แอลเอ แรมส์ ถล่ม มินเนโซตา ไวกิงส์ ขาดลอย 27-9 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) "มันเดย์ ไนท์" รอบไวล์ด-การ์ดสายเอ็นเอฟซี (NFC) ซึ่งย้ายจาก เซาเธิร์น แคลิฟอร์เนีย มาที่รัฐอริโซนา เมื่อวันอังคารที่ 14 มกราคม ตามเวลาไทย
แรมส์ แปรความบอบช้ำจากภัยไฟป่าลุกลามทั่วพื้นที่ใจกลางเมือง กลายเป็นพลังของการป้องกันอันแข็งแกร่ง โจมตี แซม ดาร์โนลด์ ควอเตอร์แบ็ก ไวกิงส์ 9 แซ็ก ทาบสถิติสูงสุดของลีก เฉพาะเพลย์ออฟ
แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด ควอเตอร์แบ็ก ขว้าง 2 สกอร์ โดยเกมนี้ แรมส์ เล่นแบบสบายๆ ตั้งแต่สแน็ปแรก บุกทำทัชดาวน์ตั้งแต่ไดรฟ์การบุกชุดแรก และนำห่าง 10-0 หลังจบควอเตอร์ 1
การแข่งขันต้องเปลี่ยนสถานที่มาย่านชานเมืองฟีนิกซ์ ตั้งอยู่ห่าง โซไฟ สเตเดียม เมืองอิงเกิลวูด เกือบ 400 ไมล์ เพื่อความปลอดภัย สำหรับเกมต่อไป แรมส์ จะเดินทางสู่ฝั่งตะวันออก พบ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ รอบดิวิชันแนล
จาเหร็ด เวิร์ส เก็บฟัมเบิลหลัง ดาร์โนลด์ ถูก อเคลโล วิเธอร์สปูน อัดกองกับพื้น บอลกระดอนหลุดจากการครอบครอง แล้ววิ่งย้อน 57 หลาถึงเอนด์ โซน ส่งผลให้ แรมส์ ทิ้งห่าง 17-3
แรมส์ หนีไปเป็น 24-3 หลัง สแตฟฟอร์ด ขว้างบอลให้ เดวิส อัลเลน ปีกใน รับทัชดาวน์ 13 หลา เหลือเวลาครึ่งแรก 15 วินาที จบเกมขว้างคอมพลีต 19 จาก 27 ครั้ง ระยะ 209 หลา และ โจชัว คาร์ตี เตะฟิลด์โกล 44 หลา นำห่าง 27-3 ตั้งแต่ไดรฟ์การบุกชุดแรกของครึ่งหลัง
มินเนโซตา เกือบจุดประกายความหวัง โดย สแตฟฟอร์ด เล่นลูกโชเวล พาสส์ ก่อนถูกอัดล้มลง เบลก แคชแมน เก็บบอลกระดอนออกมา วิ่งย้อนทัชดาวน์ 26 หลา แต่ผู้ตัดสินตรวจสอบภาพรีเพลย์แล้วริบคืน เนื่องจากเป็นการขว้างแล้วรับไม่ได้ (อินคอมพลีต)
นับจากนั้น ไวกิงส์ ไม่ได้สร้างความกดดันแก่คู่แข่งเลย
ไวกิงส์ ชวดคว้าอันดับ 1 ของคอนเฟอเรนซ์ เกมปิดฤดูกาลปกติ แต่ ดาร์โนลด์ ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำหน้าที่ตัวหลักระยะยาว เนื่องจากปัญหาความเฉียบขาดเกมพ่าย ดีทรอยต์ ไลออนส์ สัปดาห์ที่แล้ว หลังหมดสัญญา 1 ปี
ดาร์โนลด์ ดีกรีดราฟต์อันดับ 3 ปี 2018 ขว้างบอลเข้าเป้า 25 จาก 40 ครั้ง ระยะ 245 หลา แต่เสียระยะ 82 หลา จากการเสีย 9 แซ็ก โดยทีมบุก ไวกิงส์ ทำระยะรวม 269 หลา ซึ่งส่วนใหญ่ได้ระยะหลังสกอร์ขาดลอยแล้ว