เติบโตและประสบความสำเร็จได้ในเร็ววันนี้
นอกจากนักเทนนิสดาวรุ่งของสิงคโปร์ที่มาร่วมแข่งขันแล้ว ยังมีนักเทนนิสจาก อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มาร่วมการแข่งขันที่ประเทศไทย ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย ซึ่งสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ได้จัดการแข่งขันทั้งรายการของนักเทนนิสชายและหญิงควบคู่กันไป
ปลายปีนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้ ออเดรย์ ถง และ อีวา มารี เดวิญส์ สองนักเทนนิสดาวรุ่งของสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นดาวรุ่งของอาเซียน ลุ้นให้ทั้งคู่ได้ติดทีมชาติสิงคโปร์กลับมาเยือนบ้านเราอีกครั้ง รวมถึงนักเทนนิสชาวอาเซียนอีกหลายคนที่ลัดฟ้ามาสัมผัสสังเวียนซีเกมส์เพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้า และที่สำคัญคือ นักเทนนิสทีมชาติไทยของเรา เพื่อมาลุ้นกันว่า เหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยบ้านเรา จะเป็นของประเทศใดบ้าง