ลิเดีย โค โปรมืออันดับสามของโลกจากนิวซีแลนด์ รักษาฟอร์มเหนียวหวดเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จบด้วยสกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 คว้าแชมป์เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามเซนโตซา กอล์ฟ คลับ ตันจงคอร์ส ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี อาฒยา ฐิติกุล โปรมือสองของโลก อายะกา ฟุรุเอะ จากญี่ปุ่น รั้งรองแชมป์ร่วมกันด้วยสกอร์ตามหลัง 4 สโตรค (ภาพ: BGB Images)
แอลพีจีเอทัวร์จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นรายการเมเจอร์หญิงแห่งเอเชีย จัดขึ้นเป็นปีที่ 17 ชิงเงินรางวัลรวม 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 80 ล้านบาท แข่งขันแบบไม่มีการตัดตัว ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคมที่ผ่านมา มีเหล่านักกอล์ฟระดับโลกเข้าแข่งขัน 66 คน โดยเป็นผู้เล่นชาวไทย 7 คน ได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล, เอรียา-โมรียา จุฑานุกาล, ชเนตตี วรรณแสน, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, อาภิชญา ยุบล และจัสมิน สุวัณณะปุระ
ปิดฉากการชิงชัยปรากฎว่า ลิเดีย โค โปรสาวมือสามของโลกจากนิวซีแลนด์ ซึ่งออกสตาร์ทรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำหนึ่งสโตรค รักษาฟอร์มเหนียวหวดได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จากการทำ 5 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ รวมสี่วันมี 13 อันเดอร์พาร์ 275 คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นรายการที่ 23 ให้กับตัวเอง พร้อมรับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 12 ล้านบาท
โค เจ้าของ 3 แชมป์เมเจอร์ วัย 27 ปี เผยหลังคว้าแชมป์เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นครั้งแรก หลังลงเล่นมา 12 ครั้งว่า “เมื่อคืนฉันฝันว่าฉันชนะ แล้วก็ตื่นขึ้นมาและคิดว่านี่มันยังไม่ใช่เรื่องจริง สกอร์สัปดาห์นี้ก็สูสีมาก มีการเปลี่ยนแปลงตลอด ฉันแค่อยากจะโฟกัสที่เกมของตัวเองและพยายามเล่นในสบาย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันชนะในเอเชียสวิง ดังนั้นการคว้าแชมป์รายการใหม่สำหรับฉันก็เป็นเรื่องดีแน่นอน แต่เรายังมีฤดูกาลที่ยาวนานรออยู่ข้างหน้า”
ทางด้าน จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล โปรสาวมือสองของโลก รอบสุดท้ายตีเข้ามา 3 เบอร์ดี้ แต่พลาดเสียโบกี้ที่หลุม 14 พาร์ 3 จบ 18 หลุมเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสี่วันมี 9 อันเดอร์พาร์ 279 เท่ากับ อายะกา ฟุรุเอะ จากญี่ปุ่น ที่หวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 รั้งรองแชมป์ร่วมกัน พร้อมรับเงินรางวัลไปคนละ 195,302 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.6 ล้านบาท
อาฒยา ฐิติกุล ซึ่งคว้าแชมป์ในการลงแข่งรายการแรกของปีให้ตัวเองจากรายการเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ตามด้วยการจบท็อป 3 ในรายการของแอลพีจีเอทัวร์สองสัปดาห์ติดต่อกัน เจ้าตัวกล่าวว่า “สนามที่นี่ไม่ง่ายเลย โบกี้ที่หลุม 17 เพราะตีพลาดไปในที่ๆ ไม่ควรไปเล็กน้อย ทำให้อัพแอนด์ดาวน์ยาก วันนี้เล่นไปตามเกมเรื่อยๆ ไม่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้แชมป์ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงอันดับนี้ด้วยซ้ำ มาอยู่ในก๊วนสุดท้ายได้ถือว่าดีมากแล้ว ลิเดียเป็นคนที่เล่นทุกช็อตดีหมด และถ้าเขานำเขาจะไปได้ไกลมากๆ เล่นไปเรื่อยๆ และเก็บอารมณ์ได้ดี เขาเป็นหนึ่งในคนที่จีนมองเป็นแบบอย่าง ส่วนผลงานผ่านมา 3 รายการก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี และดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องไปปรับปรุงแก้ไขอย่างเรื่องไดร์เวอร์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ส่วนพัตต์ยังใช้ได้ แต่ก็ไม่เครียดมากและไม่ต้องการให้ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบขนาดนั้น”
ขณะที่ดาวดังของโลกอย่าง ชาร์ลีย์ ฮัลล์ มืออันดับ 9 ของโลกจากอังกฤษ ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวมเหลือ 7 อันเดอร์พาร์ 281 จบอันดับ 4 ร่วม, ฮันนาห์ กรีน โปรมือ 6 ของโลกจากออสเตรเลีย และ คิม เอ ลิม ผู้นำสองวันแรกชาวเกาหลีใต้ ตามมาในกลุ่มอันดับ 7 ร่วม ด้วยสกอร์รวมคนละ 6 อันเดอร์พาร์ 282 ส่วน หยิน รัวหนิง มือ 4 ของโลกจากจีน พลาดตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 หล่นมาจบอันดับ 21 ร่วมด้วยสกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 286
ทางด้านผลงานผู้เล่นชาวไทยอีก 6 คน ปาจรีย์ อนันต์นฤการ (74) สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 จบอันดับ 14 ร่วม, โมรียา จุฑานุกาล (72) สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 287 อยู่อันดับ 29 ร่วม, เอรียา จุฑานุกาล (70) สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 289 อันดับ 38 ร่วม, ชเนตตี วรรณแสน (76) สกอร์รวม 6 โอเวอร์พาร์ 294 อันดับ 45 ร่วม, อาภิชญา ยุบล (76) สกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์ 297 อันดับ 52 ร่วม และ จัสมิน สุวัณณะปุระ (72) สกอร์รวม 10 โอเวอร์พาร์ 298 จบอันดับ 55 ร่วม