บลูแคนยอน คันทรี คลับ จังหวัดภูเก็ต เตรียมพร้อมจัดการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอต่อเนื่องเป็นปีที่สอง รายการ "บลูแคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ" เปิดฤดูกาล 2025 แข่งขันระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคมนี้ โดยมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิงเพิ่มขึ้นเป็น 8 แสนเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 27.65 ล้านบาท
นายประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด เป็นประธานแถลงข่าวการกอล์ฟเคแอลพีจีเอโดยมีพันธมิตรและสามนักกอล์ฟรับเชิญอย่าง อาภิชญา ยุบล, จารวี บุญจันทร์, พัชรจุฑา คงกระพันธ์ และ กีรัตริยา ฟูเจริญ ร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
สำหรับกอล์ฟรายการ บลูแคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ ปีนี้มีปรับเปลี่ยนการแข่งขันเป็นแบบสโตรคเพลย์ 4 วัน 72 หลุม โดย นายประพันธ์ เผยถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า "ปีนี้พิเศษและเข้มข้นกว่าเดิม เราได้จัดการแข่งขันรอบควอลิฟายขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามบลู แคนยอน คันทรี คลับ ภูเก็ต และยังรับเชิญนักกอล์ฟชั้นนำจากทัวร์อาชีพอื่นๆ ในเอเชีย มาร่วมแข่งขัน สิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นของวงการกอล์ฟในเมืองไทยและยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟเยาวชนรุ่นต่อๆไป และยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดทั้งในประเทศไทยและเกาหลีใต้ด้วย"
ด้านนายนันทพล ทองนิลพันธ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมพัฒนากีฬาอาชีพ สำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนคือส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนานักกีฬาของไทย โดยกีฬากอล์ฟเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาอาชีพที่ทางเราให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ประเทศไทยมีนักกอล์ฟมากมายและสังคมกอล์ฟในบ้านเราก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นักกอล์ฟของเรามีทักษะและความสามารถที่เรียกได้ว่าเทียบเท่าต่างชาติ เราเห็นการเติบโตและพัฒนาของนักกอล์ฟไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และยังเชื่อว่าต่อจากนี้ วงการกอล์ฟของไทยก็จะขยายขึ้นเรื่อยๆ"
สำหรับนักกอล์ฟที่จะลงชิงชัยในครั้งนี้ประกอบด้วยนักกอล์ฟชั้นนำจากเคแอลพีจีเอ ทัวร์ ร่วมด้วยผู้เล่นอีก 40 คน ที่ได้รับเชิญจากไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต อันดับดีที่สุด 8 คน, เจแปน แอลพีจีเอ ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ดีที่สุด 4 คน, นักกอล์ฟชั้นนำ 2 คนจากอินเดีย, อินโดนิเซีย, ฟิลิปปินส์, จีน, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, เวียดนาม และ มาเลเซีย ทั้งสิ้น 18 คน รวมถึงจากสปอนเซอร์ 7 คน และอีก 3 คนจากรอบเนชั่นเนลควอลิฟายเออร์ส